หากถามว่า มีใครพอจะรู้จักเกม Bomberman กันบ้างมั้ย ถ้าลองได้ถามเด็กยุคนี้ หลายคนคงเกิดไม่ทัน แต่ถ้าเป็นเกมเมอร์ที่อายุ 25 ปีขึ้นไป อาจรู้สึกว่ากำลังเจอดักแก่สินะ ใช่แล้วครับ เจ้าทหารหน้ากากขาวผู้วางระเบิดปกป้องโลกของเรา เป็น 1 ในเกมแนวแอ็กชั่นที่หลายๆ คนมักไปจดจำในโหมดมัลติเพลเยอร์กันซะมากกว่า เพราะเล่นสนุกกันสุดเหวี่ยง แกล้งคนกันแบบไม่แคร์มิตรภาพวันนั้นก็มาเลยดีกว่าอะไรแบบนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วเจ้า Bomberman นี้ถือเป็นเกมที่เป็นเซอร์ไพร์สฮิตของทางค่าย Hudson Soft แบบคาดไม่ถึงเหมือนกัน โดยจุดกำเนิดของเจ้าหนูจอมวางระเบิดนี้มีความน่าสนใจเหมือนกัน เรามาย้อนไปชมที่มาที่ไปของ Bomberman ผู้นี้กันดีกว่าครับ
Bomberman ได้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อคุณ Nakamoto Shinichi (นาคาโมโตะ ชินอิจิ) นักพัฒนาเกมจาก Hudson ที่อยากจะสร้างเกมแนวแอ็กชั่นสักเกมที่มีความแตกต่างจากเกมในท้องตลาดทั่วไป โดยให้มีรูปแบบด่านเหมือนกับเขาวงกตที่เราจะต้องหาทางออก ซึ่งมีศัตรูคอยเอาชีวิตเราอยู่ทั่วทุกที่ และทำให้เขามองว่าหากจะให้แตกต่างจากตลาดยุคนั้น ก็ต้องให้ตัวเอกใช้ระเบิดเป็นอาวุธเสียเลย และระเบิดที่ว่านี้นอกจากทำลายศัตรูแล้ว ยังสามารถทำลายอิฐ บล็อค เพื่อหาทางผ่าน และยังทำลายตัวเราเองได้อีกด้วย ดังนั้นการวางระเบิดของเราก็ต้องหลบจากรัศมีระเบิด นั่นจึงก่อให้เกิดการทำเกม Bomberman ขึ้นมาในที่สุด
เดิมทีนั้นคุณชินอิจิได้คิดว่าจะทำเกมนี้ลงให้บนเครื่อง PC ครับ แต่ ณ เวลาเดียวกัน เครื่อง Famicom ก็ดันเป็นเครื่องคอนโซลที่ป๊อปแบบฉุดไม่อยู่ในตอนนั้น ทำให้คุณชินอิจิเกิดเปลี่ยนใจมาทำเกมลงบนเครื่อง Famicom แทน แต่เนื่องจากเขาพัฒนาเกมไปเกือบจะเสร็จแล้ว การเปลี่ยนมาพอร์ทลง Famicom ทันทีจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าตัวก็เลยจำต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำนานถึง 72 ชั่วโมงอย่างยากลำบากโดยไม่รู้ว่างานที่ออกมาจะเป็นเช่นไร แต่ว่าทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีสมใจ และนั่นทำให้ Bomberman ลงบนเครื่อง Famicom ได้สำเร็จ กระทั่งออกวางจำหน่ายให้แฟนเกมได้เล่นกันอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ คุณชินอิจิมีความต้องการขยายแฟรนไชส์ของเกมนี้ด้วย จึงได้วางเกมเสมือนกึ่งๆภาคต่ออย่าง Lode Runner ขึ้นมา และพัฒนาในช่วงเวลาใกล้ๆ กับ Bomberman โดยเขาได้เปลี่ยน Bomberman ให้ไปเป็นตัวร้ายของเกมนั้นแทนเสียเลย กะว่าจะปิดฉาก Bomberman และปั้น Lode Runner มาแทน แต่ว่าก็เกิดเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่เมื่อ Bomberman ดันขายได้ถึง 1 ล้านชุดที่ญี่ปุ่น ทำให้คุณชินอิจิถึงกับตกใจและเปลี่ยนความคิดอีกรอบ โดยยุบโปรเจ็กต์ Lode Runner ทิ้ง แล้วหันไปพัฒนาภาคต่อของ Bomberman จนมันกลายเป็นเกมซีรีส์สุดฮิตในยุค 90 ไปทันที
ขณะเดียวกัน ในภาคต่อของ Bomberman อย่าง Bomberman 2 ก็ได้มีการใส่โหมดมัลติเพลเยอร์เข้าไปในเกมเป็นครั้งแรก โดยจะเป็นการสู้กันของบอมเบอร์แมนสีขาวและสีดำ โดยภาค 2 นี้แม้จะไม่ได้รับการพูดถึงเท่าที่ควรนัก แต่มันเป็นการวางรากฐานสำคัญในการพัฒนาโหมดมัลติเพลเยอร์ของซีรีส์ Bomberman ในเวลาต่อมา โดยเฉพาะภาคที่ปังที่สุดอย่าง Super Bomberman นั่นเอง
