Odyssey เครื่องเกมเครื่องแรกของโลก
Video Game เกิดขึ้นมานานตั้งแต่ยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่2แล้วครับ และมันก็มีชีวิต ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนยืนหยัดทุกวันนี้ แต่จะมีซักกี่คนรู้เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์หลายๆอย่างที่กำเนิดขึ้นชิ้นแรกๆของมันกันบ้าง
บริษัท Magnavox บริษัทElectronic ชื่อดังในยุค 70 ได้มองถึงเหล่าของเล่นสำหรับเด็กในยุคนั้น จากที่ปกติเกมที่เข้าถึงบ้านในยุคนั้นจะเป็นเพียงแค่ Board Game หรือ ของเล่นต่างๆ Magnavox มองว่าถึงเวลาที่จะปฏิวัติวงการของเล่นให้เป็นดิจิตอลมากขึ้น จึงถือกำเนิดเครื่องเกมเกม Console เครื่องแรกของโลกนามว่า Magnavox Odyssey
Magnavox Odyssey มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมสีขาว มีพื้นด้านบนเป็นสีดำบางส่วนและช่องเสียบตลับบริเวณหน้าเครื่อง พร้อมด้วยคอนโทรเลอร์2อันที่สามารถถอดออกและเสียบเพิ่มได้ คอนโทรเลอร์มีลักษณะเป็นกล่องสีเหลี่ยมขนาดเล็ก และมีตัวหมุนอยู่ข้างๆพร้อมปุ่ม Reset ด้านบน
ส่วนตัวเกม จะใช้สื่อเป็นตลับที่มีลักษณะคล้านแผง Ram PC ที่มีขนาดใหญ่กว่านิดหน่อย โดยเกมจะไม่มีชื่อจะใช้เป็นตัวเลขแทน และทุกๆเกมสิ่งที่มีเหมือนกันเป๊ะคือ มีแทงเรืองแสง2แท่งบนจอ ทุกเกม โดยเราควบคุมเจ้าแท่งเรืองแสงนี้แหละครับ ไม่มีกราฟฟิค ไม่มีดนตรีเสียงเอฟเฟคใดๆ แต่หลายคนน่าจะงงว่า แล้วมันจะมีตลับทำไมในเมื่อเกมเหมือกัน Magnavox Odyssey ภายในกล่องจะแถมแผ่นพลาสติกที่สามารถติดบนทีวีได้ โดยแผ่นพลาสติกนี้จะมีภาพต่างๆ เช่นสนามฟุตบอล บ้านผีสิง เครื่องเล่นในคาสิโน และนี้แหละครับคือวิธีการเล่นเจ้าเครื่องนี้ เจ้ากระดาษพลาสติกนี้คือ กราฟฟิคภายในเกมนั่นเอง
ยกตัวอย่างคุณเล่นเกมเทนนิส เมื่อคุณติดแผ่นพลาสติกบนจอเป็นสนาม คุณก็จะจินตนาการว่าคุณกำลังเล่นเทนนิสนั่นเอง โดยคะแนนคุณก็ต้องมาปรับกันเอาเอง หรือเล่น เกมสกี คุณก็แปะแผ่นพลาสติกบนจอและพยายามเคลื่อนที่แท่งเรืองแสงให้อยู่ในกรอบไปจนถึงเส้นชัย ถ้าพูดแบบไม่รักษาน้ำใจ มันคือ Board Game ที่เล่นบนทีวีเลยครับ แถมคู่มือของเครื่องหนาปึกพอๆกับพจนานุกรม เพราะมันต้องบรรจุวิธีการเล่นเกมต่างๆมาให้หมด จนคุณอ่านกันตาลายเลยทีเดียว
แต่ถ้าเสียดาย ตัวเครื่องแม้จะเป็นการปฏิวัติวงการของเล่น แต่มันมาเร็วเกินไปที่คนจะปรับตัวทัน ทำให้ยอดขายมันไม่ได้หวือหวาอะไรมากมายนัก แต่ว่า Magnavox Odyssey ก็ถือเป็นเครื่องที่เปิดตัววงการ Video Game จนไม่กี่ปีต่อมา Atari ได้สร้าง Atari 2600 มาเขย่าวงการ Video Game นั่นเอง
————————————————
Microvision เครื่องเกมพกพาที่เปลี่ยนตลับได้เครื่องแรก
ถ้าพูดถึงเครื่องเกมพกพา คุณจะนึกถึงอะไร Gameboy NDS Gamegear ซึ่งพวกนี้ถือเป็นยุครุ่งเรืองของเกมพกพา แต่ในยุคสมัยก่อน ยุคที่ Nintendo ยังเป็นบริษัทผลิตของเล่นทั่วไป วงการเกมมี Atari เป็นผู้นำ เรื่องของเครื่องเกมพกพายังคงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเน้นเท่าไรนัก เครื่องเกมพกพายุคนั้นจะเป็นเครื่องเกมที่ดัดแปลงมาจากเครื่องคิดเลข กราฟฟิคแสดงจำกัด เช่น Game & Watch ซึ่ง1เครื่องเท่ากับ1เกมเท่านั้น
แต่นั่นไม่ใช่วิสัยทัศน์ของบริษัทนามว่า Milton Bradley บริษัทผลิตBoard Game ที่มีความคิดถึงเครื่องเกมพกพาที่สามารถเปลี่ยนเกมเล่นได้ในเครื่องเดียว ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่อง นั่นจึงเป็นที่มาของ Microvision เครื่องเกมพกพาที่เปลี่ยนตลับได้เครื่องแรกของโลก
Microvision มีลักษณะคล้ายกับรีโมททีวี มีหน้าจออยู่ตรงกลาง และปุ่มล่างหน้าจอ ท้ายสุดเครื่องมีแท่นหมุนไว้แทนปุ่มทิศทาง หน้าจอของเคืร่องเล็กพอสมควร และมันสามารถเปลี่ยนเกมได้ด้วยการถอดหน้ากากด้านหน้าเครื่องออกหมด และเปลี่ยนหน้ากากใหม่เข้าไปแทน เครื่องใช้แบตเตอรี่ 9 Volt (แบตเตอรี่เหลี่ยม) 1ก้อนในการทำงาน
แม้ว่าไอเดียของเครื่องเกมชิ้นนี้จะดูดีมากในสมัยนั้น แต่มันกลับไม่ได้สร้างปรากฏการณ์แต่อย่างใด สิ่งแรกคือแม้จะมีการเปลี่ยนตลับ แต่คุณภาพของตัวเกมโดยรวมไม่ได้แตกต่างจากพวกเครื่องเกมพกพาจากเครื่องคิดเลข รูปแบบการเล่นเดิมๆ และกราฟฟิคที่คล้ายๆกัน และที่ถูกตำหนิที่สุดดันเป็นเรื่องที่บริษัทเกมภูมิใจในเทคโนโลยีของมัน คือการเปลี่ยนตลับ ที่ได้รับเสียงบ่นมากมายว่าเปลี่ยนลำบาก และพกพาไม่สะดวกเอาเสียเลย รวมถึงตัวเกมไม่ได้มีราคาถูกด้วย สุดท้าย Microvision ก็ไม่สามารถตีตลาดเครื่องเกมพกพาได้ และค่อยๆหายไปจากวงการด้วยเกมที่ออกมาเพียง 12 เกม ตลอดชีวิตตั้งแต่มันออกจำหน่ายปี 2522 จนถึง 2525 เป็นเวลา 3ปี
แต่อย่างน้อยสิ่งที่ Microvision ทิ้งไว้ ก็กลายเป็นเทคโนโลยีที่ Nintendo นำมาใช้ และกลายร่างเป็น Gameboy เครื่องเกมพกพาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเคืร่องนึงในประวัติศาสตร์ รวมถึงเป็นสัญญาณการมาของเครื่องเกมพกพา แม้ว่ามันต้องใช้เวลาหลังจากการปิดฉาก Microvision ถึง 7 ปีก็ตาม