วันวานยังหวานอยู่ รวมฮิต 10 อันดับเกมขายดีที่สุดในยุค PlayStation (PS1)
เมื่อปลายปี 2557 ทาง Sony เพิ่งจะฉลองครบรอบแบรนด์ PlayStation ที่มีอายุครบ 20 ปีพอดิบพอดี โดย PlayStation ได้กระโดดมาร่วมวงในสมรภูมิเครื่องคอนโซลในยุคเจเนอเรชั่นที่ 5 ซึ่ง 4 ยุคก่อนหน้านั้นมีเครื่องเกม Nintendo เป็นเจ้าพ่อที่ยึดส่วนแบ่งตลาดรายใหญ่อยู่ (เพื่อนๆ ที่อายุ 30 ปีขึ้นไปน่าจะเคยได้จับเครื่อง Famicom หรือ Super Famicom กันมาบ้าง) แต่พอมีการเข้ามาของ PlayStation มันก็ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของผู้นำตลาดคอนโซลไปอย่างสิ้นเชิง เริ่มจากการเปลี่ยนสื่อการเล่นจากเดิมที่ใช้ตลับเกมมาเป็นแผ่นซีดีแทน รวมทั้งการเดินหน้าเข้าสู่ยุคที่เกมต่างๆ เริ่มใช้กราฟิกแบบ 3D เต็มตัว ทำให้การเล่าเรื่องผ่านในหลายๆ เกมดูมีความสมจริงคล้ายกับชมภาพยนตร์มากขึ้น และรอบนี้ทีมงาน play จะขอนำเสนอ 10 อันดับเกมที่มียอดขายสูงสุดในยุค PlayStation หรือ PS1 ให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ
อันดับ 10 – Tomb Raider
ยอดขาย – 7 ล้านชุด
เริ่มวางจำหน่าย – 15 พฤศจิกายน 2539
พัฒนาโดย – Core Design
กว่าที่ซีรีส์ Tomb Raider จะถือกำเนิดขึ้นมา ก่อนหน้านั้นสื่อบันเทิงที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับการล่าขุมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมจนโด่งดังไปทั่วโลก น่าจะมีชื่อของภาพยนตร์เรื่อง อินเดียน่า โจนส์ ลอยขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ แน่นอน แต่แล้วในวงการเกมก็ได้สร้างฮีโร่หญิงคนใหม่นามว่า ลาร่า ครอฟท์ (Lara Croft) ขึ้นมาเพื่อเป็นตัวเอกให้กับซีรีส์ใหม่ที่มีชื่อว่า Tomb Raider (จริงๆ ต้องอ่านว่า ทูม เรดเดอร์ นะครับ ไม่ใช่ ทูม ไรเดอร์) และจากเกมเพลย์ที่แปลกใหม่ผสมผสานกับกราฟิกที่เข้าสู่ยุค PS1 ซึ่งเป็นภาพแบบ 3D จึงช่วยดันให้กระแสความนิยมที่มีต่อเกมนี้พุ่งแบบฉุดไม่อยู่ อีกทั้ง ลาร่า ครอฟท์ ก็ได้กลายเป็น 1 ในสัญลักษณ์ของวงการเกมมานับแต่นั้น กระทั่ง Tomb Raider ได้ทำภาคต่อออกมามากมาย และล่าสุดก็มีการรีบูตรอบที่ 2 ไปเมื่อปี 2556 และมีภาคต่อออกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วภายใต้ชื่อ Rise of the Tomb Raider ครับ
อันดับ 9 – Metal Gear Solid
ยอดขาย – 7.1 ล้านชุด
เริ่มวางจำหน่าย – 3 กันยายน 2541
พัฒนาโดย – Konami
เชื่อว่า 1 ในความฝันของเกมเมอร์ในยุคนั้นน่าจะต้องเคยอยากเล่นเกมแนวสายลับที่มีกราฟิกแบบ 3D พร้อมด้วยแนวเกมแบบลอบเร้น พ่วงภารกิจจารกรรมสุดมันส์และเนื้อเรื่องที่เข้มข้นสักเกมให้ได้ลิ้มลองบ้าง ในที่สุด ฮิเดโอะ โคจิม่า ก็คือชายหนุ่มที่ลงมาโปรดเกมเมอร์เหล่านั้นด้วยการพัฒนา เขียนบท และลงมือกำกับภาคใหม่ของซีรีส์ Metal Gear ที่มีชื่อว่า Metal Gear Solid ด้วยตนเอง โดยผู้เล่นจะได้รับบทเป็น โซลิด สเนค สุดยอดทหารที่ต้องแทรกซึมไปในโรงงานผลิตอาวุธนิวเคลียร์บนเกาะ Shadow Moses เพื่อยับยั้งแผนก่อการร้ายของกลุ่ม Foxhound และหาทางช่วยตัวประกันอีก 2 คนที่เป็นบุคคลสำคัญออกมาให้ได้
อันดับ 8 – Crash Bandicoot 3: Warped
ยอดขาย – 7.13 ล้านชุด
เริ่มวางจำหน่าย – 31 ตุลาคม 2541
พัฒนาโดย – Naughty Dog
บอกไปจะมีใครเชื่อมั้ยละครับว่า ก่อนที่ค่าย Naughty Dog จะโด่งดังจากผลงานการพัฒนาเกม Uncharted ทั้ง 4 ภาค และ The Last of Us จนได้รับความนิยมถล่มทลายในยุค PS3 และ PS4 บริษัทพวกเขาเคยเกือบตกอยู่ในภาวะล้มละลายมาก่อน ทว่าพวกเขาก็ยังขอดิ้นรนอีกเฮือกด้วยการพัฒนาเกมซีรีส์ใหม่แนวแอ็กชั่นปนฮาที่มีชื่อว่า Crash Bandicoot เป็นไพ่ตายสุดท้าย…และมันก็ได้ผลเกินคาดครับ เมื่อ Crash Bandicoot ภาคแรกสามารถทำยอดขายสูงเป็นอันดับ 11 ของยุค PS1 จนสถานะทางการเงินของ Naughty Dog กลับมาคืนชีพอีกครั้ง ส่วน Crash Bandicoot 3: Warped ที่เพื่อนๆ เห็นรูปปกเกมข้างบนนี้เป็นภาคที่ 3 ของซีรีส์ และเป็นภาคสุดท้ายที่ทาง Naughty Dog ได้ลงมือพัฒนาเอง ก่อนจะส่งไม้ต่อไปให้ค่ายอื่นพัฒนาแทนในที่สุด
อันดับ 7 – Tomb Raider II
ยอดขาย – 8 ล้านชุด
เริ่มวางจำหน่าย – 31 ตุลาคม 2540
พัฒนาโดย – Core Design
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของเกมที่ทำยอดขายภาคแรกได้ทะลุเป้าครับ ว่ายังไงทีมพัฒนา Tomb Raider ก็ต้องเร่งทำภาค 2 ออกตามมาทันที โดยเรื่องราวในภาคนี้ได้กล่าวถึงตำนานมีดอาถรรพ์ ที่จักรพรรดิของจีนในยุคโบราณได้เคยใช้มันเพื่อควบคุมกองกำลังทหาร แถมยังมีพลังวิเศษที่เปลี่ยนร่างของผู้ใช้ให้กลายเป็นมังกรได้เพียงแค่นำมีดดังกล่าวแทงเข้าที่หัวใจ ซึ่งเรื่องเล่าขานนี้ได้สิ้นสุดลงเมื่อมีนักบวชจากทิเบตคนหนึ่งได้ทำการถอนมีดที่ปักอกองค์จักรพรรดิได้สำเร็จ และนำมีดนั้นไปซ่อนไว้ในกำแพงเมืองจีนสืบมา กระทั่งยุคปัจจุบัน สาวลาร่าของเราก็ได้ออกตามล่ามีดเล่มนี้เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับตำนานมีดอาถรรพ์อีกครั้ง นอกจากนี้ ในช่วงที่ภาค 2 วางจำหน่าย ความดังของลาร่าก็ไปเตะตาแบรนด์สินค้าดังระดับโลกจนเธอได้ไปโลดแล่นอยู่ในโฆษณาของ SEAT ที่เป็นรถยนต์ยี่ห้อดังจากสเปน และ Lucozade ซึ่งเป็นเครื่องดื่มสำหรับผู้ออกกำลังกาย เรียกว่าดังข้ามวงการกันเลยครับเจ๊คนนี้
อันดับ 6 – Harry Potter and the Sorcerer's Stone
ยอดขาย – 8.1 ล้านชุด
เริ่มวางจำหน่าย – 15 พฤศจิกายน 2544
พัฒนาโดย – Argonaut
เราอาจจะเคยป้วนเปี้ยนกับคำว่า "หนังที่ทำจากเกมมักจะไม่ค่อยดี" หรือ "เกมที่ทำจากหนังมักจะไม่น่าเล่น" หลังจากได้ลองเล่นเกมนี้แล้วเราอาจต้องล้มเลิกตรรกะเดิมๆ ไปให้หมดสิ้นครับ เพราะเกมพ่อมดน้อยแฮร์รี่ภาคแรกที่ลงให้กับเวอร์ชั่น PS1 คืออีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่หักปากกาเซียนราบคาบ ด้วยกราฟิกที่ดูสดใสน่ารัก พร้อมกับเกมเพลย์ที่เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย ใครที่เคยยังมีโมเม้นท์ติดใจมาจากเวอร์ชั่นภาพยนตร์ หากได้จับเวอร์ชั่นเกมดูบ้าง รับรองมีฟิน
อันดับ 5 – Final Fantasy VIII
ยอดขาย – 8.15 ล้านชุด
เริ่มวางจำหน่าย – 11 กุมภาพันธ์ 2542
พัฒนาโดย – Squaresoft
นี่ก็เป็นอีกภาคของซีรีส์ Final Fantasy ที่ได้ใจแฟนๆ หน้าใหม่ไปอีกบานเบอะ นอกจากจะมีการอัพเกรดกราฟิกให้สวยกว่าภาค 7 แล้ว ยังมีการอัพสเกลตัวละครให้มีขนาดตามจริงตลอดทั้งเกม จากเดิมที่เราจะเห็นตัวละครในฉากผจญภัยเป็นตัวไซส์ SD มาตั้งแต่ภาคแรก ในส่วนเกมเพลย์ก็มีการเปลี่ยนไปพอสมควร เริ่มตั้งแต่การปรับให้ศัตรูมีการพัฒนาผันแปรตามเลเวลของตัวละคร ยิ่งตัวเราเก่ง ศัตรูตามทางก็จะยิ่งเก่งตาม และปรับให้ศัตรูทุกตัวไม่ดรอปเงิน แต่เราจะได้เงินในลักษณะของเงินเดือนแทน แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คงจะเป็นการใส่เพลงเวอร์ชั่นมีผู้ขับร้องมาในภาคนี้เป็นครั้งแรก นั่นก็คือเพลง Eyes on Me ที่ร้องโดยคุณเฟย์ หว่อง นักร้องชื่อดังชาวจีน และหลังจากนั้นมา เกม Final Fantasy ก็จะมีเพลงขับร้องประจำภาคมาตลอด ยุคนั้นเกมเมอร์ในไทยคงได้ฟังเพลงนี้กันจนเบื่อไปข้าง
อันดับ 4 – Tekken 3
ยอดขาย – 8.5 ล้านชุด
เริ่มวางจำหน่าย – 26 มีนาคม 2541
พัฒนาโดย – Namco
ไม่แปลกที่พอเข้าสู่ยุค 3D เกมไฟท์ติ้งที่เคยได้รับความนิยมสูงอย่าง Street Fighter จะต้องหลีกทางให้กับ Tekken เขาผงาดบ้าง และ Tekken 3 ก็เป็นภาคที่ขายดีที่สุดของซีรีส์นี้แล้ว ด้วยเกมเพลย์ที่พัฒนาต่อยอดจากภาค 2 พร้อมอุดรอยรั่วที่ 2 ภาคแรกเคยมี ทำให้ภาค 3 กลายเป็น 1 ในเกมที่เรียกว่า "ครบเครื่อง" ที่สุดในช่วงเวลาของมัน นอกจากนี้ ภาคดังกล่าวยังได้เป็นการเปิดตัวตัวละครหน้าใหม่ที่มีบทบาทสำคัญต่อซีรีส์นี้ ไม่ว่าจะเป็น จิน คาซาม่า (Jin Kazama), หลิงเสี่ยวหยู (Ling Xiaoyu), จูเลีย ชาง (Julia Chang) และ ฮัวหราง (Hwoarang) อีกทั้งยังมีโหมด Tekken Force ที่เป็นแนวแอ็กชั่นตะลุยด่านคล้ายกับ Final Fight ให้เล่นกันแบบเพลินๆ ด้วย
อันดับ 3 – Gran Turismo 2
ยอดขาย – 9.04 ล้านชุด
เริ่มวางจำหน่าย – 30 พฤศจิกายน 2542
พัฒนาโดย – Polyphony Digital
สุดยอดเกมขับรถที่ภูมิใจเสนอโดย Polyphony Digital ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Sony เอง ที่ในภาค 2 ได้เพิ่มจำนวนรถเข้าไปจนมีเกือบ 650 คัน และสังเวียนประลองความเร็วอีก 27 สนาม แม้ว่าในส่วนของกราฟิกและเกมเพลย์ในภาค 2 จะไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนไปจากภาคแรกอย่างเป็นรูปธรรมมากนัก แต่สิ่งที่คนเล่นภาคนี้น่าจะสัมผัสความแตกต่างได้ก็คือการเบรคที่ทำมาได้ดีขึ้น ทำให้สามารถควบคุมรถตอนเข้าโค้งได้ง่ายกว่าเดิม
อันดับ 2 – Final Fantasy VII
ยอดขาย – 10 ล้านชุด
เริ่มวางจำหน่าย – 31 มกราคม 2540
พัฒนาโดย – Square Enix
ในงาน E3 2015 เมื่อปีที่แล้ว ได้มีการประกาศช็อคโลกจากทาง Square Enix ด้วยการรีเมคเกม Final Fantasy VII ลงให้กับเครื่อง PS4 ก่อนเป็นเครื่องแรก แม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศเพิ่มเติมถึงวันวางจำหน่าย แต่แฟนๆ ทั่วโลกก็พากันฟินไปถึงไหนต่อไหนเรียบร้อย โดย Final Fantasy VII ถือเป็นการบุกเบิกเกมแนว RPG สไตล์ญี่ปุ่นที่ตอบรับกับยุคกราฟิก 3D พร้อมด้วยการเปลี่ยนผู้ดีไซน์ตัวละครหลักจากคุณอามาโน่ โยชิทากะ มาเป็นคุณเท็ตสึยะ โนมูระ ที่ลายเส้นของเขาจะดูใกล้เคียงความเป็นตัวการ์ตูนมากกว่า และเข้าถึงผู้เล่นหน้าใหม่ได้ง่ายกว่า ความเทพของเกมนี้ทำให้เกิดกระแสฟีเวอร์ตามมามากมาย โดยเฉพาะข่าวลือเรื่องการชุบชีวิตแอริธ 1 ในตัวเองของเกม แต่แล้วก็พบว่าเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า Final Fantasy VII คือเกมที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งในกับยุค PS1 มาจนทุกวันนี้ครับ
อันดับ 1 – Gran Turismo
ยอดขาย – 10.36 ล้านชุด
เริ่มวางจำหน่าย – 23 ธันวาคม 2540
พัฒนาโดย – Polyphony Digital
สมัยนั้นเชื่อเลยว่าใครๆ มันก็ต้องเบื่อเกมแข่งรถที่เปิดเกมมา ก็เลือกรถ เลือกสนามแข่ง แล้ววิ่งเข้าเส้นชัยไปให้จบๆ กันบ้างแหละ แต่แล้วพอเกม Gran Turismo ได้ถูกวางจำหน่าย มิติใหม่ของเกมแข่งรถก็กลับมามีสีสันอีกครั้ง ด้วยเกมเพลย์ที่สุดจะละเอียดเท่าที่เกมในยุคนั้นจะเนรมิตให้คุณเล่นได้ จากรถทุกคันที่มีให้เล่นในโหมด Simulation ผู้เล่นจะสามารถปรับแต่งรถจูนรถได้แทบจะทุกส่วน แต่ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ เกม Gran Turismo ภาคแรกนั้นใช้เวลาในการพัฒนา 5 ปีด้วยบุคลากรเพียงแค่ 7-15 คนเท่านั้น ทว่าด้วยโปรดักชั่นที่เล็กกระจิ๊ดริดกลับเป็นม้ามืดที่ทำยอดขายได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของยุค PS1 ได้อย่างหน้าตาเฉย บทมันจะเปรี้ยง อะไรก็ห้ามไม่ได้ละนะ…