ใกล้เข้ามาแล้วนะครับกับวันเปิด OBT ของเกม Cabal 2 ซึ่งหลายๆ คนก็คงจะคุ้นเคยกับอาชีพต่างๆ จาก Cabal ภาคแรกเป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อมาอยู่ใน Cabal 2 เราก็ต้องเข้าสู่โลกใบใหม่และสิ่งใหม่ๆ ใช่ไหมล่ะ ซึ่งนั่นทำให้หลายๆ คนกลายเป็นไม่แน่ใจว่าโลกใบใหม่นี้ อาชีพเก่าๆ ที่เราคุ้นเคยจะเปลี่ยนไปขนาดไหนแล้วจะต้องเดินไปทิศทางไหนดี วันนี้เราจะมาดูกันว่าอาชีพเก่าในโลกใบใหม่นี้เด่นยังไง และต้องไปเน้นอะไร โดยจะเริ่มจากสองอาชีพแนวหน้าเกราะหนักอย่าง Force Shielder และ Warrior อย่ามัวรอช้ามาดูกันเลยดีกว่า
Force Shielder
Force Shielder ในภาคนี้ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมคือนักรบเกราะหนักผู้ใช้ดาบโล่ยืนอยู่แนวหน้าโดยใช้พลังฟอร์ซเข้าช่วย ซึ่งทำให้ตัว Force Shielder นั้นแข็งแกร่งขึ้นนั่นเอง Force Shielder เป็นอาชีพสาย Tanker ที่จะต้องรับดาเมจให้กับสมาชิกภายในปาร์ตี้ ทำให้จำเป็นที่จะต้องหันไปเน้นในส่วนของการเอาตัวรอดและทำยังไงให้ตัวเองยืนได้นานที่สุด ผู้เล่นสามารถที่จะเลือกเป็น Force Shielder สายคริติคอลที่ทำดาเมจได้เยอะขึ้นแต่ก็ต้องแลกมากับความอึดที่น้อยลง หรือจะเลือกเป็น Force Shielder สาย Tanker อย่างเต็มที่ซึ่งจะทำให้สามารถยืนได้นานกว่าสายคริติคอล แถมยังทนเท้าได้ดีมากกว่าอีกด้วยเมื่ออยู่ในดันเจี้ยนและ PvP
สเตตัสหลัก
ในส่วนของค่าสเตตัสหลักที่จำเป็นสำหรับอาชีพ Force Shielder ซึ่งนี่จะเป็นค่าสเตตัสสำหรับสาย Tank ทั่วไป โดยเรียงความสำคัญตามนี้
Physical Defense: แน่นอนว่าเราจะต้องเน้นไปที่การป้องกันกายภาพซึ่งเป็นหัวใจหลักและจะทำให้ตัว Force Shielder เป็นตัว Tank ที่ดี
Accuracy: ในส่วนของค่าความแม่นยำนั้นที่เราต้องมาเน้นส่วนนี้เพราะตัว Force Shielder นั้นตีไม่แรงมากอยู่แล้วเราจึงเน้นให้ตีโดนซึ่งดีกว่านั่นเอง
Max HP: HP ที่เยอะจะทำให้ยืนได้นานยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับเกราะที่เราเน้นเป็นหลักก็จะเป็น Tank ที่ดีมากๆ
Physical Atk: ในส่วนของการโจมตีกายภาพที่ต้องมาเน้นอันดับล่างๆ เพราะตัว Force Shielder นั้นมีค่าพลังโจมตีที่น้อยอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นจะต้องเน้นอะไรมากมาย
Evation: ที่ต้องเน้นค่าหลบหลีกเป็นอย่างสุดท้ายเพราะว่า Force Shielder คือ Tanker นั่นเอง ด้วยความที่เรามีเกราะและพลังชีวิตที่หนาอยู่แล้วทำให้ไม่จำเป็นจะต้องหลบนั่นเอง
Force Core: ในส่วนของ Force Core ให้เลือกใส่เป็นเพิ่มพลังป้องกันทั้งหมดเพื่อช่วยเสริมความอึดและถึกขึ้น
Warrior
มาต่อกันที่ Warrior ซึ่งเป็นนักรบเกราะหนักแนวหน้าเช่นเดียวกับ Force Shielder เพียงแต่ว่าหน้าที่ของตัว Warrior จะสลับกันเท่านั้นเอง ซึ่งตัว Warrior เป็นอาชีพที่จะคอยทำความเสียหายอยู่แนวหน้าพร้อมกับรับความเสียหายแทนตัว Tank ได้ในบางจังหวะ และยังเป็นอาชีพที่จะเน้นไปที่การทำความเสียหายอย่างหนักแน่น ซึ่งนั่นทำให้การเล่นอาชีพนี้เราจะต้องมุ่งเน้นไปที่สเตตัสเพิ่มพลังโจมตีพลังป้องกันและหลบหลีกเป็นหลักเพื่อให้สามารถที่จะอยู่รอดได้ในหลายๆ สถานการณ์
สเตตัสหลัก
ค่าสเตตัสหลักของ Warrior ก็จะเน้นไปที่การโจมตี ซึ่งสายการเล่นที่เราจะเลือกเดินก็จะเน้นไปที่การโจมตีที่หนักแน่นและทำให้ศัตรูตายให้ไวที่สุด โดยจะเรียงค่าความสำคัญตามนี้
Physical Attack: แน่นอนว่าเหตุผลหลักที่ค่าพลังโจมตีมาอันดับแรกเพราะ Warrior จะเน้นไปที่การทำความเสียหาย ฉะนั้นดาเมจยิ่งเยอะเราก็จะยิ่งแข็งแกร่ง
Accuracy: ตามมาด้วยค่าความแม่นยำซึ่งแน่นอนว่ามีดาเมจที่สูงแต่โจมตีไม่โดนมันก็เท่านั้น ยิ่งใน PvP เมื่อต้องสู้กับอาชีพที่เน้นค่าหลบหลีกสูงๆ แล้วเราก็จะทำอะไรไม่ได้เลย ฉะนั้นความแม่นยำจึงขาดไม่ได้เช่นกัน
Critical Rate: สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับสายดาเมจทุกๆ เกมนั่นก็คือค่าคริติคอล ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำความเสียหายกับตัว Warrior ถึงแม้จะไม่ได้เน้นให้คริติคอลเป็นหลัก แต่การมีไว้เพื่อเพิ่มโอกาสย่อมดีกว่าการไม่มีแน่นอน
Evasion: ในส่วนของค่าหลบหลีกนั้นตัว Warrior ก็ต้องการเช่นกันเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการเอาตัวรอด ส่วนค่าป้องกันต่างๆ สามารถหามาทดแทนได้จากตัวเกราะหนักที่ Warrior ใส่อยู่แล้ว
Attack Speed: ความเร็วในการโจมตีก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีความสำคัญเช่นกัน เพราะการที่เรามีความเร็วโจมตีที่สูงขึ้นจะทำให้สกิลของเราออกไวยิ่งขึ้น ช่วยให้เราจบคอมโบและจัดการศัตรูได้ไวยิ่งขึ้นนั่นเอง
Force Core: Force Core ให้ใส่สายโจมตีทั้งหมดทุกช่องที่เรามีเพื่อเพิ่มความแรงในการโจมตี
จบไปแล้วนะครับกับสองอาชีพเกราะหนัก ในครั้งหน้าจะเป็นสองอาชีพไหนที่จะมาแนะนำกัน จะเป็นสองผู้ใช้พลังฟอร์ซที่เหลือ หรือจะเป็นสองผู้ใช้พลังเวท อย่าลืมติดตามกันในเล่มหน้านะครับ
บทความจาก OS Magazine ฉบับที่ 669