"วันนี้ในอดีต" by play
วันที่ 25 พฤษภาคม 2539 หรือวันนี้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายของเกม ESPN Extreme Games บนเครื่อง PS1 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเกมดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสอดรับกับกระแสความนิยมของกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่กำลังฮิตในช่วงเวลานั้น ยิ่งไปกว่านั้น ทางสตูดิโอ Sony สาขาอเมริกาก็ได้ลิขสิทธิ์เกี่ยวกับข้อมูลของเกมนี้จากทาง ESPN ผู้ดำเนินธุรกิจทีวีดาวเทียมด้านกีฬาเจ้าใหญ่ของโลกที่ดูแลการจัดทัวร์นาเม้นท์ต่างๆ ของกีฬาเอ็กซ์ตรีมทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย
ระบบของเกม ESPN Extreme Games จะเป็นแนวประลองความเร็วด้วยอุปกรณ์การเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ สเก็ตบอร์ด, โรลเลอร์เบลด, เมาเท่นไบค์ และ สตรีทลูดจ์ สิ่งที่พิเศษเฉพาะของเกมนี้ ที่ไม่มีในกีฬาเอ็กซ์ตรีมของจริง ก็คงจะเป็นการที่ให้ผู้เล่นได้แกล้งคู่แข่งด้วยการเตะหรือต่อยคนที่คิดจะแซงเราให้ล้มกลิ้งไปกับพื้น เป็นการตัดจังหวะของคู่แข่งได้เจ็บแสบมาก (สำหรับคนที่เลือกใช้เมาเท่นไบค์จะทำได้แค่เตะ และคนที่ใช้สตรีทลูดจ์จะทำได้แค่ต่อย เนื่องด้วยข้อจำกัดของการใช้อุปกรณ์นั่นเอง) และระหว่างแข่งก็จะมีซุ้มประตูให้ผู้เล่นวิ่งลอดเข้าไปเพื่อเก็บคะแนนด้วย โดยแต่ละซุ้มก็จะให้คะแนนไม่เท่ากัน จำแนกตามสีของซุ้มที่ลอดเข้าไปนั่นเอง
Fact เล็กน้อยเกี่ยวกับเกม ESPN Extreme Games
– สตรีทลูดจ์ (Street Luge) เป็น 1 ในประเภทของการเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ถือกำเนิดในทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยเริ่มมาจากบรรดานักเล่นสเก็ตบอร์ดที่พบว่าพวกเขาสามารถทำความเร็วได้สูงกว่านี้หากใช้วิธีนอนราบลงไปบนสเก็ตบอร์ด จนเป็นที่มาของการคิดค้นและดัดแปลงอุปกรณ์จากสเก็ตบอร์ดมาเป็นสตรีทลูดจ์ (ผู้เล่นบางกลุ่มเรียกสตรีทลูดจ์ในแบบภาษาชาวบ้านว่า "สเก็ตนอน") ซึ่งเคยมีผู้ทดสอบความเร็วด้วยสตรีทลูดจ์แล้วพบว่ามันสามารถทำความเร็วได้สูงถึงระหว่าง 64-157 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ปัจจุบันสตรีทลูดจ์แทบไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่แล้ว นั่นก็เป็นเพราะนโยบายใหม่ของกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่มุ่งเน้นให้แข่งขันกันในสนามที่จัดเตรียมไว้เป็นสัดส่วนนั่นเอง ทว่าสตรีทลูดจ์เองก็เป็นอุปกรณ์ที่ต้องทำการแข่งขันกันตามทางลาดบนไหล่เขา แน่นอนว่าผิดกับหลักนโยบายที่ตั้งเอาไว้ ทำให้ผู้ที่ยังคงเล่นสตรีทลูดจ์กันอยู่ก็คือคนที่มีใจรักกับอุปกรณ์ประเภทนี้ และไม่มีความต้องการที่จะแข่งขันแบบเป็นทางการนัก
– เป็นที่น่าเสียดายที่ในภาค 2 และ 3 ของเกมซีรีส์นี้มีอันต้องหมดระยะสัญญาลิขสิทธิ์กับทาง ESPN ไปเสียก่อน จึงทำให้ภาคต่อมาจึงต้องใช้ชื่อเกมว่า 2Xtreme และ 3Xtreme ตามลำดับ แต่ตัวเกมยังคงถูกพัฒนาโดยสตูดิโอของ Sony สาขาอเมริกาอยู่เรื่อยมา
– หากใครสังเกตดีๆ จะพบว่ามีตัวละครผู้หญิงคนหนึ่งคอยปรากฏตัวทุกครั้งหลังการเล่นจบแต่ละแมตช์ ซึ่งตัวละครตัวนี้จะออกแอ็กชั่นโวยวายใส่ผู้เล่นหากจบด้วยอันดับที่ 2 ลงมา ทว่าตัวละครหญิงตัวดังกล่าวได้ถูกนำออกไปในเวอร์ชั่น Greatest Hits ของภาคแรกนี้ ที่ทำออกมาจำหน่ายทีหลังเพื่อฉลองยอดขายที่ทำได้ทะลุเป้า
– ในช่วงที่เกมนี้วางจำหน่ายออกไป ก็พบว่ายอดขายและกระแสตอบรับนั้นไปในทางที่ดีพอสมควร กระทั่งมีการทำภาคต่อออกมาอีก 2 ภาค แล้วก็เสื่อมความนิยมไปเอง สาเหตุหลักคือตัวเกมไม่สามารถต่อยอดให้เกมเพลย์ช่วยดึงความนิยมมากไปกว่านี้ได้