7 เกมสุดมันส์ที่มีระบบกำบังยอดเยี่ยมบน PC !

     นับว่าเป็นระบบที่มักจะเจอในเกือบทุกเกมของสมัยนี้กับระบบที่กำบังหรือ Base Cover System ที่แต่ละเกมจะมีพื้นที่ไว้ให้ผู้เล่นได้หลบห่ากระสุนและโต้ตอบกลับโดยที่ตัวละครของเราไม่พรุนเสียก่อน ซึ่งบางเกมก็ดูจะเข้ากันได้ดีราวกับเกิดมาซึ่งกันและกัน แต่บางเกมก็ เอิ่ม …ไม่มีจะดีกว่านะ วันนี้ทีมงานจึงขอนำเสนอ 7 เกมที่มีระบบที่กำบังยอดเยี่ยมกระเทียมดองแล้วลองไปเจียว จะมีเกมอะไรบ้างไปดูกันเลย

 

1. Spec Ops: The Line 

     สามทหารเสือตลุยแดนน้ำมันเกมนี้จะพาผู้เล่นไปฝ่าดงกระสุนไกลถึงดูไบที่อยู่ในสภาวะสงครามโดยเนื้อเรื่องในเกมนั้นเจ๋งไม่เบาเพราะการันตีด้วยผู้แต่งนิยายสุดแฟนตาซีฝีมือเทพอย่าง George R. R. Martin. ที่มีผลงานซีรีส์ยอดฮิต ณ ปัจจุบันอย่าง Game of Throne แต่ถึงแม้เนื้อเรื่องในเกมจะดีสักแค่ไหน ก็ดันถูกกลบด้วยอย่างอื่นในเกมที่ไม่โอเคสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกที่ค่อนข้างออกไปทางโทนร้อนแสบตาจนผู้เล่นอาจจะหงุดหงิดได้ในขณะที่เล่น , AI ที่ผีเข้าผีออกบางครั้งแย่งเรายิ่ง แต่บางทีก็ปล่อยให้เราโชว์ออฟอยู่คนเดียว ดูจะมีแค่ระบบที่กำบังที่ทำออกมาได้ลื่นไหลไปกับการเล่นที่ต้องยิงตอบโต้กับศัตรูพร้อมทั้งคอยเปลี่ยนที่กำบังใหม่ทำให้ดูเป็นอะไรที่เข้ากับการต่อสู้ในแบบฉบับของทหารเสียจริงๆ เอาเป็นว่าหากคิดจากข้อดีและข้อเสียแล้วนั้น Spec Ops:The Line ยังคงเป็นเกมที่น่าหามาเล่นอยู่ดี 

เข้ามาให้หมด ย๊ากกก!

แม้จะระบบหลายอย่างจะไม่ค่อยโอเคนัก แต่อย่ามองข้ามเนื้อเกมนี้เชียว

 

2. Kane&Lynch 2:Dog Days

     คู่หูโหดบรรลัยเคนและลินช์กลับมาแล้ว เกมเมอร์หลายคนอาจจะไม่เคยได้สัมผัสภาคแรกแต่ไม่ต้องห่วงเพราะเนื้อเรื่องไม่ได้แปลกใหม่แต่อย่างใดเพราะว่าด้วยเรื่องของผู้ร้ายกลับใจ แต่คู่อาฆาตไม่ยอมปล่อยมือที่มักพบเห็นได้ตามทั่วไป เอาเป็นว่าผู้เล่นหน้าใหม่สามารถเริ่มเล่นในภาคสองนี้ได้เลย และผู้เขียนเองอยากแนะนำเกมนี้ให้บรรดาเกมเมอร์ที่ชื่นชอบความท้าทายให้ได้ลองสักครั้งนั่นก็เพราะความยากของเกมอยู่ในระดับโหดหินบรรลัยแมว ชนิดที่การปะทะศัตรูนอกที่กำบังเพียงระยะเวลาสั้นๆ อาจทำให้เราลงไปหมอบกับพื้นได้ในทันที และด้วยโทนของเกมที่รุนแรงหม่นหมองพร้อมฉากหลังในเกมที่บรรเลงด้วยเม็ดฝนและท้องฟ้าอรืมครืมตลอดเวลา ทำให้เกมนนี้เหมาะสำหรับเกมเมอร์สายทมิฬโลกมืดเป็นยิ่งนัก  

จุดเด่นอยู่ที่สภาพแวดล้อมอึดอัดและดูรกทำให้รู้สึกอึดอัด

ตัวเกมมีเนื้อหาความรุนแรง ควรมีวิจารณญาณในการเล่น

 

3. Mass Effect 3

     ในสองภาคแรกนั้นที่กำบังถือว่าจำเป็นแล้ว ในภาค 3 นี้ยิ่งจำเป็นใหญ่ เพราะด้วยศัตรูที่มีจำนวนมากกว่าภาคเก่าหลายเท่า ทำให้การเราจะเข้าไปบูล้างผลาญปล่อยจักระสังสาระแบบภาคเดิมๆ นั้นเป็นความคิดที่แย่เอามากๆ เพราะผลลัพธ์ที่จะได้คือเลเซอร์ที่ลอดผ่านตัวเอกเราเป็นสิบรู นอกเหนือจากระบบที่กำบังที่สำคัญแล้ว การเลือกอัพและใช้สกิลก็ถือว่าจำเป็นมากเช่นกัน ไม่ว่าจะไล่ต้อน ยก หรือระเบิดที่กำบังของศัตรู ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกไม่ได้เป็นฝ่ายเสียเปรียบเพียงฝั่งเดียว ส่งผลให้ Mass Effect 3 มีความเป็นแอคชั่นสูสีพอกับอาร์พีจีมากกว่าภาคอื่นเลยทีเดียว

 

ภาคนี้ผู้เล่นจะบู๊ได้สะใจกว่าภาคที่แล้วๆ มามากขึ้น

ตัวเลือกตัดสินใจในเกมยังคงเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์นี้อยู่

 

4. Max Payne 3 

     ซีรีส์อดรีนาลีนหลั่งอย่าง Max Payne ที่มาในภาคสามนี้ได้ใส่ระบบที่กำบังมาให้เสียทีจากที่ภาคเก่านั้นเราต้องคอยตีลังกากลิ้งเป็นลูกบอลหลบห่ากระสุน ซึ่งถึงแม้ในภาคนี้จะใส่ที่กำบังเข้ามาให้ตัวเกมก็ยังคงท้าทายและมันส์อยู่เช่นเคย เพราะด้วยระบบสุดคลาสิกอย่าง Bullet Time หรือการชะลอเวลายังคงอยู่คงเท่และสร้างสรรค์อยู่แถมมากกว่ากว่าเดิม และด้วยเนื้อเรื่องที่ชวนติดตามของซีรี่ส์นี้ทำให้ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะไม่หาโอกาสมาไว้ในครอบครอง

หลบให้ดี เพราะกระสุนกำลังจะมา!

แอคชั่นสุดเท่คืออีกหนึ่งเสน่ห์ของเกมนี้

 

5. GTA V

เกมโอเพ่นเวิร์ลสุดมันอีกหนึ่งเกม

 

6. Tom Clancy's The Division

หากไม่หาที่หลบกระสุน ก็เตรียมนอนได้เลย

 

7. Gears of War

เกมบุกเบิกระบบที่กำบังที่ยังคงดีที่สุดอยู่

เลื่อยติดปืนในตำนาน

 

     จริงๆ แล้วยังมีเกมอีกมากมายที่มีระบบกำบังเจ๋งและสร้างสรรค์ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์รีบูทอย่าง Tomb Rider , ซีรี่เกมกลยุทธสุดเทพอย่าง Tom Clansy ต่างๆ และอีกมากมายล้วนแล้วต่างมีสิ่งที่ดึงดูดและน่าสนใจแตกต่างกัน ฉะนั้นแล้วการจัดอันดับใดๆ ก็ไม่เทียบเท่ากับการได้สัมผัสด้วยตัวเอง ซึ่งทางเรามีหน้าที่แค่แนะนำเกม เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อเท่านั้นเองครับ

       

                

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้