Dragon Nest พาทัวร์เนื้อหาอัพเดตใหญ่ๆ ที่จะทยอยอัพเดตในช่วงแพตช์ 40

     สวัสดีค่ะ ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วที่บีได้พาเพื่อนๆ ไปรีวิวสองสาวสองอาชีพใหม่ที่ได้มีเพิ่มในเกม Dragon Nest กันอย่างคร่าวๆ กันแล้ว ในสัปดาห์นี้ เราจะมาเปลี่ยนบรรยากาศมาพาทัวร์กันแบบสบายๆกับเนื้อหาจำนวนมหาศาลที่มีอยู่ในแพตช์ 40 นี้กันค่ะ ซึ่งเนื้อหาหลักๆ ในแพตช์ 40 ที่จะค่อยๆ ทยอยอัพเดตลงเซิร์ฟไทยมีดังนี้ค่ะ

– Apocalypse Nest
– Manticore/Apocalypse Nest Hell Mode
– ระบบสัตว์พาหนะ
– Dark Lair Pirandelo ( 1st Floor)
– ระบบศิษย์อาจารย์
– Guild War
– PvP Captain / Ghoul Mode / Occupational War
– Wonderful Theme Park : Hessian Goblins, Orc Kim’s Strike และ Wonderful Racing
– อาชีพที่ 5 Academic
– Sea Dragon Nest
– Farming System

     ซึ่งรายละเอียดข้างบนนี้ อาจจะไม่ได้เรียงลำดับในการอัพเดตแต่อย่างใด และลำดับการอัพเดตในเซิร์ฟไทยสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เอาหล่ะค่ะเรามาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ ว่าแต่ละอย่างมีอะไรบ้าง

Apocalypse Nest

Trailer Apocalypse Nest

     อีกหนึ่งเนสต์ที่มาพร้อมกับความโหดและตำนานกับเจ้าปูขี้โมโหใส่เกราะ ซึ่งเจ้าปูขี้โมโหใส่เกราะตัวนี้นั้นมีต้นกำเนิดมาจากยานเดินทางข้ามเวลา ที่เควิน หนูน้อยผู้ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักบิน ได้ขี่เดินทางข้ามเวลามาจากโลกอนาคตและได้ย้อนกลับมายังเวลาในยุคปัจจุบันเพื่อที่จะกลับมาแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีต ซึ่งเขาได้เดินทางข้ามเวลามาพร้อมกับยาน Apocalypse แต่ทว่าในระหว่างที่เดินทางนั้น ยาน Apocalypse กลับมีชีวิตขึ้นมาและได้ซึมซับรับพลังความชั่วร้ายของเทพีเวสทิเนลไว้ ทำให้ Apocaplyse เกิดอาละวาดขึ้นและกลืนกินเหล่ามอนสเตอร์เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังของตน รวมทั้งได้กลืนกินร่างของเควินจากโลกอนาคตเมื่อทั้ง 2 ได้เดินทางมาถึงยุคปัจจุบัน แต่ทว่าเควินจากโลกอนาคตสามารถหลบหนีออกมาได้เพียงแค่กลุ่มก้อนของวิญญาณ (Wisp) และได้เตือนเราถึงวิธีการรับมือและจุดอ่อนของ Apocalypse กับเรา

Manticore/Apocalypse Nest Hell Mode

     นอกเหนือจากความยากระดับ Abyss แล้ว สำหรับ Manticore/Apocalypse Nest ยังมีความยากอีกระดับหนึ่งนั่นคือ Hell Mode ที่จะมาท้าทายเหล่าผู้กล้าในการเข้าไปจัดการกับเหล่าบอสเนสต์ขี้โมโหเหล่านี้ ซึ่งสำหรับ Hell Mode นั้นจะมีการดรอปเครื่องประดับระดับ Epic Level 32 ขึ้นไปและเครื่องประดับเซทบอสอีกด้วยค่ะ

ระบบสัตว์พาหนะ 

     เชื่อว่าเป็นระบบที่หลายๆ คนตั้งหน้าตั้งตารอกันตั้งแต่เกมเปิด โดยที่สัตว์พาหนะในเกมนี้แบ่งออกเป็น 3 แบบ
     1. ม้าที่ขี่ได้ตั้งแต่เลเวล 15 ราคา 50G มีแต่ในเซิร์ฟเกาหลีที่เดียวเท่านั้น เคลื่อนที่เร็วขึ้น 50%
     2. ม้าที่ขี่ได้ตอนเลเวล 40 ได้จากการนำเหรียญแลกม้า 6 เหรียญไปแลกกับ NPC Linsey ซึ่งเหรียญแลกม้าจะดรอปจากเนสต์เลเวล 40 Manticore/Apocalypse ระดับ Hell เท่านั้น เคลื่อนที่เร็วขึ้น 60%
     – เหรียญแลกม้า ที่ดรอปจาก Manticore Hell Mode (ม้าดำ)
     – เหรียญแลกม้า ที่ดรอปจาก Apocalypse Hell Mode (ม้าขาว)
     3. สัตว์ขี่จากกล่องสุ่มกาชา มีตั้งแต่ม้าแดง หมาป่า ยูนิคอร์นและแกะ เคลื่อนที่เร็วขึ้น 70%

Dark Lair Pirandelo ( 1st Floor)

     Dark Lair แบบใหม่ ซึ่งแตกต่างจากของเดิม โดยที่ของเดิมมี 36 ด่าน แต่แบบใหม่ได้แบ่งออกเป็นชั้น 1 และ 2 โดยที่ชั้น 1 จะมาในช่วงแพตช์ 40 และมี 20 ด่าน ซึ่งด่านสุดท้ายนั้น เราจะต้องสู้กับ Gereint และหากสามารถชนะได้จะได้รับเพลทสกิล Gereint มาใช้กันอีกด้วย

ระบบศิษย์อาจารย์

     ผู้เล่นที่จะเป็น Master (อาจารย์) ได้ต้องมีเลเวล 40 ขึ้นไปและผู้เล่นที่จะเป็น Apprentice (ศิษย์) ได้ต้องมีเลเวลอยู่ระหว่าง 10 – 30 โดยที่ศิษย์ สามารถมี อาจารย์ ได้พร้อมกันสูงสุด 3 คน และ อาจารย์ ก็สามารถมี ศิษย์ ได้พร้อมกันสูงสุด 3 คน ได้เช่นกัน

     – ฝ่ายอาจารย์ จะไม่เสีย FTG ในการลงดันเจี้ยนแม้แต่นิดเดียว เพียงแต่ว่า ตัวอาจารย์จะต้องมี FTG เหลืออย่างน้อย 1 หน่วย ไม่เช่นนั้นจะลงดันกับศิษย์ไม่ได้
     – เมื่อ ศิษย์-อาจารย์ทำการปาตี้กัน จะมีไอค่อน ขึ้นด้านบน โดยที่ ฝ่ายลูกศิษย์ จะได้ โบนัส EXP +10% สามารถนำไปรวมกับการ เพิ่ม % แอดเพื่อนได้อีกด้วย
     – สามารถมีอาจารย์ได้ทั้งหมด 3 คน และสามารถลงดันเจี้ยนกับอาจารย์ได้ทั้งหมด 3 คน และแน่นอนว่า จะได้ EXP โบนัสจากอาจารย์คนละ 10% ถ้าลงกับศิษย์ด้วยกันจะได้เพิ่มคนละ 5%
     – ช่วยเพิ่มโอกาส Drop rate และโอกาสเกิดของ กระต่ายขาว เมื่อจบดันเจี้ยนระดับ Abyss
     – เมื่อลงกับอาจารย์ในโหมด Abyss เมื่อเปิดกล่องกระต่ายท้ายดัน จะได้รับกุญแจเปิดกล่องกระต่ายคืนมา จำนวน 3-4 อันอีกด้วย (ในเมือง Prairie Town – Mana Ridge – Calderock เท่านั้น)
     – ทุกๆ 5 เลเวล ฝ่ายลูกศิษย์จะได้ กล่องสุ่มเครื่องประดับ คุณภาพดีไว้ใส่เล่นอีกด้วย ส่วนฝ่ายอาจารย์จะได้กล่องสุ่ม เพชรตีบวกอาวุธ

Guild War

Guild War Trailer

     นับว่าเป็นอีกหนึ่งระบบที่บรรดาขา PvP รอคอยกันอยู่กับระบบ Guild War ซึ่ง Guild War ใน Dragon Nest ได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

    

     1. Guild War แบบ PvP ธรรมดา ซึ่งสามารถเล่นกันเมื่อไรก็ได้ โดยใช้ห้อง Guild War ในการต่อสู้ ซึ่งสามารถมีผู้เล่นได้สูงสุด 16 คนในการแข่ง

     2. Guild War Event เป็นการจัดการแข่งขันจากระบบ โดยที่ผู้เล่นจะต้องไปลงทะเบียนกิลด์และเลือกฝ่ายเสียก่อน หลังจากนั้นจะมีระยะเวลาให้สะสมคะแนน เพื่อนๆ สามารถที่จะสะสมคะแนนได้จากการลงดันเจี้ยน PvP ลงเนสต์ ปลูกผัก ตกปลา ซึ่งกิลด์ที่ใหญ่และมีสมาชิกเยอะๆ จะได้เปรียบในเรื่องนี้มาก และทำให้มีโอกาสได้เข้าแข่ง Guild War สูงกว่ากิลด์เล็กๆ โดยเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาสะสมคะแนน 16 กิลด์สูงสุดของแต่ละฝ่ายจะต้องมาจัดคู่แข่งขันกัน เพื่อที่คัดเลือกให้เหลือเพียง 1 กิลด์จากแต่ละฝ่ายมาแข่ง Guild War ในรอบสุดท้าย โดยที่ทั้ง 16 กิลด์ที่เข้ารอบจะได้รับกุญแจเพื่อไข Royal Chest ในห้อง Royal Treasury และกิลด์ที่ชนะในการแข่งขัน Guild War จะได้รับชุดคอสตูม ม้าศึก และอีโมชั่นเพิ่มเติมเป็นของรางวัล

PvP Occupational / Captain / Ghoul

PvP : Occupational

     เป็นการแข่ง PvP แบบชิงธงยึดเสา เมื่อหมดเวลาหากทีมใดยึดเสาได้มากที่สุดก็จะเป็นฝ่ายชนะ

PvP : Captain

     เป็นการแข่ง PvP โดยที่จะแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่ายๆ ละ 8 คน โดยที่จะมีผู้เล่นหนึ่งคนถูกเลือกเป็นกัปตัน(และถูกสวมหมวกสี) และผู้เล่นที่เหลือภายในทีมจะต้องช่วยปกป้องกัปตันของฝ่ายตัวเองพร้อมทั้งโจมตีกัปตันของอีกฝ่าย เมื่อกัปตันฝ่ายไหนถูกฆ่าตายไป อีกฝ่ายจะได้รับชัยชนะทันที

PvP : Ghoul

     เป็นการแข่ง PvP ที่น่ารักที่สุด โดยจะมีการสุ่มผู้เล่นภายในห้องให้กลายเป็น ผีGhoul และจะต้องคอยไล่ตีผู้เล่นอื่นๆ ที่เป็นมนุษย์ ให้เป็น Ghoul เช่นกัน (มีสกิลของ Ghoul ให้ใช้ด้วย) ซึ่งจะต้องมีมนุษย์เหลืออย่างน้อย 1 คนจึงจะชนะในรอบนั้นๆ

Wonderful Theme Park : Hessian Goblins, Orc Kim’s Strike และ Wonderful Racing

Orc Kim’s Strike

     ป้องกันออร์คบุกเมือง โดยที่เพื่อนๆ จะต้องคอยปกป้องเหล่าทหารที่อ่อนล้าจากการโจมตีของเหล่าออร์คที่จะโจมตีเพื่อนๆ จาก 3 ทิศทาง

Hessian Goblins

     เปลี่ยนจากการตี Goblin 300 ตัวเป็น 500 ตัว และเป็นเหล่ากอปลินที่มาพร้อมกับสกิลน้ำแข็ง สกิลไฟ

Wonderful Racing

     เปลี่ยนบรรยากาศไปกับการแข่งม้าแบบชิลๆ และสนุกสนานในสวนสนุก (ต้องมีผู้เล่น 4 คน จึงจะเล่นโหมดนี้ได้) และไม่จำเป็นต้องมีม้าก็เล่นโหมดนี้ได้ค่ะ

อาชีพที่ 5 Academic

     เป็นสายอาชีพที่เรียกได้ว่ามาพร้อมกับความน่ารัก น่าชัง และได้ครอบครองใจหลายๆ คนไปก่อนที่อาชีพนี้จะอัพเดตกันเสียอีก ซึ่งสำหรับสายอาชีพจะมาพร้อมกับอิมเมจของสาวน้อยวัย 12 ปี โดยที่ Academic นั้นได้เดินทางย้อนเวลามาจากโลกในอนาคตข้างหน้า 50 ปี ซึ่งเป็นโลกที่ปราศจากเหล่าฮีโร่ที่จะคอยปกป้องโลกและเป็นโลกที่ถูกครอบงำโดยความชั่วร้ายของเทพธิดา Vestinel หลังจากที่ยาน Apocalypse ซึ่งเป็นยานที่ใช้ในการเดินทางข้ามเวลากลับตกลงยัง Lagendia ในช่วงยุคปัจจุบันใกล้ๆ กับเมือง Mana Ridge และด้วยผลข้างเคียงบางอย่างทำให้ร่างกายที่แท้จริงของเธอที่ควรจะมีอายุ 23 กลับกลายเป็นเพียงร่างกายของสาวน้อยวัย 12 ขวบ ซึ่งมีเพียงแค่เจ้าหุ่น Alfredo และ Mecha Duck ที่ถูกเธอสร้างขึ้นมาคอยอยู่เป็นเพื่อนและคอยช่วยเหลือเธอในการต่อสู้ โดยมีอาวุธข้างกายเป็นปืนใหญ่และ Kabala [SEA] หรือ Bubble Blaster [NA] และถุงมือเป็นอาวุธรอง

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.online-station.net/feature/feature/15095

Sea Dragon Nest (Raid Nest)

Trailer Sea Dragon 

 มีหลายต่อหลายคนถามว่า ทำไมเกมนี้ชื่อรังมังกรแต่ไม่มีมังกรให้ตีซะที ในที่สุดเจ้ามังกรตัวแรกก็มาให้เพื่อนๆ ตีแล้ว Sea Dragon หรือ Leviathan ที่ได้ถูกชุบชีวิตโดยบิชอฟอิคนาซีโอที่ชั่วร้ายและได้ฆ่า Gereint ได้เดินทางมายังโลกนี้เพื่อให้เพื่อนๆ รวมตัวกัน 8 คน เป็น Raid Party เพื่อต่อกรกับสัตว์ร้ายจากยุคดึกดำบรรพ์กันแล้ว

Farming System

ระบบตกปลา

ระบบทำฟาร์ม ตกปลา และทำอาหาร

     เป็นอีกหนึ่งระบบที่จะเข้ามาพร้อมกับแพตช์ Sea Dragon ซึ่งเป็นระบบที่ได้ออกแบบมาให้เพื่อนๆ ทำไอเทมยาต่างๆ ไว้ใช้ในการลงเนสต์และ Raid Nest (ยาชุบที่ใช้ได้สัปดาห์ละครั้ง) รวมทั้งทำไอเทมตีบวกเซทระดับ Legendary (เซทม่วง) กันอีกด้วยค่ะ

     เห็นแล้วยังน่าตกใจเลยเนอะ ว่าแพตช์ 40 เป็นช่วงแพตช์ที่ใหญ่มาก เอาหล่ะค่ะ ตอนนี้บีขอตัวไปตกปลาต่อก่อนแล้วหล่ะ ไว้เจอกันใหม่ในฟีเจอร์สัปดาห์หน้าค่ะ ^^

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้