จุดเด่นเกมยุค 90 กับความคลาสสิคที่ยังคงประทับใจไม่รู้ลืม

     เป็นเวลาเกือบ 70 ปีแล้ว ที่วิดีโอเกมนั้นถือกำเนิดขึ้นมาให้คนได้เล่นกันจากรุ่นสู่รุ่น จนมาถึงในยุคปี 90 ที่วิดีโอเกมโด่งดังถึงขีดสุดซึ่งก็ฝากความประทับใจหลายๆ อย่างที่ไม่รู้ลืมให้กับเกมเมอร์รุ่นเก๋าซึ่งก็รวมถึงตัวผมเองด้วยเช่นกัน ในปัจจุบันนั้น การพัฒนาก็ยังมีอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Graphic และเสียงที่สมจริง, รูปแบบการเล่นที่แปลกใหม่น่าตื่นเต้นกว่าที่เคย, เนื้อเรื่องที่เข้มข้นชวนให้น่าติดตาม แต่ก็มีเสน่ห์จากเกมเก่าๆ บางส่วน ที่ต้องล้มหายตายจากพวกเราไป ทำให้บางคนต้องกลับมาคุ้ยเกมเก่าๆ เล่นเพื่อระลึกความหลัง วันนี้ก็เลยอยากจะหยิบพวกเสน่ห์ของยุครุ่งเรื่องอันนั้นมาให้พวกเราได้ชมกัน

เพลง 8 บิตและเพลง Midi

เจ้าหญิงพีช : มาริโอ้!!!!!!! ช่วยฉันด้วยยยยยยยยยยยยยย (ชีวิตนี้โดนลักพาตัวตลอดเวลาว่างั้น)
มาริโอ้ : โอ้วได้เลย เจ้าหญิงพีช ฉันกำลังไปเดี๋ยวนี้แหละ แกเสร็จฉันแน่ เจ้าคุปป้า (เดือดร้อนตูทุกรอบ)
คุปป้า : นํ้าหน้าอย่างแก ถ้าแน่จริงก็เจ้ามาเลย ว๊ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ (ถ้าแกไปขอเจ้าหญิงเดซี่แต่งงาน เรื่องมันอาจจะง่ายกว่าก็ได้นะ)

      นับว่าเป็นมุกสุดซํ้าซากไม่รู้ว่าเป็นโรคระบาดกันหรืออย่างไร ที่เกมแอคชั่นตะลุยด่านยันไปถึงเกม RPG  จะต้องเป็นเรื่องราวของพระเอกหนุ่มและอัศวินรูปหล่อต้องออกไปสู้กับเหล่าร้ายเพื่อช่วยนางเอกหรือเจ้าหญิงจากการถูกลักพาตัวเพื่อกลับไปอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขท่ามกลางอาทิตย์อัสดง ด้วยเนื้อเรื่องที่โคตรจะธรรมดาแบบนี้ทำให้ผู้พัฒนาแต่ละรายทำการพัฒนาเกมพยายามปูเนื้อเรื่องให้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากยิ่งขึ้น แต่ถึงเนื้อเรื่องของเกมในสมัยนั้นจะมีแต่อีหรอบนี้ เหล่าผู้เล่นก็พยายามเล่นเกมจนจบเพื่อรอดูฉากจบที่ทั้งคู่จะกลับมาอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขและอินไปกับเกมด้วย ซึ่งมันหาได้ค่อนข้างยากจากเกมสมัยนี้ที่แม้แต่บางเกมผู้เล่นถึงกับพูดว่า "อะไรฟะ" เมื่อได้เห็นฉากจบ

เฮ้ย เกมนี้เล่นยังไงก็ไม่ผ่าน ไปหาซื้อบทสรุปกัน

     เมื่อยามที่ผู้เล่นหมดความอดทนใกล้จะเขวี้ยงจอยให้พังเนื่องจากเล่นเกมไม่จบเสียที (โดยเฉพาะพวกเกม RPG ทั้งๆ ที่เดินไถกำแพงหาทางก็แล้วก็ตาม) เวลาตามล่าหาหนังสือบทสรุปก็ได้ถือกำเนิดขึ้น ในสมัยก่อนก็มีสำนักพิมพ์อยู่หลายรายที่ตีพิมพ์หนังสือบทสรุปจากเกมต่างๆ วางจำหน่าย ช่วงเวลาที่ออกมาจากร้านหนังสือและกำลังเดินทางกลับบ้านเพื่อไปเล่นเกมต่อนั้นมันช่างเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นหาที่เปรียบไม่ได้ แต่ในปัจจุบันเมื่อการสื่อสารพัฒนาขึ้น เหล่าผู้เล่นก็จะแชร์เทคนิคและวิธีเล่นผ่านทางเว็บไซต์ให้คนเข้าไปอ่านกัน เหล่าบทสรุปพวกนี้จึงค่อยๆ สลายหายไปตามกาลเวลาในบ้านเรา (แต่เมืองนอกยังมีอยู่นะ แต่จะเป็นลักษณะ Guide แทน ไม่ได้เฉลยโต้งๆ ว่าต้องไปคุยกับตัวนี้ แล้วไปเข้าประตูนี้ ส่วนบทสรุปในบ้านเราก็ยังคงมีอยู่ แต่น้อยมากๆ )

ไม่มีคำว่า Exclusive มีเกมให้เล่นกันมากมาย เครื่องเดียวก็เสียวได้

     คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันอุตสาหกรรมเกมก็แข่งขันกันเอาเป็นเอาตาย โดยเฉพาะเครื่องคอนโซลที่ต้องจับจองผู้พัฒนา Third Party มาเซ็นสัญญาให้ลงเฉพาะเครื่องนี้เครื่องเดียวเท่านั้น แต่สมัยก่อนมันไม่ใช่ ผู้พัฒนาสามารถเลือก Platform ที่อยากจะทำเกมลงได้อย่างอิสระ ทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกเกมได้อย่างมากมายโดยไม่ต้องไปไล่ซื้อเครื่องอื่นให้ครบ และไม่ต้องไปทำสงครามนํ้าลายกับพวกแฟนบอยอีกต่างหาก 

Party Game พ่วง Multitab เล่นด้วยกันมันส์กว่าเยอะ

บอมเบอร์แมน เกมสามัญประจำบ้านที่ต้องมีติดกันทุกบ้าน

 

 

Chibi Maruko อีกหนึ่ง Party Game ที่สนุกมากๆ

      ในสมัยนี้แทบทุกเกมต้องมีโหมด Multiplayer กันหมด ใครไม่มีก็เชยแย่ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมกับผู้เล่นอื่นๆ ได้ทั่วโลก แต่ก็ขาดความสนุกที่ผู้เล่นต้องมาเล่นเกมด้วยกันโดยเอาจอยมาต่อกับ Multitab ในสมัยก่อนพวก Party Game ที่เล่นได้มากกว่า 2 คนขึ้นไปมีเยอะมาก แต่ในปัจจุบันเกมพวกนี้ก็ลดน้อยลงขึ้นทุกวันเพราะระบบ Multiplayer ไอ้การได้นั่งล้อมวงเล่นเกมด้วยกัน ปากดีใส่กันมั่ง ด่าพ่อล่อแม่กันบ้าง มันก็ค่อยๆ จางหายไป และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เครื่อง Nintendo ยังคงขายได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะว่ามี Party Game อยู่เยอะนั่นเอง

2D Side Scrolling Action  อีกหนึ่งแนวเกมที่ลดน้อยลง

     ในปัจจุบัน สิ่งที่เกมเมอร์ปรารถณาและผู้พัฒนาอยากสนองคงหนีไม่พ้นเรื่อง Graphic ที่ทำออกมาแข่งกันเพื่อความสมจริงที่สุด ซึ่งจะมีเกมอยู่แนวหนึ่งซึ่งพัฒนายังไงก็ไม่ได้ไปมากกว่านี้แล้วก็คือ 2D Side Scrolling Action นั่นเอง ในสมัยก่อนเกมแนวนี้สนุกๆ ก็มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Sonic, Contra รวมไปถึงพวกเกมยานยิงแนวข้างอย่างเจ้า Gradius ภาพเหลี่ยมๆ กระจอกงอกง่อย แต่มันก็เป็นเกมที่สนุกมากๆ และไม่ต้องพึ่ง Graphic ซึ่งขัดกับกระแสในสมัยนี้ กลายเป็นว่าที่ยืนของเหล่าเกมพวกนี้จะกลายเป็นพวกเกม Download จากผู้พัฒนาหน้าใหม่ซะมากกว่า แต่ก็ยังมีผู้พัฒนาที่พยายามเติมเต็มในส่วนของ Content ให้ตัวเกมยังคงอยู่ได้

บอมเบอร์แมนแบบ 2.5D ตามยุคตามสมัย แต่พาให้งงหนักกว่าเดิม

สดใสไร้เดียงสา ไม่มีพิษมีภัย

สมัยก่อน Doom ถือว่าโหดสุดๆ แล้ว

      ด้วยเทคโนโลยีในสมัยก่อน การจะทำเกมให้ดูสมจริงซักเกม ยังไงมันก็ยังดูเป็นตัวการ์ตูนอยู่ดี เอฟเฟกต์ต่างๆ ก็ไม่ค่อยมีอะไรมากมาย ผลที่ได้ก็คือตัวเกมนั้นแทบจะไม่มีความรุนแรงเลย เกมที่สมัยนั้นเป็นข่าวว่ามีความรุนแรงก็มีแค่ Mortal Combat และ Doom ซึ่งพอมาดูในสมัยนี้ก็รู้สึกว่ามันช่างธรรมดาเสียเหลือเดิน ความสมจริงของเกมในปัจจุบัน, เนื้อเรื่องของเกมที่เข้มข้นขึ้น ทำให้เด็กเล็กเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบได้ง่ายขึ้นซึ่งทำให้พ่อแม่ยุคใหม่ต้องสอดส่องดูแลบุตรหลานตอนเล่นเกมมากยิ่งขึ้น

จะยากไปไหน เอาอะไรมาให้เล่น

     โหดและหิน เป็นจุดเด่นของเกมในยุคนั้น บางเกมแทบจะเขวี้ยงจอยทิ้ง เล่นยังไงมันก็ไม่ผ่านเสียที บางเกมอาจจะง่ายลงมาหน่อยแต่ก็กดดันด้วย Continue ที่มีจำกัด ตายปุ๊บเริ่มใหม่ ไหนจะมีโหมด Hard ให้เล่นกันอีก ส่วนตัวเชื่อว่าถ้าให้เด็กยุคนี้กลับไปลองเล่นดู รับรองว่าร้องจ๊ากแน่นอน (ผมเคยใช้เวลาเล่น Makaimura เป็นเวลาเกือบหนึ่งวัน กว่าจะจบ T T)

ขึ้นๆ ลงๆ ซ้ายขวา ซ้ายขวา B A Start 

กดสูตร 30 ตัว เพื่อเอามาเล่นตัดฉากกับเพื่อนในด่านที่ 3


      เสน่ห์อีกหนึ่งอย่างของเกมสมัยนั้นก็คือ สูตรเกมนั้นเอง ในสมัยนั้นมักจะมีสูตรลับของเกมต่างๆ ซุกซ่อนอยู่ภายในเพื่อให้เราสามารถเล่นเกมได้ง่ายขึ้น สมัยนั้นการสื่อสารก็ไม่ได้ทั่วถึงเหมือนสมัยนี้แต่เราก็ไปค้นหากันมาจนเจอจนได้ โดยเฉพาะเจ้า ขึ้นๆ ลงๆ ซ้ายขวา ซ้ายขวา A B Start หรือที่เรียกว่า Konami Command ที่ชาว Contra มักจะจำได้เป็นอย่างดี (บางที 30 ตัวยังไม่พอ ต้องไปขอยืมตัวชาวบ้านเขาอีกต่างหาก ฮ่าๆๆ ) แต่เกมในยุคปัจจุบันนั้น มักจะต้องทำการ Unlock โดยการเก็บ Trophy, Achievements หรือเงื่อนไขตามที่เกมกำหนดซะมากกว่า  

      เรียกว่าเป็นจุดเด่นที่ทำให้บางครั้ง ก็ยังเผลอตัวหาเกมเก่ามาเล่นอยู่เรื่อย ซึ่งบางอย่างมันก็หาแทบไม่ได้ในยุคนี้อีกแล้ว เพื่อนๆ ล่ะครับชอบความคลาสสิคอะไรบ้างในเกมสมัยนั้น

 

ขอบคุณภาพจาก

http://www.ign.com

คุณ wadda จาก  http://www.thairetro.com

Futuregamez.net

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้