ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่ >>Devil May Cry 4 : แนะนำเทคนิคจัดการบอสและจุดเก็บออพต่างๆ [ภาค1]
เทคนิคการเล่น Secret Mission
เป็นการอธิบายถึงเทคนิคการผ่านและตำแหน่งของ Secret Mission ทั้ง 12 ฉาก ผลที่ได้จากการเล่น Secret Mission ก็คือ Blue Orb Fragment
Secret Mission 01: Annihilation
สถานที่ – Mission 02: ทางเดินบริเวณ Terrace / Business District
เงื่อนไข – กำจัด Scarecrow ทั้งหมดให้ได้ภายใน 60 วินาที
วิธีผ่าน – กุญแจสำคัญที่จะใช้จัดการ Scarecrow ทั้งหมดในภารกิจนี้ก็คือ ใช้ Devil Bringer ทุบอย่างเดียว เพราะการใช้ Red Queen ที่มีท่วงท่าสวยงามนั้นจะทำให้เสียเวลามากเกินความจำเป็น
Secret Mission 02: Alley-Oop
สถานที่ – Mission 04: ทางเดินที่มีปืนใหญ่ยิงลูกไฟขนาดใหญ่ ทำลายป้อมปืนนั้นด้วย Gyro Blade
เงื่อนไข – โจมตีศัตรูกลางอากาศให้ได้ติดต่อกัน 5 ตัว
วิธีผ่าน – หัวใจสำคัญในการผ่านคือ Devil Bringer โดยเราจะต้องโจมตีศัตรูจากบนอากาศให้ได้ต่อเนื่องกันถึง 5 ตัว วิธีจัดการทำได้ง่ายๆ ในขณะที่กระโดดลอยตัวอยู่ในอากาศนั้น ใช้ Devil Bringer จิกศัตรูขึ้นมาแล้ว Buster เหวี่ยงลงพื้น
Secret Mission 03: Nonviolent Resistance
สถานที่ – Mission 05: ใต้ถุนบันไดบริเวณสุสาน Soldier‘s Graveyard
เงื่อนไข – สร้าง Stylish ให้ขึ้นเต็มแถบหนึ่งระดับโดยที่ไม่โจมตีศัตรู
วิธีผ่าน –วิธีผ่าน Secret Mission นี้ทำได้หลายแบบ อาจจะใช้ Skill Table Hopper เพื่อใช้หลบการโจมตีของศัตรูแบบฉิวเฉียด ซึ่งจะทำให้ได้ Stylish ขึ้นมา แต่ก็เป็นวิธีที่ยุ่งยากเกินเพราะเดาการโจมตีของศัตรูได้ยากนัก หรือใช้ Devil Bringer กระโดดจิกมันขึ้นมาแล้วกระโดดเหยียบหัวมันด้วย Enemy Step แล้วลงมาทำท่าเยาะเย้ยใส่พวกมันก็จะได้ Stylish เพิ่มขึ้นเช่นกัน วิธีนี้เป็นวิธีง่ายที่สุดแล้ว
Secret Mission 04: Tracking Treasure Down
สถานที่ – Mission 06: บริเวณหลอดมนุษย์ทดลอง 3 หลอด
เงื่อนไข – ค้นหา Red Orb ที่ซ่อนอยู่ในฉากให้ได้ 99 Orb ภายในเวลา 2 นาที
วิธีผ่าน – วิ่งไปให้ทั่วฉากแล้วดูระบบ Auto Search ที่มือ Nero หากแสงเปล่งประกายยิ่งขึ้นแสดงว่าใกล้จุดดังกล่าว
Secret Mission 05: Sky Scraper
สถานที่ – Mission 07: ต้นไม้ที่อยู่บนหน้าผา สุดทางน้ำตก Lapis River
เงื่อนไข – กระโดดขึ้นไปเก็บ Blue Orb Fragment ที่อยู่บนจุดสูงสุดในฉากภายในเวลา 60 วินาที
วิธีผ่าน – วิธีขึ้นไปเก็บนั้นจะมีแท่นกระโดดสีแดง และลูกแก้วไว้ใช้ในกรณีดึงตัวขึ้นไป โดยเริ่มจากกระโดดขึ้นไปเมื่อลอยตัวถึงจุดสูงสุดให้กดล็อกเป้าค้างไว้จะได้ยินเสียงล็อกเป้ากับลูกแก้วให้รีบกดดึงทันที กดต่อเนื่อง 2 ครั้ง จะขึ้นไปยังแท่นกระโดดสีแดงที่ 2 แล้วดีดตัวลอยสูงขึ้นไปอีก จากนั้นพยายามโยกตัวให้มาตรงกลางแล้วทำแบบเดิมเพราะจะมีลูกแก้วหลอกตำแหน่งอยู่ แต่ไม่ต้องกังวลดึงต่อเนื่อง 2 ครั้ง แล้วขึ้นไปยังแท่นสีแดงที่ 3 ดีดตัวต่อขึ้นไปอีกคราวนี้ต้องเล็งให้ดี ให้ลอยตัวเข้าสู่ตรงกลาง เพราะแท่นดีดสีแดงอันต่อไปจะอยู่ตรงกลาง แต่คราวนี้มีกรงเหล็กขวางกั้นอยู่ พยายามเล็งให้ผ่านกรงเหล็กนั้นให้ดี เมื่อผ่านกรงเหล็กและดีดตัวขึ้นไปแล้วคราวนี้จะมีลูกแก้วอันเดียว ใช้มันดึงตัวเองไปลงรั้วเหล็กที่สามารถยืนได้ด้านข้างก่อน จากนั้นดึงไปที่ลูกแก้วอีกทีแล้วขึ้นไปยังแท่นดีดสีแดงคราวนี้ก็ลอยตัวให้ขึ้นไปหา Blue Orb Fragment ได้แล้ว
Secret Mission 06: Vermifuge
สถานที่ – Mission 10: ประตูขวามือหลังผ่านแผงกับดักเลเซอร์
เงื่อนไข – กำจัด Chimera Seed ให้หมดก่อนที่จะพุ่งไปรวมตัวเข้ากับ Scarecrow
วิธีผ่าน – ฉากนี้ก็เหมือนจะยากแต่เมื่อมีสกิล แบกศัตรูได้แล้วไม่ต้องกลัว เริ่มฉากมาก็แบกเจ้า Scarecrow ก่อนเลย จากนั้นเหล่าฝูง Chimera Seed ก็จะเตรียมพุ่งเข้ามารวมตัว เมื่อเห็นมันพุ่งเข้ามาให้รีบกระโดดหลบโดยที่ยังแบกเจ้า Scarecrow ไว้อยู่กระโดดหลบไปเรื่อยๆ และนำเจ้า Scarecrow ไปปล่อยไว้ยังสุดซอยไหนก็ได้มีให้เลือกเต็มไปหมด ทีนี้ก็จัดการมาเก็บ Chimera Seed ง่ายๆ ไปทีละตัว
Secret Mission 07: Free Running
สถานที่ – Mission 10: ประตูซ้ายมือก่อนเข้าห้องไปสู้กับ Dante
เงื่อนไข – วิ่งไปตามแท่นวาร์ปให้ได้จนถึงสุดทาง
วิธีผ่าน – ฉากนี้หากมองผิวเผินก็จะเป็นฉากที่หินอีกฉากหนึ่งเพราะแท่นวาร์ปนี้บางครั้งก็โผล่นาน บางครั้งก็โผล่ไว บางครั้งมีให้ยืนเพียงที่แคบๆ ประเด็นความยากกลับอยู่ตรงที่มีฝูง Mephisto มาคอยป่วนอย่างโหดร้ายทารุณ การถูกมันโจมตีจะยังไม่ผิดเงื่อนไขและเล่นต่อได้ แต่ถ้าตกจากแท่นร่วงเหวไปเมื่อไหร่เป็นอันจบ วิธีที่ง่ายกว่านั้นก็คือเมื่อเริ่มทำให้แท่นวาร์ปทำงานเมื่อไหร่ ให้วิ่งออกไปนิดเดียวเพื่อเรียก Mephisto มา จากนั้นรีบย้อนกลับมายังที่จุดเริ่มต้น ทีนี้ก็จัดการสะสางความแค้นกับเจ้า Mephisto ให้เต็มที่ เสร็จแล้วก็เดินไปตามแท่นได้สบายใจ
Secret Mission 08: Royal Blocker
สถานที่ – Mission 14: ศาลาก่อนออกจากป่าไปยังน้ำตกใหญ่
เงื่อนไข – ทำ Royal Block ติดต่อกัน 5 ครั้ง จาก Mephisto 2 ตัว (Dante เท่านั้น)
วิธีผ่าน – การทำ Royal Block ก็คือกดป้องกันในจังหวะก่อนถูกโจมตีแบบฉิวเฉียด ถ้าติดจะเห็นเป็นคลื่นพลังสะท้อนสีแดงอย่างรุนแรง ความยากของฉากนี้ก็คือมี Mephisto คอยรุมล้อมด้วยกัน 2 ตัว อาจจะยากหากต้องคอยระวังทั้ง 2 ตัว แล้วจะต้องกังวลอะไร มันไม่ได้ห้ามเราฆ่ามัน ฆ่า Mephisto ให้ตายไปก่อนเลย 1 ตัว ทีนี้เหลือตัวเดียวก็ไม่ยากแล้ว คอยกดให้ถูกจังหวะต่อเนื่องกัน 5 ครั้ง ถ้าพลาดก็ต้องเริ่มใหม่ Block แบบธรรมดาก็ไม่ได้เช่นกัน ต้อง Royal Block เท่านั้น
Secret Mission 09: Unbreakable
สถานที่ – Mission 15: ใต้บันไดทางลับห้องสมุดชั้นล่างสุดก่อนออกประตู
เงื่อนไข – จัดการศัตรูทุกตัวในฉาก โดยห้ามถูกโจมตี
วิธีผ่าน –โดยศัตรูที่เจอนั้นมี Assault 3 ตัว Chimera Seed ที่พร้อมจะรวมตัวเข้ากับ Assault ได้ทุกเมื่อ 3 ตัว และที่พื้นยังมีเจ้า Fault ที่คอยดูดไปลงโทษอีกด้วย ยังไม่พอเมื่อจัดการ เจ้า Assault และ Chimera Seed ได้หมดแล้ว เวลานรกของจริงมาเยือนทันที เพราะจะมี Assault อีก 3 ตัวที่ถูกรวมด้วย Chimera Seed ไว้แล้วโผล่ออกมาอีก เทคนิคในฉากนี้คือต้องไว ดังนั้นต้องใช้ Trickster ไว้เลยทั้ง Dash และ Sky Star ต้องคล่องและไม่พลาดที่จะถูกมันแม้รอยขีดข่วนก็เป็นอันจบภารกิจ ใช้ Stinger แทงเข้าไปและคอยถอยห่าง ระหว่างนี้ใช้ปืนลูกซองเป่าทิ้งทวนไว้ด้วย ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนหมดก็เคลียร์ได้
อย่าให้โดนโจมตีเป็นอันขาด
Secret Mission 10: Puppet Master
สถานที่ – Mission 05: หลังกระจกเหนือเตาผิง ในห้อง Master’s Chamber
เงื่อนไข – ปั่นลูกข่าง Gyro Blade ทำลายรูปปั้นทั้ง 5 ภายในเวลา 2 นาที
วิธีผ่าน – ฉากนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ไม่มีอะไรยาก แค่คุมลูกข่างให้ดีๆ ปั่นมันให้ทำลายรูปปั้นทั้ง 5 ให้ได้ภายในเวลาที่กำหนดแค่นั้น อันที่ 1 อยู่กลางทางเดินที่อยู่ตรงหน้า, อันที่ 2 อยู่บริเวณที่มีรูปปั้นซื้อไอเทม, อันที่ 3 อยู่สุดทางเดิน, อันที่ 4 อยู่ตรงหน้าประตูออกจากทางเดิน และอันที่ 5 อยู่ในห้องที่มีรั้วเหล็กขวางกั้น
Secret Mission 11: Point of Impact
สถานที่ – Mission 15: บริเวณทางบันไดถล่มที่ขึ้นไปตามภูเขา จนถึงจุดที่มี Red Orb ลอยอยู่ (แปลงร่าง Devil Trigger ในโหมด Trickster แล้วกระโดด 3 ขั้น และ Sky Star อีก 1 ครั้ง)
เงื่อนไข – ทำลายรูปปั้นทั้ง 2 ด้วยป้อมปืนใหญ่ Pandora: Revenge ภายในเวลา 30 วินาที
วิธีผ่าน – การจะผ่านฉากนี้ได้ต้องอาศัยปืน Pandora เท่านั้น และจะต้องอัพเกรดท่า Revenge มาแล้วด้วยจึงจะทำตามเงื่อนไขได้ รูปปั้นทั้ง 2 ตัวอยู่ห่างกันไปคนละทิศละทาง โดยให้เริ่มยิงตัวที่อยู่หน้าปราสาทก่อน แล้วค่อยวิ่งไปยิงตัวที่อยู่สุดทางเดินเกือบจะถึงเกาะ เพราะเวลามีน้อยมากหากวิ่งไปยิงตัวที่ 2 ก่อน กว่าจะเสร็จกว่าจะวิ่งย้อนกลับมาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และไม่มีอะไรมากด้วยในฉากนี้ ถ้ายิงไม่ผ่านก็เข้ามาเล่นใหม่ยิงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะผ่าน อาจจะเล็งยากนิดหน่อยแต่ก็ไม่ยากเกินไปนัก
Secret Mission 12: Steeplechase
สถานที่ – Mission 17: บริเวณประตูรั้วขวามือของ Opera House Plaza จะมีถังขยะตั้งปิดไว้
เงื่อนไข – ผ่านกับดักแผงเลเซอร์ไปให้ได้ ห้ามโดนเลเซอร์สะกิดสักครั้งเดียว
วิธีผ่าน – แผงเลเซอร์ที่ Nero เดินผ่านไปในเนื้อเรื่อง Nero ผ่านไปได้สบายมากเพราะมีความสามารถทำให้เวลาช้าลง แต่ในภารกิจนี้ไม่มีตัวช่วยใดๆ ทั้งนั้น แต่จริงๆ แล้วฉากนี้มีวิธีผ่านได้หลายวิธี เริ่มตั้งแต่แปลงร่าง Devil Trigger ใน Trickster Style จะสามารถกระโดดต่อเนื่องได้ 3 จังหวะ และพุ่งต่อเนื่องกลางอากาศ Sky Star ได้ 2 ที หากทำดีๆ ก็สามารถผ่านได้เลย เพราะแผงเลเซอร์ไม่ได้ยาวนักแต่มันมาเยอะ ดูรูปแบบของเลเซอร์ให้ดี มันวนซ้ำรูปแบบเดิมๆ อย่าตื่นเต้น ตั้งสติแล้วกระโดดข้ามมัน จะพบว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
กะจังหวะของเลเซอร์ให้ดีๆ
แนะนำวิธีและสถานที่เก็บ Blue Orb Fragment
Blue Orb Fragment ชิ้นที่ 1
Mission 02: La Porte De L’ Enter
สถานที่ – บนหลังคาบ้านบริเวณ Residential District
วิธีเก็บ – กระโดดขึ้นไปเก็บธรรมดา
Blue Orb Fragment ชิ้นที่ 2
Mission 03: Fortuna Castle
สถานที่ – ชั้นบนสุดของถ้ำ Second Mining Area
วิธีเก็บ – ยืนอยู่ในบริเวณในภาพ กระโดดแล้วใช้ Devil Bringer ดึงตัวเองไปข้างหน้า จนไปถึงกำแพงไม้ด้านขวา กระโดดถีบตัวขึ้นไปหนึ่งทีแล้วใช้มือดึงลูกแก้วที่อยู่ด้านบน (นอกจอจนมองไม่เห็นเลยล่ะ) ดึงต่อเนื่อง 3 ครั้งจะถึงจุดที่เก็บ Blue Orb Fragment
Blue Orb Fragment ชิ้นที่ 3
Mission 03: Fortuna Castle
สถานที่ – หลังกระจกที่อยู่ตรงระเบียงทางเดินชั้นสองขวามือของ Grand Hall
วิธีเก็บ – ทำลายกระจก แล้วเข้าไปเก็บซะ
Blue Orb Fragment ชิ้นที่ 4
Mission 06: Resurrection
สถานที่ – ขอบทางเดินฝั่งตรงข้ามก่อนลงไปยัง Underground Laboratory
วิธีเก็บ – เดินไปเก็บธรรมดา
Blue Orb Fragment ชิ้นที่ 5
Mission 06: Resurrection
สถานที่ – ก่อนเข้าประตูชั้นบนหลังจากปิดกั้นเขื่อน หน้าน้ำตก Foris Falls
วิธีเก็บ – ยืนให้ตรงกับตำแหน่งที่ Blue Orb Fragment ลอยอยู่ ใช้วิธีพุ่งด้วยท่า Streak ออกไปแล้วใช้ Devil Bringer ยืดมือไปเก็บอีกที
Blue Orb Fragment ชิ้นที่ 6
Mission 07: The She-Viper
สถานที่ – บริเวณแท่นวาร์ปลอย Ruined Valley
วิธีเก็บ – เดินไปตามแท่นวาร์ปแล้วกระโดด 2 ขั้น ขึ้นไปเก็บ
Blue Orb Fragment ชิ้นที่ 7
Mission 08: Profession of Faith
สถานที่ – บริเวณเพดานทางเข้า Ancient Training Ground
วิธีเก็บ – กระโดด 2 ขั้นขึ้นไปเก็บธรรมดา
Blue Orb Fragment ชิ้นที่ 8
Mission 08: Profession of Faith
สถานที่ – อยู่ในฉาก Lost Woods เมื่อเข้าสู่พื้นที่กับดัก Hidden Pit
วิธีเก็บ – กำจัดศัตรูในฉาก Hidden Pit ให้หมด แล้วค่อยเก็บด้วยการกระโดด 2 ขั้นธรรมดา
Blue Orb Fragment ชิ้นที่ 9
Mission 09: For You
สถานที่ – ชั้น 2 ในห้อง The Gauntlet
วิธีเก็บ – วิธีเก็บก็คือ ขึ้นลิฟท์ไปยังชั้น 2 จากนั้นเมื่อเปลี่ยนไปยังลิฟท์ที่เจอเจ้า Frost 2 ตัว ฆ่ามันแล้วลิฟท์จะขึ้นไปชั้น 3 เมื่อลิฟท์หยุด จะมีประตูเปิดโล่งๆ ด้านหนึ่ง ออกไปที่ประตูนั้นจะร่วงลงสู่พื้นที่ชั้นลอยซึ่งก็คือชั้น 2 ที่เราเห็น Blue Orb Fragment จากนั้นเข้าไปใกล้ๆ Blue Orb Fragment มันจะลอยอยู่นอกชั้นลอย ถ้ากระโดดไปเก็บพลาดจะต้องเริ่มขึ้นมาใหม่ ใช้วิธีปรับมุมกล้องให้เห็นชัดเจนแล้วกระโดดยืดมือ Devil Bringer ไปเก็บแทน แน่นอนกว่าเยอะ
Blue Orb Fragment ชิ้นที่ 10
Mission 12: A New Beginning
สถานที่ – บริเวณนอกตัวลิฟท์ชั้น 3 ที่ทำงานด้วย Wing Talishman ในพื้นที่ Meeting Room
วิธีเก็บ – เมื่อลงลิฟท์มาแล้ว ให้กระโดดขึ้นไปยืนบนขอบชั้นสองด้วยการกระโดด 2 ขั้น จากนั้นแปลงร่าง Devil Trigger พร้อม Trickster Style จัดการกระโดด 3 ขั้นขึ้นไปยังขอบชั้น 3 ก็จะถึงชั้น Blue Orb Fragment กระโดดไปเก็บซะ
Blue Orb Fragment ชิ้นที่ 11
Mission 16: Inferno
สถานที่ – ฝั่งตรงข้ามทางออกของถ้ำ Second Mining Area ที่ย้อนเข้ามา
วิธีเก็บ – ใช้แท่นกระโดดสีแดง กระโดดต่อเนื่องกัน 2 ครั้ง แล้วโยกทิศทางให้พุ่งเข้าหาตัวเราจนเห็นพื้นที่หนึ่งที่สามารถเข้าไปได้ให้กดพุ่ง Sky Star กลางอากาศต่อเนื่องอีกครั้ง ก็จะลงไปตำแหน่งนั้นได้ ทำลายรั้วไม้ซะเข้าไปด้านในจะพบ Blue Orb Fragment อยู่ถังใส่ถ่านหิน
Blue Orb Fragment ชิ้นที่ 12
Mission 17: Adagio for Strings
สถานที่ – บนดาดฟ้าร้านค้า บริเวณทางเดิน Business District
วิธีเก็บ – ในฉากนี้ให้มองหากันสาดที่หนึ่งซึ่งมี Red Orb อยู่ด้านบน เพราะเมื่อขึ้นไปเก็บ Red Orb แล้วจะพบว่ายืนบนกันสาดนั้นได้ และจากจุดนี้จะมองเห็น Blue Orb Fragment ที่อยู่บนดาดฟ้า แปลงร่าง Devil Trigger พร้อม Trickster Style จัดการกระโดด 3 ขั้นและพุ่ง Sky Star กลางอากาศขึ้นไปเก็บซะ
โอ้เจอ Blue Orb Fragment แล้ว แอบซ่อนอยู่บนนั้นเอง
Adjudicator Location (แท่นระบายอารมณ์ทั้ง 8 ตำแหน่ง)
โดยปกติแล้ว Adjudicator Location นี้จะเป็นแท่นที่ใช้เก็บ Blue Orb Fragment แต่ในภาคนี้ยังใช้เก็บ Red Orb ไปในตัวได้อีกด้วย (ถ้าเก็บ Blue Orb Fragment ไปแล้ว) ดังนั้นไม่ควรพลาดทุกครั้งถ้าหากในแต่ละฉากที่เล่นนั้นมีเจ้าแท่นดังกล่าว สำหรับ Nero และ Dante จะมีแท่นประจำสีของตัวเองกันไป ไม่สามารถทำลายของอีกคนได้ โดยในที่นี้ขอแนะนำ Adjudicator Location ของ Nero และ Dante ตามลำดับดังนี้ครับ
4 Location ของการเล่น Nero
Mission 02 – ก่อนเข้าประตูเจอ Berial
Stylish ที่ต้องทำ – Brutal!
Mission 07 – บริเวณหน้าประตูก่อนจะเจอ Echidna
Stylish ที่ต้องทำ – Atomic!
Mission 09 – ซ้ายมือของประตูเข้า Grand Hall
Stylish ที่ต้องทำ – Smokin’!
Mission 11 – ตามทางเดินไปทางขวามือของ Advent Chamber
Stylish ที่ต้องทำ – Smokin’ Sick Style!!!
พยายามสร้าง Stylish ให้ได้
4 Location ของการเล่น Dante
Mission 12 – ทางลับขวามือของห้อง Grand Hall ห้องที่เจอ Bianco Angelo และ Alto Angelo ขึ้นไปจนถึงห้อง The Guantlet
Stylish ที่ต้องทำ – Brutal!
Mission 13 – ขวามือห้อง Ruined Church ห้องที่มีฟักทองเยอะๆ
Stylish ที่ต้องทำ – Atomic!
Mission 15 – บันไดซ้ายมือบริเวณน้ำตกใหญ่ Foris Falls
Stylish ที่ต้องทำ – Smokin’ Style!!
Mission 16 – ก่อนเข้าประตู Underground Laboratory
Stylish ที่ต้องทำ – Smokin’ Sick Style!!!