เจาะลึกเรื่องราวของซีรีส์เกม Metal Gear Solid 4: Guns of the Patriots [ Part 1 ]

 สกู๊ปพิเศษ

เจาะลึกเรื่องราวของซีรีส์เกม Metal Gear Solid 4: Guns of the Patriots

Mission Briefing

      หลังจากเกิดเหตุการณ์เกาะแมนฮัตตันเมื่อ 5 ปีก่อนทำให้อเมริกาไม่อาจจะเข้าแทรกแซงสมรภูมิของประเทศอื่นๆ ได้โดยง่าย และนี่เองเป็นจุดกำเนิดของการแปรรูปทางการทหารและผลักดันให้สภาวะสงครามนั้นตกเป็นผลประโยชน์แก่พวก PMCs (Private Military Companies)

      PMCs คือบริษัทที่มีกองทัพทหารรับจ้างอิสระที่ไม่ขึ้นตรงต่อใคร องค์กรนี้มีขนาดใหญ่และมากมายทั่วโลก แสวงหาผลกำไรด้วยการทำสัญญากับผู้ว่าจ้างและออกรบแทนในสงครามต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยีใหม่ในโครงการของอาร์มส์เทคส์ (ArmsTechs) ได้ทำการสร้างระบบรักษาความปลอดภัย สามารถควบคุมข้อมูลขนาดใหญ่ในสมรภูมิ ส่งผลให้ PMCs นั้นพลอยเติบโตไปด้วย

       ในปัจจุบันนี้สงครามทั่วโลกกว่า 60% นั้นถูกแทรกแซงโดย PMCs สงครามในปัจจุบันนี้เริ่มจะเป็นเสมือนสงครามตัวแทนกลายๆ เช่นเดียวกับสงครามเย็นในอดีต ซึ่งองค์กรอย่าง PMCs ในปัจจุบันมีมากกว่าหนึ่งร้อยองค์กรและในจำนวนนั้นมีห้าองค์กรที่ใหญ่เพียงพอจะเป็นเจ้าโลกได้เลย จากการสืบเรื่ององค์กรเหล่านี้พบว่า 5 องค์กรนี้มีบริษัทแกนนำลับๆ คอยบงการอยู่อีกทีหนึ่ง นั่นคือ เอาเตอร์เฮฟเว่น (Outer Heaven) ซึ่งเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับลิขวิดแน่นอน และด้วยกองกำลังทหาร PMCs ทำให้ลิขวิดอาจจะนำมาใช้ปฏิวัติและสร้างความคุกคามเมื่อไหร่ก็ได้

         องค์การสหประชาชาติ U.N. ได้ทำการจัดตั้งทีมสืบสวนและคอยสอดส่องพวกทหาร PMCs ไว้และได้รับรายงานมาว่าพบลิขวิดในเขตตะวันออกกลาง ซึ่งที่นั่นมีสงครามระหว่างกลุ่มปฏิวัติและกลุ่มรัฐบาลที่จ้างทหาร PMCs โดย PMCs นี้อยู่ภายใต้การควบคุมของลิขวิดอีกที ผู้พันแคมป์เบลจึงได้ขอร้องให้สเน็ครับภารกิจนี้หยุดยั้งลิขวิดก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้

Act 1: Liquid Sun

     สเน็คได้เข้ามายังตะวันออกกลางโดยแฝงตัวเข้ามากลับกลุ่มต่อต้าน ซึ่งที่นี่สเน็คต้องเผชิญหน้ากับเมทัลเกียร์เกคโค่ (Gekko) หนึ่งในอาวุธไร้คนควบคุมของ PMCs สเน็คได้หลบเมทัลเกียร์เกคโค่มาได้ด้วยชุดพรางตัวแบบใหม่ของเขา สำหรับหน้าที่ของเขาตอนนี้คือติดต่อกับทีม RAT PT 01 ที่ประจำการอยู่ที่นี่ ในระหว่างทางนี้เองสเน็คได้พบกับชายคนหนึ่งชื่อว่าเดรบิน (Drebin)

      เดรบินได้แนะนำตัวกับสเน็คว่าเขาเป็นนักฟอกอาวุธ ซึ่งอาวุธของ PMCs จะมี ID ยืนยันเจ้าของอยู่ถ้า ID ของผู้ใช้ไม่ตรงกับปืนก็ไม่สามารถใช้ปืนได้ แต่สำหรับเดรบินแล้วเขาสามารถแก้ไขให้ใช้ได้ นอกจากนี้เขาเคยทำงานให้อาร์มส์เทคส์ทำให้สามารถรู้ข้อมูล ID ปืนและแก้ไขได้สบายๆ จากนั้นเขาก็มอบปืน M4 ให้สเน็คลองใช้ แต่น่าแปลกสเน็คไม่สามารถใช้ได้ เดรบินจึงได้เข้าใจว่าคงเพราะสเน็คใช้นาโนแมชชีนรุ่นเก่าซึ่งไม่สนับสนุนกับนาโนแมชชีนรุ่นใหม่จึงไม่อาจใช้ได้

      เดรบินได้เสนอธุรกิจกับสเน็ค ซึ่งในสงครามนี้มีปืนมากมายจากทหารที่ตายแค่สเน็คเก็บมาให้เขา แล้วเขาจะตีเป็นแต้มให้สเน็คนำไปใช้ซื้อปืนของเขาได้ นอกจากนี้เขายังรับปลดล็อกปืน แต่ก่อนจะทำการซื้อขายนั้น เดรบินบอกว่าเขาต้องหยุดการทำงานนาโนแมชชีนรุ่นเก่าของสเน็คเพราะอาจจะเป็นตัวขัดขวางระบบ จากนั้นเดรบินได้ใช้เข็มฉีดยาที่คอของสเน็ค ตอนนี้สเน็คสามารถใช้ปืนที่แก้ ID ได้แล้ว

       สเน็ครีบไปยังจุดนัดพบ เมื่อไปถึงที่หมายสเน็คได้เจอทีม RAT PT 01 ตามที่นัดไว้และพบว่าหัวหน้าทีมนี้เป็นเมอริลนั่นเอง ทีมของเมอริลที่ประจำการจะประกอบไปด้วย เอ็ด โจนาธาน และจอห์นนี่ แต่ทุกๆ คนมักจะเรียกจอห์นนี่ว่าอากิบะ

       เมอริลก็ได้เล่าสถานการณ์ว่าเธอถูกส่งมาเพื่อคอยตามจับตาลิขวิด แม้ว่าลิขวิดจะวางแผนอะไรบางอย่างแต่ยังไงก็ไม่มีทางที่จะทำสำเร็จแน่นอน สเน็คได้ถามว่าอะไรทำให้เมอริลมั่นใจได้ขนาดนั้น เมอริลได้อธิบายต่อว่าด้วยเทคโนโลยีของอาร์มส์เทคส์ในปัจจุบันทหารทุกคนจะมีการฉีดนาโนแมชชีนเอาไว้ในตัว ซึ่งข้อมูลของทหารทุกคนจะสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นสภาพร่างกายและจิตใจซึ่งจะถูกจับตามองและควบคุมข้อมูลโดย AI นอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยีนี้ยังสามารถทำให้ทหารสามารถติดต่อสื่อสารกันด้วยการกระทำ ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้สอดคล้องเข้ากับทีมเวิร์คเป็นอย่างดี สร้างความได้เปรียบในสนามรบเป็นอย่างมาก เทคโนโลยีนาโนแมชชีนระบบนี้เรียกว่า SOP (Sons of the Patriots) ด้วยระบบนี้เองทำให้สามารถตรวจสอบและคอยจับตามองเหล่า PMCs ที่ใช้ระบบนี้เหมือนกันได้ตลอด ถ้า PMCs มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ สหรัฐฯ ก็สามารถส่งกำลังมาจัดการได้ทันที

      สเน็คได้ถามถึงเรื่องผู้พันแคมป์เบล แต่ดูเหมือนเมอริลจะโกรธมาก เพราะผู้พันแคมป์เบลแต่งงานใหม่กับหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกสาวตัวเอง ทำให้เมอริลไม่พอใจในเรื่องนี้ ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นหน่วยรบพิเศษของลิขวิดชื่อว่า Frogs ได้บุกเข้ามาจู่โจมทำให้พวกสเน็คและเมอริลต้องบุกฝ่าออกไป หลังจากฝ่าออกมาได้สำเร็จ สเน็คได้รุดหน้าเข้าไปยังที่อยู่ของลิขวิดตามที่เมอริลได้บอกไว้ และในระหว่างทางสเน็คต้องพบกับกลุ่มของทหารต่อต้านซึ่งได้ถูกหน่วย Beauty and Beasts (B&B) ทั้ง 4 ฆ่าตายจนหมด

      หลังจากนั้นสเน็คได้มุ่งไปยังที่หมายต่อไปจนพบกับลิขวิดและตอนนี้เอง ดูเหมือนลิขวิดจะสั่งการอะไรบางอย่างเป็นผลให้ทหาร PMCs รอบๆ เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมา รวมไปถึงทีมของเมอริลก็เริ่มแสดงอาการเหมือนกัน มีเพียงอากิบะคนเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนสเน็คเองก็ออกอาการเช่นเดียวกับทหารคนอื่นๆ แต่ยังคงประคองสติและตรงไปหาลิขวิด เมื่อลิขวิดได้เห็นสเน็คจึงได้บอกว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่า พวกเราทั้งสองคนนั้นไม่ใช่ตัวสำเนาจากบิ๊กบอสแม้แต่นิด ซึ่งนี่เองก็เปรียบเหมือนเราทั้งคู่นั้นเป็นอิสระ จากนั้นลิขวิดก็ได้เดินจากไป จากนั้นไม่นานอากิบะก็ได้เข้ามาช่วยและแบกสเน็คออกไปจากที่นี่ (จบ Act 1)

Mission Briefing

     นาโอมิได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือมา โดยเธอได้ให้รายละเอียดว่า ถูกลิขวิดบังคับให้ร่วมมือวิจัยอยู่ที่อเมริกาใต้ ซึ่งตอนนี้ลิขวิดมีแผนที่จะแฮ็กระบบ SOP ซึ่งเธอโดนจับตัวมาและบังคับให้ร่วมมือ

Act 2: Solid Sun

    ที่อเมริกาใต้นี้มีกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเข้าปะทะกับทหาร PMCs ที่จ้างมาโดยรัฐบาลซึ่งนาโอมินั้นอยู่ด้านในฐานของพวก PMCs ซึ่งเหม่ยหลิงช่วยระบุตำแหน่งจากทางดาวเทียมให้อีกที เมื่อสเน็คสังเกตการณ์หน้าทางเข้า เขาก็พบกับแวมป์ที่รอดมาจากเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อน และหน่วย B&B อีกคนซึ่งดูเหมือนว่าพวกนี้จะรู้ว่าสเน็คจะลอบเข้ามาที่นี่ด้วย

     ผู้พันแคมป์เบลได้แนะนำให้สเน็ครู้จักกับโรสแมรี่ ซึ่งโรสจะมาทำหน้าที่เป็นคนคอยให้คำปรึกษาในด้านสภาพจิตใจและความตึงเครียดในขณะปฏิบัติภารกิจ สเน็คได้ถามผู้พันแคมป์เบลเรื่องโรส จึงทำให้รู้ว่าผู้พันแคมป์เบลนั้นได้แต่งงานกับใหม่กับโรส ทำให้สเน็ครู้ว่านี่เป็นสาเหตุให้เมอริลถึงได้โกรธผู้พันแคมป์เบล
สเน็คพบเดรบินอีกครั้งซึ่งเดรบินบอกว่าเขาทราบตำแหน่งสเน็คจากนาโนแมชชีนที่เคยฉีดให้ไป ที่มาที่นี่เพราะจะมาให้ข้อมูลเรื่องหน่วย B&B ซึ่งตอนนี้สเน็คได้ถูกหน่วย B&B กำหนดเป็นเป้าหมายที่ต้องฆ่าอีกด้วยเมื่อคุยกันเสร็จเดรบินก็ขับรถหุ้มเกราะของเขาจากไป

      ระหว่างที่สเน็คกำลังมุ่งหน้าไปช่วยนาโอมิ ไรเดนได้ติดต่อมายังสเน็ค ไรเดนบอกว่าตอนนี้เขาจะคอยช่วยเหลือสเน็ค ไรเดนเล่าให้ฟังอีกว่าที่ผ่านๆ มาเขาต้องออกตามหาศพของบิ๊กบอส เพื่อแลกเปลี่ยนกับที่ซ่อนของซันนี่ (Sunny) ลูกสาวของออลก้า ซึ่งไรเดนได้ช่วยพาออกจากพวกแพทริออต และตอนนี้ศพของบิ๊กบอสอยู่ที่บิ๊กมาม่าแล้ว จากนั้นไรเดนก็ตัดสายไป

       สเน็คติดต่อโรสและถามเรื่องของไรเดน โรสเล่าให้ฟังว่าหลังจากเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อน ไรเดนยังไม่อาจสลัดเรื่องในอดีตของเขาได้และก็หายตัวไป จากนั้นเธอจึงได้มาอยู่กับผู้พันแคมป์เบล และโรสขอให้สเน็คอย่าบอกไรเดนเรื่องที่เธอมาเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย

      เมื่อสเน็คพบนาโอมิ สเน็คได้ถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นาโอมิได้เล่าว่าลิขวิดต้องการที่จะควบคุม SOP ลิขวิดจับตัวเธอมาเพราะต้องการวิจัยในเรื่องระบบ SOP ทำให้พบว่าระบบนี้นอกจากที่จะสามารถควบคุมข้อมูลและสั่งการทหารได้แล้วยังสามารถเข้าควบคุมสภาพจิตใจได้อีกด้วย ความเจ็บปวด อารมณ์ หรือประสาท โดยระบบ SOP นี้จะคอยควบคุมและเก็บอารมณ์ไว้เพื่อทำให้พวกเขาพร้อมที่จะสู้ตลอดเวลา เหตุการณ์ที่ตะวันออกกลางนั้นลิขวิดได้พยายามหยุดการทำงานของระบบ SOP ทำให้อารมณ์ของทหารที่ถูกระงับไปเพราะนาโนแมชชีนนั้นถูกปลดปล่อยจากการสั่งสมมานาน ทำให้เกิดการคลุ้มคลั่งดังที่เห็น

       นาโอมิจึงได้ตรวจร่างกายของสเน็คและพบว่าร่างกายของสเน็คที่แก่เร็วนั้นเกิดจากการโคลนซึ่งถูกสร้างขึ้นให้มีอายุที่สั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของศัตรู จากสภาพที่เห็นแล้วทำให้คาดการณ์ได้ว่าสเน็คมีชีวิตได้อีกแค่ครึ่งปีเท่านั้น นอกจากนี้ยังพบอีกว่าไวรัส FOXDIE ในตัวของสเน็คนั้นกำลังเปลี่ยนแปลงไปจากสภาพแวดล้อมเดิมเพราะการแก่ตัวที่รวดเร็วส่งผลให้ไวรัส FOXDIE เริ่มกลายพันธุ์จากเดิมคือเล่นงานเฉพาะเป้าหมายที่มีรหัสพันธุกรรมตรงกัน แต่กลายเป็นมีโอกาสที่จะเล่นงานเหยื่อที่รหัสพันธุกรรมไม่ตรงได้เพราะความผิดเพี้ยนจากการเปลี่ยนแปลง เมื่อเป็นเช่นนี้จะส่งผลให้ไวรัส FOXDIE นั่นฆ่าคนมั่วซั่วได้ตลอด ซึ่งไวรัสนี้จะตายไปเมื่อสเน็คตาย

       นาโอมิได้มอบเข็มฉีดยาซึ่งมีสารที่ใช้ระงับนาโนแมชชีนชั่วคราว ซึ่งช่วยให้นาโนแมชชีนนั้นไม่สามารถเข้าควบคุมประสาทและสภาพจิตใจได้ นาโอมิได้เล่าถึงแผนการของลิขวิดซึ่ง ลิขวิดต้องการที่จะทำการควบคุมระบบ SOP เพื่อสร้างกองทัพทหารที่จะต่อกรกับพวกแพทริออต และระบบ SOP ที่ลิขวิดจะขโมยไปนี้ ลิขวิดเรียกมันว่า "Guns of the Patriots" ในระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นทหาร PMCs ได้บุกเข้ามาจับตัวนาโอมิไป และสเน็คต้องเผชิญหน้ากับ Laughing Octopus

       สเน็คได้ตามไปช่วยนาโอมิได้สำเร็จโดยมีเดรบินขับรถมาช่วยพาทั้งคู่หนีออกมา แต่ระหว่างที่เดรบินขับรถหุ้มเกราะหนีนั้นพวกเกคโค่ได้ไล่ตามอย่างหนัก ไรเดนซึ่งได้ปรากฏตัวออกมาในสภาพไซบอร์ก และได้เข้าไปถ่วงเวลาเกคโค่และแวมป์ที่ตามมา ไรเดนล้มแวมป์ลงได้ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บหนัก เขาได้กระโดดขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่โอตาค่อนมารับ และหนีไปพร้อมกับสเน็ค โอตาค่อนสงสัยมากว่าทำไมแวมป์นั้นไม่ตายหรือว่าแวมป์จะเป็นอมตะ แต่นาโอมิได้บอกว่าแวมป์ไม่ได้เป็นอมตะ เพียงแต่ในตัวแวมป์มีนาโนแมชชีนที่สามารถสมานแผลในร่างกายได้อย่างรวดเร็วซึ่งเธอเป็นคนสร้างขึ้นมา ส่วนไรเดนที่บาดเจ็บหนักเขาได้บอกให้สเน็คไปพบบิ๊กมาม่าที่ยุโรป (จบ Act 2)

Mission Briefing

       นาโอมิได้เล่าให้ฟังว่าตอนนี้ลิขวิดกำลังไปที่ยุโรปเพื่อตามหาศพของบิ๊กบอส สาเหตุที่ตามหาศพของบิ๊กบอสนั่นเพราะว่าลิขวิดรู้วิธีที่จะทำการยึดระบบ SOP แล้ว ซึ่งรหัสพันธุกรรมของบิ๊กบอสนั้นเป็นกุญแจที่จะนำไปสู่การควบคุมระบบ เดิมทีในเหตุการณ์ตะวันออกกลางลิขวิดได้ใช้รหัสพันธุกรรมของตัวเองในการทดลอง และในอเมริกาใต้นั้นใช้รหัสพันธุกรรมของสเน็ค แต่เพราะว่ารหัสพันธุกรรมของลิขวิดและสเน็คนั้นไม่ได้ตรงกับบิ๊กบอสโดยสมบูรณ์ ซึ่งที่ผ่านมานั้นเป็นแค่การทดลอง และตอนนี้ลิขวิดกำลังคิดจะใช้ศพของบิ๊กบอสในการยึดระบบ SOP ทางด้านไรเดนที่บาดเจ็บปางตายนั้นไม่อาจที่จะรักษาได้เพราะร่างไรเดนนั้นอยู่ในสภาพกึ่งไซบอร์ก ซึ่งเพราะไม่มีข้อมูลของระบบเลือดขาวที่ผสมไปด้วยนาโนแมชชีน ทำให้ไม่อาจรักษาปกติได้ ไรเดนซึ่งนอมซมอยู่ได้บอกว่าให้ไปหา ดร. แมดนาร์ เขาเป็นคนดัดแปลงไรเดน และที่นั่นมีอุปกรณ์ที่จะรักษาเขาอยู่ด้วย สเน็คและโอตาค่อนจึงต้องแบ่งงานกันโดยสเน็คไปตามหาบิ๊กมาม่า โอตาค่อนให้นาโอมิและซันนี่พาไรเดนไปให้ ดร. แมดนาร์รักษา

Act 3: Third Sun

     เมอริลได้คุยกับสเน็คเรื่องการลงมือปฏิบัติการของสเน็ค โดยเมอริลบอกว่าตอนนี้หมดยุคของฮีโร่ที่คิดจะฉายเดี่ยวอย่างสเน็คแล้ว เพราะสเน็คซึ่งแก่ตัวเป็นอย่างมากทำให้เมอริลต้องเป็นห่วงที่จะลงมือทำอะไรหักโหม แต่สเน็คก็พยายามที่จะทำต่อไป ทำให้เมอริลบอกว่า เธอมีแผนการที่จะจับกุมลิขวิดและมีการสั่งการของกองทัพไว้พร้อม สเน็คจะทำอะไรก็ทำไป แต่เธอจะต้องหยุดลิดขวิดได้ก่อนสเน็คแน่นอน

     สเน็คได้สะกดรอยตามคนของบิ๊กมาม่าไปจนถึงที่ซ่อนตัว บิ๊กมาม่าได้เล่าเรื่องทั้งหมดของเธอให้ฟัง สเน็คนั้นเป็นลูกของเธอเอง เธอเล่าให้ฟังว่ามนุษย์จะเกิดมาได้นั้นจำเป็นที่จะต้องถูกเลี้ยงในครรภ์ของมารดาไม่เว้นแม้แต่โคลน ซึ่งเธอเป็นคนอุ้มท้องสเน็คและลิขวิด

       บิ๊กมาม่าได้เล่าถึงเรื่องต้นกำเนิดของแพทริออต นำโดยซีโร่ หนึ่งในผู้ก่อตั้งแพทริออต สมาชิกรุ่นแรกในตอนนั้นคือ ผู้พันซีโร่, พาราเมดิค, ซิกิ้น, บิ๊กบอส, อีวา (บิ๊กมาม่า) และโอเซล็อต ซึ่งการก่อตั้งแพทริออตขึ้นมานี้เพื่อที่จะสร้างโลกอย่างที่เดอะบอสในอุดมการณ์ของเดอะบอส ซีโร่ได้นำฟิโลโซเฟอร์เลกาซี่ ซึ่งเป็นเงินทุนที่เหลือมาสร้างแพทริออตและคอยควบคุมอเมริกาอยู่เบื้องหลัง นอกจากนี้ซีโร่พยายามยกระดับบิ๊กบอสให้เป็นเสมือนวีรบุรุษ เพราะสภาวะจิตใจคนทุกคนย่อมต้องการที่จะมีวีรบุรุษไว้ในใจ

       แต่ต่อมายิ่งนานวันสภาพการเมืองที่แปรเปลี่ยนไป ซีโร่ซึ่งเหมือนกับหลงงมอยู่ในอำนาจ ความสัมพันธ์เขากับบิ๊กบอสเริ่มเหินห่าง ซีโร่จำเป็นต้องการมีหลักประกันในยามที่บิ๊กบอสตีตนห่าง เขาจึงได้ริเริ่มโครงการเลสอองฟองเทอริเบิ้ล

      (Les Enfant Terrible) นั่นคือการโคลนบิ๊กบอส และให้กำเนิดลูกชายของบิ๊กบอสขึ้นมา หัวหน้าโครงการคือ ดร. คล๊าก (Dr. Clark) หรือก็คือพาราเมดิคนั่นเอง หลังจากเหตุการณ์นี้ทำให้บิ๊กบอสออกจากแพทริออต และไปสร้างกองกำลังทหารของตนเอง ส่วนซีโร่เองก็ได้ใช้พลังอำนาจนั้นเขาครอบงำอเมริกาทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ กว่าที่พวกเราจะรู้ถึงตัวตนของแพทริออต สิ่งเหล่านั้นก็ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทริออตจนหมดสิ้น

      จุดประสงค์ของแพทริออตนั้นฟังดูดี แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั่นไม่ใช่อย่างที่คิด นี่ไม่ใช่โลกในอย่างที่เดอะบอสต้องการ จนเรื่องราวทั้งหมดทำให้บิ๊กบอสกับซีโร่นั้นแตกหักกัน

      บิ๊กบอสกลับอเมริกาอีกครั้งพร้อมกับแผนไว้ในใจโดยเป็นผู้บัญชาการ FOXHOUND แต่สเน็คลูกชายของเขา ได้ทำลายแผนการทั้งหมด เอาเตอร์เฮฟเว่น และแซนซีบาร์ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นซีโร่ได้นำร่างที่ยังมีชีวิตของบิ๊กบอสมาขังเอาไว้ สำหรับซีโร่แล้วบิ๊กบอสเองก็ยังเป็นเพื่อนของเขา แต่การที่บิ๊กบอสทรยศเขานั้น ทำให้เขาต้องสูญเสียความเชื่อในทุกๆ สิ่งไป และไม่อาจมั่นใจที่จะส่งมอบอำนาจให้กับคนในรุ่นต่อๆ ไป นั่นทำให้ซีโร่ตัดสินใจใช้ AI ทั้ง 4 ตัว GW, TJ, AL และ TR จัดการควบคุมระบบทุกอย่างแทนโดยมีแกนหลักเป็น JD ซึ่งควบคุมข้อมูลทุกอย่างของอเมริกาทั้งหมด

         สำหรับบิ๊กบอสแล้วเขาตกอยู่ในสภาพเสมือนตาย ซีโร่ได้จับบิ๊กบอสไว้ในสภาพนั้น ไม่เป็นและไม่ตาย โอเซล็อตและอีวาได้หาทางช่วยบิ๊กบอสออกมาโดยให้นาโอมิเป็นฝ่ายวิจัยในองค์กรและให้แฟรงค์เจียเกอร์ฆ่า ดร. คล๊าก ส่วนโอเซล็อตฆ่าดาร์พาชีฟ ที่รู้จักกันในนามซิกิ้นท์ โดยทำให้เหมือนอุบัติเหตุ ทำให้ซีโร่เป็นคนเดียวที่เหลือ สำหรับโอเซล็อตนั้น ตัวเขาไม่ได้ต่อสู้เพื่อแพทริออต ไม่ได้สู้เพื่อเพนตากอนหรือรัสเซีย ทุกอย่างที่เขาทำมานั้นคือสู้เพื่อบิ๊กบอส โอเซล็อตนั้นนับถือและยึดมั่นในตัวบิ๊กบอสมากราวกับพระเจ้า

         แต่หลังจากที่โอเซล็อตนำแขนของลิขวิดมาใส่ทำให้เขาโดนควบคุม และตอนนี้อีวาจึงเป็นคนที่เหลือ แต่ไรเดนก็โผล่มาช่วยเธอและได้ช่วยบิ๊กบอสออกมาได้ บิ๊กบอสตอนนี้อยู่ในสภาพที่เสมือนตาย บิ๊กมาม่าได้พาสเน็คไปพบกับร่างของบิ๊กบอสซึ่งยังมีชีวิตอยู่แต่สูญเสียสติสัมปชัญญะเพราะโดนนาโนแมชชีนควบคุมไว้ ระหว่างที่คุยอยู่นั้นโอตาค่อนได้ติดต่อมาและบอกว่านาโอมิได้หนีไปแล้วซึ่งคาดว่าเธอคงกลับไปหาลิขวิดแน่ๆ ส่วนทางด้านสเน็คเอง ก็พบหุ่นยนต์ที่แอบสะกดรอยตามมาทำให้พวก PMCs ของลิขวิดนั้นรู้ตำแหน่งของศพบิ๊กบอส บิ๊กมาม่าจึงพาหนีสเน็คหนีออกมาพร้อมกับรถตู้ขนศพของบิ๊กบอส โดยมีหลายคันเพื่อไว้ลวงศัตรู

        แต่ในระหว่างที่หนีนั้นพวกสเน็คโดน Raging Raven ไล่โจมตีอย่างหนักทำให้มอเตอร์ไซค์คว่ำ ส่งผลให้บิ๊กมาม่าบาดเจ็บหนัก สเน็คได้สู้และสามารถเอาชนะเรเว่นได้ จากนั้นบิ๊กมาม่าจึงเล่าให้ฟังว่า รถตู้ขนศพของบิ๊กบอสนั้นอยู่ที่ริมแม่น้ำ สเน็คและบิ๊กมาม่าจึงเดินทางไปที่นั่น แต่เมื่อไปถึงก็ต้องพบว่าลิขวิดมาดักรออยู่แล้ว สเน็คเข้าปะทะกับลิขวิดแต่ไม่อาจเอาชนะได้เลย ลิขวิดได้เล่าให้ฟังว่า GW ที่ถูกทำลายเมื่อห้าปีก่อนนั้นถูกทำลายแค่บางส่วน เขาได้กู้ระบบขึ้นมาทำให้ได้ข้อมูลต่างๆ มากมาย ด้วยศพของบิ๊กบอสนี่เองทำให้เขาสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ของในเน็ตเวิร์คของ JD โดยที่ไม่อาจรับรู้ได้ถึงการคุกคามภายนอกได้ ที่เหลือก็เพียงแค่ทำลาย JD ด้วยการยิงนิวเคลียร์เขาใส่ เพียงเท่านี้ระบบทุกอย่างของแพทริออตก็จะตกเป็นของลิขวิด ซึ่งลิขวิดจะฆ่าซีโร่และแพทริออต และจะตั้งตัวเองเป็นแพทริออตแทน

      หลังจากนั้นลิขวิดก็ทิ้งสเน็คและบิ๊กมาม่าไว้ และขึ้นเรือไปพร้อมกับทหารของตน แต่ระหว่างที่จะออกไปนั้นเมอริลได้สั่งการกองทัพทหารจำนวนมากเข้ามาล้อมลิขวิด ทั้งทางบก ทางน้ำ และอากาศ แต่ท่าทางลิขวิดเองไม่ยี่หระกับสถานการณ์เบื้องหน้า เมอริลจึงสั่งทหารทุกนายยิง แต่ทว่าทหารทุกคนไม่อาจจะยิงกระสุนออกไปได้เลย ลิขวิดได้สั่งให้ทหารของตนยิงกองทัพของเมอริล ส่งผลให้ทหารบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ก่อนลิขวิดจะไปนั้น เขาได้นำศพของบิ๊กบอสมาเผาทิ้ง บิ๊กมาม่าเห็นดังนั้นจึงใช้แรงที่เหลือของเธอวิ่งเข้าไปกลางกองเพลิงเพื่อนำศพบิ๊กบอสออกมา สเน็คพยายามห้ามเธอเอาไว้และเข้าไปด้วยเช่นกันส่งผลให้เขามีแผลไฟไหม้ที่หน้า สเน็คได้ใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนบอกให้โอตาค่อนใช้เมทัลเกียร์มาร์กทู แอบตามลิขวิดไป (จบ Act 3)

Mission Briefing

        จากภาพการสอดแนมของมาร์กทู ลิขวิดวางแผนที่จะยิงนิวเคลียร์ไปยังดาวเทียมที่พังแล้ว แต่นั่นจริงๆ คือที่  ซ่อน AI ของ JD โดยการใช้นิวเคลียร์ล่องหน แต่ทว่ามาร์กทูได้ถูกพบตัวเสียก่อนทำให้รู้เบาะแสแค่นี้
สเน็คกับโอตาค่อนได้ปรึกษากันว่าตอนนี้ลิขวิดยึดระบบไปได้คือ SOP เพียงอย่างเดียวนั่นควบคุมได้แค่กองกำลังอาวุธส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ได้รวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ หรือขีปนาวุธ ทำให้คิดว่าลิขวิดต้องใช้ REX ในการยิงแน่ๆ เพราะที่นั่นยังมีหัวรบนิวเคลียร์ที่ถูกทิ้งไว้อยู่อีกด้วย ดังนั้นลิขวิดต้องไปที่เกาะชาโดวโมเสสเพื่อนำเรลกันของเร๊กซ์มายิงนิวเคลียร์ สเน็คต้องหยุดยั้งลิขวิดให้ได้ก่อนที่ลิขวิดจะยิงนิวเคลียร์ไม่เช่นนั้นถ้า JD ถูกทำลายระบบทั้งหมดจะตกภายใต้การควบคุมของ GW และจะสายเกินแก้

Act 4: Twin Suns

      สเน็คได้เข้ามายังเกาะชาโดวโมเสสและได้รีบตรงไปยังที่อยู่ของ REX ระหว่างทางสเน็คพบกับ Crying Wolf และสามารถเอาชนะได้และเมื่อเข้ามาถึงด้านในสุดเขาก็พบว่าเรลกันของ REX ไม่มีแล้ว จากนั้นแวมป์และนาโอมิก็ปรากฏตัวออกมา แวมป์ได้บอกว่าเรลกันของ REX นั้นได้ถูกถอดไปเตรียมยิงนิวเคลียร์เรียบร้อยแล้ว โอตาค่อนได้ใช้เมทัลเกียร์มาร์กทรีเข้าไปเช็คสภาพของ REX และพยายามที่จะซ่อม REX ให้ใช้ได้ สเน็คจึงต้องสู้กับแวมป์เพื่อถ่วงเวลา แต่แวมป์นั้นฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่ตายเนื่องจากเขามีนาโนแมชชีนคอยรักษาบาดแผลตลอด สเน็คจึงใช้หลอดฉีดยาที่นาโอมิเคยให้ไว้ฉีดใส่แวมป์ในจังหวะที่แวมป์เผลอ ทำให้นาโนแมชชีนในตัวแวมป์หยุดทำงานชั่วคราว แต่ในระหว่างนั้นเกคโค่ได้บุกเข้ามาพร้อมกับเตรียมระเบิดตัวเอง ช่วงนี้เองไรเดนซึ่งหายดีแล้วได้ปรากฏตัวมาช่วยสเน็คและอาสาที่จะจัดการแวมป์ให้ ส่วนสเน็คคอยทำลายเกคโค่ที่บุกเข้ามา ในที่สุดไรเดนก็สามารถเอาชนะแวมป์ได้ ส่วนโอตาค่อนนั้นซ่อม REX ได้เสร็จพอดี นาโอมิได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ว่าเธอเปรียบเสมือนคนตายแล้ว ตัวเธอเป็นมะเร็งซึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ได้เพราะใช้นาโนแมชชีนยับยั้งเอาไว้ เธอต้องการที่จะไถ่บาปในสิ่งที่ได้ทำไว้ จากนั้นนาโอมิได้ใช้เข็มฉีดยาเพื่อหยุดยั้งนาโนแมชชีนในตัวเธอ ก่อนตายนาโอมิได้เล่าว่าลิขวิดอยู่ใกล้ๆ นี้ เขากำลังวางแผนที่จะยิงนิวเคลียร์จากบนเรือรบที่เรียกว่าเอาเตอร์เฮเว่น (Outer Haven)

       สเน็คได้ขับ REX มาด้านนอกและพบกับลิขวิดซึ่งขับเมทัลเกียร์เรย์ (Metal Gear Ray) บุกเข้ามา สเน็คสู้กับลิขวิดและสามารถเอาชนะได้ แต่ลิขวิดได้หนีขึ้นไปยังเรือรบเอาเตอร์เฮเว่น และได้ใช้เรือนี้พุ่งเข้าชนสเน็ค แต่ไรเดนได้เอาตัวเข้าขวางเรือนี้ให้สเน็ค ไรเดนพยายามต้านเรือรบเอาไว้ แม้ไรเดนจะสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเองและหนีความจริงมาตลอด แต่ในที่สุดช่วงวิกฤติในชีวิตของเขาก็ได้เรียกชื่อโรสขึ้นมา แต่ก็ต้องจมลงไปในทะเลเพราะไม่อาจทานไว้ได้ แต่ในจังหวะนั้นเองเหม่ยหลิงได้สั่งการบนเรือประจัญบานเข้าโจมตีเอาเตอร์เฮเว่นจนล่าถอยไปได้และส่งคนเข้ามาช่วยเหลือสเน็คและไรเดน (จบ Act 4)

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้