ในที่สุดวันนี้ (14 เมษายน) ก็เป็นวันฉายตอนที่ 1 ของซีรีส์ The Last of Us ซีซั่น 2 บนแพลตฟอร์ม HBO Max แล้วนะครับ โดยซีซั่น 2 จะทยอยฉายสัปดาห์ละตอน รวมทั้งสิ้น 7 ตอนด้วยกัน ซึ่งบทความนี้เป็นการรวบรวมจุดสังเกตต่าง ๆ ที่พบเจอในตอนแรก ตลอดจนอีสเตอร์เอ้กที่นำมาเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นเกม จะมีอะไรบ้างนั้นมาชมกันเลยครับ
***บทความนี้มีการสปอยล์เนื้อหาซีรีส์ The Last of Us ซีซั่น 2 ตอนที่ 1 และเกม The Last of Us Part 2
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
- ตอนที่ 1 ของซีซั่น 2 มีชื่อว่า Future Days ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับเพลงที่โจลเล่นกีตาร์ให้เอลลี่ฟังในช่วงต้นเกม The Last of Us Part 2 โดยเพลงนี้เป็นผลงานของวง Pearl Jam อยู่ในอัลบั้ม Lightning Bolt ที่วางแผงเมื่อปี 2013 ครับ
- ในฉากแรกจะเป็นการพูดคุยกันของสมาชิกกลุ่มไฟร์ฟลายที่รอดชีวิตมาจากท้ายซีซั่นแรก ได้แก่ แอ็บบี้, โอเว่น, เมล, นอร่า และ แมนนี่ โดยนักแสดงที่รับบทเป็นนอร่าคือ Tati Gabrielle ซึ่งเป็นคนเดียวกับต้นแบบตัวละคร Jordan A. Mun จากเกม Intergalactic: The Heretic Prophet ว่าที่เกมใหม่ของ Naughty Dog ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้วนั่นเอง
- ระหว่างที่ซีรีส์กำลังถ่ายทอดสภาพบรรยากาศภายในเมืองแจ็คสัน จะมีอยู่ซีนหนึ่งที่คนงานพบแนวท่อที่พาดอยู่ใต้ดินของเมือง ซึ่งพอทุบออกมาดูก็พบว่ามีแต่รากไม้อุดตันเต็มไปหมด ก่อนจะมาเผยอีกทีในช่วงท้ายตอนว่ารากไม้พวกนั้นมีเชื้อราแทรกอยู่ นี่เป็นสัญญาณเตือนว่าชะตากรรมของผู้คนในแจ็กสันกำลังตกอยู่ในอันตรายที่อาจมีผู้ติดเชื้อบุกเข้ามาได้ทุกเมื่อ หรืออาจจะมีผลทำให้ผู้คนภายในแจ็คสันติดเชื้อกันเองได้สักทางหนึ่ง
- กลไกของเชื้อราที่เชื่อมต่อกับบรรดาผู้ติดเชื้อรอบ ๆ บริเวณ กินพื้นที่หลายตารางกิโลเมตร ตัวละครโจลกับเทสเคยมีการอธิบายมาแล้วในซีซั่น 1 ตอนที่ 2 ครับ โดยเป็นลูกเล่นใหม่ของพวกผู้ติดเชื้อในเวอร์ชั่นซีรีส์ ซึ่งไม่มีในเวอร์ชั่นเกม
- ฉากที่เอลลี่ซ้อมยิงปืนสไนเปอร์โดยมีทอมมี่เป็นเทรนเนอร์ จะมีความแตกต่างกันในเวอร์ชั่นซีรีส์กับเกมอยู่ครับ โดยเวอร์ชั่นเกมนั้นจะเป็นเหตุการณ์เล่าย้อนอดีตระหว่างที่เอลลี่อยู่ในซีแอตเทิลวันที่ 1 กับวันที่ 2 แต่ในเวอร์ชั่นซีรีส์จะเป็นเหตุการณ์ปัจจุบันที่หลังจากเอลลี่ซ้อมเสร็จแล้วจึงขอร้องทอมมี่ว่าอยากออกลาดตระเวนเองบ้าง แม้โจลจะสั่งทอมมี่ไว้ว่าไม่ให้เอลลี่ไปทำงานเสี่ยงอันตรายเด็ดขาด ด้วยความเป็นห่วงตามประสาที่โจลมองเอลลี่เหมือนลูกสาวคนหนึ่ง
- ทอมมี่กับมาเรียในเวอร์ชั่นซีรีส์จะมีลูกชายด้วยนะครับ หนูน้อยมีชื่อว่าเบนจามิน (โจลจะเรียกชื่อเล่นว่าเบนจี้) ซึ่งในเวอร์ชั่นเกมทอมมี่กับมาเรียจะไม่มีลูกด้วยกัน ถือว่าเบนจามินเป็นตัวละครที่เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นซีรีส์โดยเฉพาะ
- เวอร์ชั่นซีรีส์มีการเพิ่มฉากที่โจลไปพบกับตัวละครใหม่ที่ชื่อว่า เกล (Gail) จิตแพทย์ประจำเมืองแจ็คสัน โดยเธอเป็นภรรยาของยูจีน (Eugene) ซึ่งยูจีนเคยปรากฏอยู่ในรูปถ่ายที่เอลลี่ไปเจอในเกม The Last of Us Part 2 และอีกคนที่ร่วมเฟรมกับยูจีนก็คือทอมมี่ในสมัยที่ทั้งคู่ยังอยู่ในกลุ่มไฟร์ฟลายนั่นเอง
- นีล ดรัคแมนน์ (Neil Druckmann) ผู้กำกับเกม The Last of Us ทั้งสองภาคเคยอธิบายว่าทีมงานมองเห็นโอกาสในการขยายพล็อตเกี่ยวกับตัวละครยูจีนสำหรับนำมาลงในเวอร์ชั่นซีรีส์ เช่นเดียวกับที่ในซีซั่นแรกเคยทำมาแล้วกับตัวละครบิลกับแฟรงค์ ซึ่งคาดว่าเราน่าจะทราบเรื่องราวภูมิหลังของตัวละครยูจีนกับเกลมากขึ้นในซีซั่น 2 นี้ครับ
- ตัวละครเกล รับบทโดย แคทเธอรีน โอ’ฮาร่า (Catherine O’Hara) ที่เคยโด่งดังจากบทคุณแม่ของหนูน้อยเควิน แมคอัลลิสเตอร์ จากภาพยนตร์ Home Alone ที่เป็นหนังระดับบล็อคบัสเตอร์เมื่อปี 1990 ครับ
- ช่วงกลางตอน จะเป็นฉากที่เอลลี่กับดีน่าต้องออกลาดตระเวนโดยมี แคท (Kat) เป็นผู้นำกลุ่ม ซึ่งแคทคือแฟนเก่าของเอลลี่ที่เคยคบกันมาระยะหนึ่งก่อนที่จะเลิกรากันไป กระทั่งเอลลี่มาปิ๊งกับดีน่าในภายหลัง ขณะเดียวกัน แคทเคยถูกพูดถึงในเวอร์ชั่นเกมมาก่อนเหมือนกันครับ และแคทคนนี้ก็คือคนที่สักแขนของเอลลี่ทับรอยแผลที่เธอเคยโดนกัดในเนื้อเรื่อง DLC Left Behind ของเกมภาคแรก (ตรงกับซีรีส์ซีซั่น 1 ตอนที่ 7)
- เกม The Last of Us Part 2 จะมีไฟล์หนึ่งที่เอลลี่บันทึกไว้ว่าเมื่อครั้งที่เธอคบหากับแคท มีอยู่วันหนึ่งหลังจากหัดวาดรูปกันเสร็จ แคทได้กระโจนใส่เอลลี่และจูบเธอ แต่เอลลี่นั้นกลัวว่าแคทจะติดเชื้อจากเอลลี่จึงผลักแคทออกไป แล้วโกหกไปว่าที่ผลักแคทเพราะเอลลี่ไม่เคยจูบใครมาก่อน สุดท้ายแล้วแคทก็ไม่ได้ติดเชื้อแต่อย่างใด เอลลี่จึงรู้ตั้งแต่ตอนนั้นว่าตัวเองแค่มีภูมิคุ้มกันเชื้อรา แต่ไม่ได้เป็นพาหะนำเชื้อติดสู่คนอื่น อย่างไรก็ตาม เอลลี่สังเกตได้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับแคททำให้ดีน่าพยายามเลี่ยงไม่ไปไหนมาไหนกับเอลลี่นัก กระทั่งทั้งคู่เลิกรากัน เอลลี่กับดีน่าเลยกลับมาสนิทกันได้อีกครั้ง
- ช่วงแรกของเกม The Last of Us Part 2 ภายในบ้านพักของเอลลี่ จะมีรูปถ่ายของแคทแปะอยู่ที่บอร์ดบนฝาผนัง (ตามรูปขวาล่าง) ซึ่งเวอร์ชั่นเกมหน้าตาของแคทจะออกไปทางเอเชีย ส่วนเวอร์ชั่นซีรีส์จะเบ้าหน้าฝรั่งมาเลย
- ร้าน Greenplace Market หรือซูเปอร์มาร์เก็ตที่เอลลี่กับดีน่าลุยเข้าไปกำจัดผู้ติดเชื้อ เป็นโลเคชั่นที่มีทั้งในเวอร์ชั่นซีรีส์และเกมครับ แต่ดีไซน์ด้านนอกอาจจะต่างกันสักหน่อย
- ใครเคยเล่นเวอร์ชั่นเกมมาคงพอทราบว่า สตอล์คเกอร์ (Stalker) หรือผู้ติดเชื้อระยะที่ 2 นั้นมีอยู่ในเกมตั้งแต่ภาคแรกแล้วนะครับ โดยสตอล์คเกอร์จะมีจุดเด่นคือฉลาดเป็นกรด รู้จักการลอบเร้นเพื่อดักโจมตีเหยื่อ แต่ในเวอร์ชั่นซีรีส์เพิ่งจะมาปรากฏตัวครั้งแรกในซีซั่น 2 นี้เอง (ซีซั่นแรกมีแค่รันเนอร์, คลิกเกอร์ และ โบลเตอร์)
- ระหว่างที่เอลลี่สู้กับสตอล์คเกอร์อย่างชุลมุน เธอได้พลาดท่าถูกมันกัดเข้าทีหนึ่งที่บริเวณหน้าท้อง ซึ่งพอกลับมาที่แจ็คสัน จะมีฉากที่เอลลี่นำมีดฆ่าเชื้อมากรีดตรงรอยแผลที่ถูกกัด จากนั้นก็นำด้ายและเข็มมาเย็บแผลอีกที ตรงนี้คาดว่าเป็นการอำพรางแผลที่เอลลี่ต้องการให้คนอื่นที่อาจจะพบเห็นแผลนี้ในอนาคตเข้าใจว่าเป็นแผลที่โดนของมีคม ไม่ใช่แผลจากการโดนผู้ติดเชื้อทำร้าย ป้องกันไม่ให้ถูกสงสัยในเรื่องที่ตัวเองมีภูมิคุ้มกัน
- ซีนงานเต้นรำที่เอลลี่กับดีน่าจูบกันในเวอร์ชั่นเกมก็มีในเวอร์ชั่นซีรีส์ด้วย รวมถึงฉากที่ เซ็ธ (Seth) ตาลุงที่ทนไม่ได้กับภาพที่ทั้งคู๋จูบกัน เลยพูดจาดูถูก ก่อนที่โจลจะมาขวางก็มีในซีรีส์เหมือนกันครับ
ติดตามข่าวหนังอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ Online Station