รีวิวหนัง Transformers One – หวนคืนรากเหง้า สู่ภาพยนตร์ TF ที่ดีที่สุด

แม้อาจไม่ได้เป็นแฟนที่เหนียวแน่นหรือเก่าแก่ขนาดนั้น แต่ Transformers ก็ยังเป็นหนังที่ผมต้องดูมันให้ได้ในทุกๆ ภาคนับตั้งแต่ภาคแรกของมันได้กลายเป็นหนึ่งในปรากฎการณ์การดูหนังในโรงของชีวิตนี้ที่คงไม่มีวันลืมไปแล้ว ถึงภาคหลังๆ ของ Bayverse จะมั่วซั่วจนโดนแฟนๆ ก่นด่าไปไม่น้อย แต่ผมก็ยังคงสามารถหาจุดร่วมในการพอจะเอนจอยกันมันได้อยู่ (เว้น The Last Knight ไว้เรื่อง อันนั้นไม่ไหวจริง)

และหลังจากพรี่ Bay ของเราถอนคันเร่งไปเป็น Producer แทนในภาคหลังๆ พร้อมๆ กับตัวหนังพยายามหาแนวทางใหม่ๆ เข้ามา Transformers ฉบับภาพยนตร์ก็ดูจะค่อยๆ กระเตื้องขึ้นตามลำดับ อาจยังไม่ว้าวเหมือนภาคแรก แต่ก็นับเป็นแนวโน้มที่ดี

การมาของ Transformers One จึงสร้างความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปของผม แน่ล่ะว่า TF เวอร์ชั่นใกล้เคียงการ์ตูนต้นฉบับกับการเป็นอนิเมชั่นค่อนข้างน่าสนใจในตัวอยู่แล้ว แต่พอมันมาในเชิง Prequel ซึ่งนัยยะหนึ่งมันเป็นเหมือนการย้อนกลับ ผมจึงค่อนข้างเป็นห่วง Progress ที่ทำมาของภาพยนตร์ซึ่งกำลังดีวันดีคืน

อย่างไรก็ตามในเมื่อมันเป็น TF ผมก็ยังอยากดูอยู่ดี และอดประหลาดใจไม่ได้ว่าทำไมค่ายหนังอย่าง Paramount จึงกล้าๆ เปิดรอบ Fan screening ฉายก่อนเข้าโรงจริงหรือแม้กระทั่งรอบสื่อฯ ถึงเกือบหนึ่งเดือนเต็ม (หนังฉายจริง 26 กันยายน แต่รอบพิเศษฉายตั้งแต่ 27 สิงหาคม) ทว่าความสงสัยนั้นก็ได้คลายออกทันทีหลังจากเครดิตขึ้น นั่นเพราะพวกเขามั่นใจมากๆ ว่า Transformers One จะเป็นหรืออย่างน้อยๆ ก็เป็นหนึ่งในภาพยนตร์จากแฟรนไชส์ Transformers ที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

Transformers One จะเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นของ 2 ไอคอนิคอย่าง Optimus Prime และ Megatron ในวันเวลาที่พวกเขาเคยเป็นแค่หุ่นคนงานเหมืองธรรมดาๆ นามว่า Orion Pax และ D-16 ทั้งคู่เป็นเพื่อนซี้ต่อกันเสมอมา ก่อนที่การผจญภัยจะพาให้ปลายทางของทั้งคู่ต้องยืนอยู่บนถนนคนละเส้นแบบที่ไม่มีวันจะบรรจบกันได้อีก

หากให้นิยามสั้นๆ ถึง Transformers One ก็ต้องบอกว่านี่คือภาคที่ตอบสนองต่อสิ่งที่คนดูต้องการที่สุดแล้ว อะไรที่อยากเห็นคือได้เห็น มาพร้อมเซ็ตติ้งบนดาวไซเบอร์ตรอนที่ไม่มีภาพยนตร์ภาคไหนเหมือน ทว่าในความเห็นผมสิ่งที่ภาคนี้ทำได้ดีที่สุดคือการใส่ชีวิตให้กับหุ่นพวกนี้ เพราะหลายๆ คน อาจจะหลงลืมกันไปว่าพวกเขาก็เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งในจักรวาล ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์ที่แปลงร่างได้

และพอมันมีชีวิตจิตใจผนวกกับความเป็นอนิเมชั่น ตัวละครมนุษย์จึงไม่จำเป็นจะต้องมีเพื่อให้มาช่วยในการเดินเรื่องอีกต่อไป พวกเขาสามารถทำกันเองได้เลย และทำได้ดีด้วย การตีแผ่ความขัดแย้งบนดาวไซเบอร์ตรอนทำได้น่าสนใจ เราได้เห็นการแบ่งชนชั้น, พวกหน้าไหว้หลังหลอก, ความเหลื่อมล้ำแบบจำยอม รวมถึงความสัมพันธ์ของเหล่าชาว Cybertron ที่แสดงออกมาในลักษณะที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ที่สุด ทำให้เราสามารถอินกับเส้นเรื่องได้ง่าย

นอกจากนี้ความมีชีวิตชีวายังใช้กับลักษณะของดาวไซเบอร์ตรอนได้ด้วย ทีมสร้างออกแบบมาได้ดีมาก มัน Lively และน่าตื่นตาไปเสียทั้งหมด ปกติเราอาจชินตาไซเบอร์ตรอนในยุคสงคราม พอได้มาเห็นยุคที่ยังคงมีสันติสุขและชาวดาวดวงนี้ได้ใช้ชีวิตตามครรลองก็รู้สึกแปลกใหม่ และน่าสนใจไม่เบา พอเซ็ตติ้งมันยอดเยี่ยมก็ช่วยขับให้เรื่องที่ต้องการเล่ามันมีน้ำมีนวลขึ้นไปอีกระดับ

ความสัมพันธ์ระหว่าง Orion Pax และ D-16 ในฐานะเพื่อนซี้ที่แทบจะเป็นโบรแมนซ์กันอยู่มะรอมมะร่อก็สำคัญกับเส้นเรื่องอย่างมาก เรียกว่าเป็นสันหลังของภาคนี้เลยก็ว่าได้ ทั้งนี้เราอาจรู้จักทั้งคู่มาบ้าง ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ Optimus เป็นผู้นำที่มักชอบโผล่มาพูดปลุกใจช่วงท้ายและดูไม่ค่อยเก่งสมเป็น Prime หากไม่มีคนมาเติมของให้ ขณะที่ Megatron ก็เป็นผู้นำที่เหมือนจะแข็งกร้าว ดุดัน แต่ก็ท่าดีทีเหลวอยู่ตลอด แต่ใน Transformers One เราจะเห็นพวกเขาซี้ย้ำปึ้กคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และพาคนดูให้เราได้รู้จักกับกับพวกเขาไปอีกระดับ และมันทำได้ดีจนก่อเกิดเป็นความขัดใจเพียงไม่กี่อย่างของหนังที่หลายๆ คนรู้สึกคล้ายๆ กันว่าบทจะหักก็หักกันง่ายไปสักหน่อย ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่าถ้าตัวหนังมีเวลาเล่าในจุด Transition มากกว่านี้ Transformers One ก็แทบจะเป็นอนิเมชั่นไร้ที่ติเลยครับ

แนะนำว่าไม่ควรพลาดครับสำหรับ Transformers One ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนคลับพันธุ์แท้, ขาจร หรือแค่คนอยากดูหุ่นยนต์สู้กันที่เดินผ่านมา หนังเรื่องนี้จะมอบประสบการณ์บันเทิงให้กับคุณได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะองค์สุดท้ายที่เห็นแล้วปราบปลื้มเพราะจัดเต็มทั้งเนื้อเรื่องที่ขมวดปมและงานวิชวลสุดอลังการดาวล้านดวงที่ควรจะต้องดูกับจอที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะหาได้เท่านั้นจริงๆ แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้ความรู้สึกระดับปรากฎการณ์เหมือนตอนดูหนังพี่ Bay ภาคแรก (ภาคนี้แกยังเป็น Producer นะ) แต่ด้วยการเล่าเรื่องในมุมที่ไม่เหมือนภาคไหนและงานวิชวลโหด-ัสจัดเต็ม มันยังทำให้หนังเรื่องนี้สามารถมีความประทับใจระดับใกล้เคียง สมศักดิ์ศรีหนึ่งในภาพยนตร์ Transformers ที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย