Uranus 2324 กลายเป็นภาพยนตร์ไทยน่าจับตามองประจำปีทันทีเมื่อปล่อยตัวอย่างแรกออกมา อาจจะเพราะด้วยพล็อตและธีมที่ดูแหวกขนบมันเสียทุกๆ อย่าง ดูจะเป็นตัวของตัวเอง ดูไม่แคร์ตลาด กับเรื่องราวความรักแบบหญิง-หญิง ที่มีเรื่องของกาลอวกาศและโลกคู่ขนานเข้ามาเกี่ยว หากเราอยากได้ภาพยนตร์ไทยที่ดูมีความเป็นสากลเข้ามา Uranus 2324 ก็ทำให้เราคาดหวังว่าจะได้แบบนั้น
แต่ก็เหมือนการอกหักซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เราก็ยังไม่เลิกหวัง Uranus 2324 มีศักยภาพน่าสนใจและมีบางจุดบางองค์ประกอบที่น่าถูกต่อยอดหรือกล่าวถึงให้มากขึ้นกว่าที่เป็น แต่การที่ตัวมันเลือกจะพูดถึงทุกสิ่งอย่างระหว่างทาง แต่กลับไม่ลงลึกอะไรสักอย่าง ทำให้มันเหมือนกับเป็นงานที่หาทิศทางของตัวเองไม่เจอ ราวกับเป็นมัคคุเทศก์ที่เดินนำผู้คนมาครึ่งทางแล้วก็ยังไม่แน่ใจว่าทางไหนคือทางที่อยากไปจริงๆ และไม่ว่าความรักจะนำพา 2 ตัวเอกมาเจอกันดังคำโปรยหรือไม่ แต่มันกลับไม่นำพาผู้ชมไปเจออะไรเลยแม้แต่กับแก่นของหนังเอง
Uranus 2324 เล่าถึง 2 สาวคู่รักแคทกับลิน ที่จำต้องอยู่ไกลกันด้วยเหตุผลบางอย่าง แคทเป็นนักฟรีไดรฟ์ ลินเป็นนักบินอวกาศ คนหนึ่งมุ่งลงด้านล่าง คนหนึ่งมุ่งขึ้นด้านบน ก่อนจะเกิดเหตุบางอย่างที่ทำให้ทั้งแคทได้เดินทางไปในโลกคู่ขนาน โดยที่เธอตั้งเป้าว่าไม่ว่าจะสักกี่โลก เธอกับลินก็จะต้องรักกันให้จงได้
แม้จะมีทั้งเรื่องโลกคู่ขนานหรือการเดินทางข้ามเวลา หากหนังจะใช้เรื่องของความรักเป็นตัวนำโดดๆ โดยที่ให้ความสำคัญแบบเต็มๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ตลอดทางผู้ชมอาจจะมีความรู้สึกว่ายังไม่ได้เข้าถึงความรักของทั้งคู่ขนาดนั้น พอเปิดเรื่องมาก็คือสถานะรักกันแล้ว เป็นแฟนกันแล้ว ก่อนจะประเคนฉากจูบอัดหน้าผู้ชมแบบไม่ยั้งราวกับพยายามจะล็อคคอและเปิดหนังตาผู้ชมให้เห็นกันชัดๆ ว่าพวกเขารักกัน ไอ้ครั้นจะมีฉากแบบนี้ก็ไม่ติดอะไร แต่เยอะเกินไปก็ไม่รู้สึกว่ามันพิเศษ การแสดงความรักรูปแบบอื่นที่อาจไม่อิโรติคเท่าแต่เข้ากับไทม์มิ่งอาจจะสามารถเข้าถึงอารมณ์ผู้ชมมากกว่าก็เป็นได้
แต่สิ่งที่เป็นคือขณะผู้ชมยังไม่รู้สึกว่าอินกับทั้งคู่ขนาดนั้น ตัวหนังก็ถึงช่วงที่ต้องประเคนอุปสรรคใส่ตัวละครหนึ่ง เพื่อให้ตัวละครนั้นพยายามอย่างหนักในการแสดงออกและพิสูจน์ว่ารักอีกคนมากขนาดไหน ซึ่งมันกลายเป็นว่าตัวละครนี้ดูจะทำอะไรผิดที่ผิดทางอยู่ตลอด แม้จะเข้าใจในบริบทและเหตุผลองค์รวม แต่เราไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะเอาใจช่วยเธอเท่าที่ควร
หนังดูจะมีปัญหากับการเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อนจริงๆ แม้จะมีแอร์ไทม์ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่กลับเล่าได้ไม่ถึงสักอย่างแม้แต่กับเส้นเรื่องความรักของแคทกับลินที่ควรจะเป็นหลักยึดของทุกองค์ประกอบ ซึ่งเมื่อมันไม่แข็งแรงที่เหลือก็คือสั่นคลอนและรอพังครืน แม้แต่ช่วงขมวดปมที่ควรจะพีคได้กว่านี้ก็เหมือนโดนรวบรัดตัดตอน ยังไม่ทันจะตกผลึกกับบทสรุปหรือว้าวกับละอันพันใด เครดิตหนังก็ขึ้นเสียแล้วในจังหวะที่อารมณ์ชมชื่นในช่วงท้ายยังไม่อาจปกคลุมความหงุดหงิดใจต่อทั้งเรื่องได้ นับว่าน่าเสียดายไม่น้อยเพราะหนังมีความทะเยอทะยานอย่างมาก และดูมีความตั้งใจในหลายภาคส่วน
ที่ผมชอบสุดๆ คงเป็นงานโปรดัคชั่นที่ค่อนข้างเนี๊ยบ เสื้อผ้าหน้าผมก็ดูดี เวิร์ลไลน์ที่ 3 ทำออกมาได้โดดเด่นกว่าเพื่อน เป็นโลกที่ญี่ปุ่นทิ้งบอมบ์ใส่อเมริกาและกำลังจะชนะสงครามโลก มันมีดีเทลน่าสนใจหยุบหยับไปหมด แต่มันก็แค่อีกหนึ่งโลกที่ตัวเอกต้องไปตามหาคนรักและจบไป เป็นอีกครั้งที่ต้องบอกว่าน่าเสียดาย
Uranus 2324 เป็นโปรเจกต์ภาพยนตร์ที่ทะเยอทะยาน จนอาจจะเกินเบอร์ไปสักหน่อยจนอละเลยเรื่องที่สำคัญและเบสิคมากๆ อย่างการเล่าเรื่องที่สมูธ และไดอาล็อกคำพูดที่ราบรื่นเข้าปากไป แต่แม้จะมีแผลเต็มตัวความพยายามของทีมสร้างก็ยังคงเห็นได้อย่างชัดเจน หากเกลาจังหวะเล่าเรื่องได้คมกว่านี้ มันจะเป็นหนังที่ยอดเยี่ยมอีกเรื่องได้เลย ใครที่อยากไปรับชมด้วยตาตัวเองก็ไปพิสูจน์กันได้ในโรงภาพยนตร์ครับ
Verdict
6/10
ดูรอบและสำรองที่นั่งได้ที่ – https://majorcineplex.com/movie/uranus2324
ขอขอบคุณ Major Cineplex สนับสนุนการรับชมภาพยนตร์
ติดตามข่าวหนังอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ Online Station