ทะยานฟ้าสู่พื้นจันทร์ FLY ME TO THE MOON 1 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

ทะยานฟ้าสู่พื้นจันทร์
1 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
ภารกิจครั้งนี้จะสำเร็จ หรือ แค่หลอกให้เสร็จ? พบกับ “สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน” และ “แชนนิ่ง เททั่ม”

การพบกันของดาราสาวสุดฮอตแห่งฮอลลีวู้ด “สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน”

และซูเปอร์สตาร์หนุ่มหุ่นแซ่บ “แชนนิ่ง เททัม”

ในภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าที่ผสมผสานสไตล์การเล่าเรื่องอันเฉียบคม เข้ากับเรื่องราวความรักอันน่าติดตาม และเหตุการณ์จริงเมื่อนาซ่าได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของมนุษยชาติด้วยการส่งนักบินอวกาศไปสำรวจพื้นผิวดวงจันทร์สำเร็จเป็นครั้งแรก

ก่อนที่ภารกิจอะพอลโล่ 11 จะเกิดขึ้น เคลลี่ โจนส์ (สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน) ถูกว่าจ้างโดยนาซ่า ให้เข้ามาทำงานการตลาดและประชาสัมพันธ์เพื่อแก้ไขภาพลักษณ์ของนาซ่าที่เคยติดลบและไม่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชน การมาของเธอสร้างความโกลาหลให้กับงานที่โหดหินอยู่แล้วของโคล เดวิส (แชนนิ่ง เททัม) ซึ่งเป็นผู้คุมภารกิจปล่อยยานอะพอลโล่ 11 ให้ปั่นป่วนมากเป็นทวีคูณ ยิ่งเมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งการว่า ภารกิจเหยียบจันทร์ครั้งนี้มีความสำคัญต่อชาติบ้านเมืองเหนือสิ่งอื่นใด และจะเกิดความผิดพลาดขึ้นไม่ได้

พีอาร์สาวอย่าง เคลลี่ โจนส์ จึงจำเป็นต้องหาแผนสำรอง และแผนนั้นก็คือ การสร้างกองถ่ายหนังขนาดมหึมา เพื่อบันทึกวินาทีที่ยานอวกาศร่อนลงจอดบนผิวดวงจันทร์แบบปลอมๆ…!

แผนเฟคลวงพรางของ เคลลี่ โจนส์ เป็นความลับสุดยอดที่ไม่อาจแพร่งพราย ในเวลาเดียวกัน นาซ่าและโคล เดวิส ก็พยายามทุกวิถีทางที่จะพาอะพอลโล่ 11 โคจรร่อนลงเหยียบพื้นจันทร์ให้สำเร็จจริงๆ.เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติ

Fly Me to The Moon (ทะยานฟ้าสู่พื้นจันทร์) เป็นการโคจรมาพบกันของ สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน และ แชนนิ่ง เททัม หัวใจหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือการที่ ผู้กำกับ เกร็ก เบอร์ลันติ (Greg Berlanti) ดึงเอาเคมีความจิ้นละมุนระหว่างสองดารานำออกมาให้ผู้ชมได้ฟิน ! ผนวกกับความสนุกสนาน แปลกใหม่ สอดแทรกเรื่องราวภารกิจอวกาศอันลุ้นระลึก คู่ขนานไปกับมุมมองความรักได้อย่างแยบยล และเสริมทัพตัวละครที่ร่วมสร้างความยอดเยี่ยมให้กับหนังโดยนักแสดงเจ้าบทบาท วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน

ร่วมลุ้นระทึกกับแผนลวงระดับโลกกับปฎิบัติการณ์พิชิตเหยียบดวงจันทร์

1 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

“FLY ME TO THE MOON”

ทะยานฟ้าสู่พื้นจันทร์


ข้อมูลงานสร้าง

          Fly Me to the Moon นำแสดงโดยสการ์เล็ตต์ โยฮันสันและแชนนิง ทาทัม เป็นคอเมดีดรามาสไตล์เฉียบคม ที่มีฉากหลังเป็นความเสี่ยงอันตรายของภารกิจทะยานสู่ดวงจันทร์ของยานอพอลโล 11 โดยนาซา ที่ได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ เมื่อถูกนำตัวเข้ามาเพื่อปรับภาพลักษณ์ต่อสาธารณชนของนาซา ประกายปิ๊งปั๊งก็ล่องลอยไปในทุกทิศทางเมื่อไอเดียที่กล้าบ้าบิ่นของเคลลี โจนส์ (โยฮันสัน) เจ้าแม่การตลาด ขัดแย้งกับภารกิจที่ยากเย็นแสนเข็ญอยู่แล้วของโคล เดวิส (ทาทัม) ผู้อำนวยการฝ่ายปล่อยยานอวกาศ แต่เธออาจจะเป็นอาวุธลับที่หน่วยงานอวกาศแห่งนี้ต้องการก็เป็นได้หากพวกเขาต้องการแซงหน้าพวกรัสเซียเพื่อไปยังดวงจันทร์ เมื่อทำเนียบขาวมองว่าภารกิจนี้สำคัญเกินกว่าจะล้มเหลวได้ โจนส์ก็ถูกสั่งให้จัดฉากการลงสู่ดวงจันทร์ปลอมเพื่อใช้เป็นแผนสำรอง ในขณะที่การนับถอยหลังได้เริ่มต้นขึ้นจริงๆ…

          โคลัมเบีย พิคเจอร์สและแอปเปิล ออริจินอล ฟิล์มส์ ภูมิใจเสนอ ผลงานสร้างโดยดีส พิคเจอร์ส Fly Me to the Moon นำแสดงโดยสการ์เล็ตต์ โยฮันสัน, แชนนิง ทาทัม, จิม แรช, แอนนา การ์เซีย, โดนัลด์ เอลิส วัตกินส์, โนอาห์ ร็อบบินส์, โคลิน วู้ดเดล, คริสเตียน ซูเบอร์, นิค ดิลเลนเบิร์ก ร่วมด้วยเรย์ โรมาโนและวู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน กำกับโดยเกร็ก เบอร์แลนติ บทภาพยนตร์โดยโรส กิลรอย จากเรื่องราวโดยคีแนน ฟลินน์ & เคิร์สไตน์ อำนวยการสร้างโดยโจนาธาน เลีย, สการ์เล็ตต์ โยฮันสัน, คีแนน ฟลินน์และซาราห์ เช็ชเตอร์ ผู้ควบคุมงานสร้างคือโรเบิร์ต เจ. ดอห์แมนน์ ผู้กำกับภาพคือดาเรียส โวลสกี้, เอเอสซี ผู้ออกแบบงานสร้างคือเชน วาเลนติโน ลำดับภาพโดยแฮร์รี เจียร์เจียน, เอซีอี ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายคือแมรี โซเฟรส ดนตรีโดยแดเนียล เพมเบอร์ตัน ควบคุมดนตรีโดยซีซัน เคนท์ คัดเลือกนักแสดงโดยเอลเลน ลูอิส

… ขอฉันโลดแล่นท่ามกลางหมู่ดารา…

                ใน Fly Me to the Moon นักขายช่างประชดประชันก็คือเคลลี โจนส์ กูรูงานโฆษณาและการตลาดชาวแมนฮัตตัน “ปรมาจารย์หัวคิดสร้างสรรค์ อัจฉริยะด้านการทำแบรนด์” โยฮันสัน ผู้ทำงานร่วมกับขาใหญ่ของวงการในยุคโฆษณาเดิมๆ กล่าว เธอมาถึงจุดนี้ได้เพราะเธอเก่งกาจที่สุดในสิ่งที่เธอทำ…และถ้าเธอแหกกฎซักข้อสองข้อ หรือแม้แต่จะพูดโกหกซักเรื่องสองเรื่อง เพื่อช่วยเหลือลูกค้าของเธอ…และบอกเล่าเรื่องราวที่ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้แม้ว่ามันจะไม่ใช่ความจริงซะทั้งหมดก็ตาม…มันจะเสียหายตรงไหนกันล่ะ ในตอนที่นาซาเตรียมพร้อมที่จะทำภารกิจทะยานสู่ดวงจันทร์ของประธานาธิบดีเคนเนดี้ ผู้ล่วงลับ ให้สำเร็จลุล่วง มันก็เป็นหน้าที่ของโม เบอร์คัส เจ้าหน้าที่รัฐลึกลับ ผู้เชื่อว่าโครงการอวกาศนี้จำเป็นต้องได้รับการปรับภาพลักษณ์ใหม่ในความคิดของสาธารณชน ที่จะต้องล่อลวงเคลลีมาฟลอริดาเพื่อขายภารกิจดวงจันทร์ให้กับประชาชนชาวอเมริกัน

          ที่เคป เคนเนดี้ เธอได้พบกับโคล เดวิส หนุ่มคนซื่อ อดีตนักบินกองทัพอากาศ ผู้ตอนนี้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการฝ่ายปล่อยยานอวกาศให้กับนาซา ไอเดียที่ว่า ดวงจันทร์จะต้องถูก “ขาย” ให้กับใครๆ ทำให้เขาขุ่นเคืองอย่างรุนแรง แค่พลังที่น่ามหัศจรรย์ของภารกิจนี้ ความสำเร็จสูงสุดของมนุษยชาติ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

          “เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่จับต้องได้และมองว่าเธอเป็นอุปสรรคค่ะ” โยฮันสันอธิบาย กระบวนการที่ว่าโปรเจ็กต์นี้ได้รับเงินสนับสนุนอย่างไร มันต้องการการสนับสนุนแบบไหน เขาจะต้องเล่นตามน้ำไปด้วยอย่างไร ทั้งหมดนั่นไม่ได้อยู่ในคลังคำของเขาเลย

          “เคลลีเข้ามาราวกับเฮอร์ริเคน และในความคิดของเขา เธอพังทุกอย่างและสร้างปัญหามากกว่าคำตอบ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว เธอเป็นหลักสำคัญของเรื่องทั้งหมดนี้”

          แน่นอนว่าพวกเขาปรับความเข้าใจกันได้ “พวกเขาขัดแย้งกันในตอนเริ่มเรื่อง แต่พวกเขาก็อาจจะมีอะไรเหมือนๆ กันมากกว่าที่พวกเขาคิด” โยฮันสันกล่าว วิธีการที่ไม่ธรรมดาของเคลลีทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับโคลและขัดใจเขาเช่นเดียวกัน ในตอนที่เขาทำให้วิศวกรของนาซาไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับงานประชาสัมพันธ์ เธอก็จ้างนักแสดงมารับบทดังกล่าว ในขณะเดียวกัน เธอก็ให้วิศวกรนาซาตัวจริงมาเปลี่ยนออฟฟิศที่คับแคบของเธอให้กลายเป็นสถานที่ทำงานที่สดใสและมีชีวิตชีวา แต่โคลก็ค่อยๆ มองเห็นได้ว่าวิธีการเหล่านี้เป็นไปเพื่อเป้าหมายที่พวกเขามีร่วมกัน “พวกเขาต่างก็เป็นคนที่มีความรู้สึกหลงใหล และเมื่อพวกเขาอยู่เบื้องหลังอะไรซักอย่าง สิ่งนั้นก็จะสำเร็จอย่างแน่นอน พวกเขาพบสิ่งที่พวกเขาคิดเหมือนๆ กันและไขว่คว้าดวงดาว หรือฉันว่าในกรณีนี้ มันคงเป็นดวงจันทร์มากกว่า”

          ซาราห์ เช็ชเตอร์ หุ้นส่วนอำนวยการสร้างของเบอร์แลนติ กล่าวว่า นั่นคือองค์ประกอบที่ทำให้ Fly Me to the Moon แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ในแนวเดียวกัน “ไม่มีเหตุผลอะไรที่พวกเขาต้องอยู่ด้วยกันค่ะ” เช็ชเตอร์กล่าว “พวกเขามองโลกไม่เหมือนกันเลย มันเป็นเพราะว่าพวกเขาถูกบีบให้อยู่ด้วยกัน และถูกบีบให้ต้องร่วมงานกัน พวกเขาถึงสามารถมองเห็นถึงสิ่งที่เหลือเชื่อ และเห็นว่าอีกคนหนึ่งสามารถเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของพวกเขาได้น่ะค่ะ”

          และเบอร์แลนติก็กล่าวว่า ถ้าภารกิจในการทะยานสู่ดวงจันทร์ของเคลลีและโคลถูกสะท้อนให้เห็นในการที่พวกเขาได้รวมใจกันภายใต้ดวงจันทร์ล่ะก็…นั่นก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ “นอกจากดวงจันทร์แล้ว ความรักอาจจะเป็นสิ่งที่ทะเยอทะยานที่สุดที่คนเราจะเล็งเป้าได้” เขากล่าว พลางตั้งข้อสังเกตว่า ความปรารถนาทั้งสองอย่างนั้น ซึ่งก็คือการมุ่งสู่ดวงจันทร์ หรือการปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในห้วงรัก ต่างก็ต้องอาศัยการก้าวไปสู่ดินแดนที่ไม่เคยรู้จัก “ดวงจันทร์เป็นสิ่งลึกลับและมหัศจรรย์ครับ” เขากล่าว


[ข่าวประชาสัมพันธ์]

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้