ผมเป็นคนหนึ่งที่เดินเข้าโรงภาพยนตร์ไปดู Furiosa ด้วยความคาดหวังว่าภาพยนตร์จะมีความเดือดในระดับน้องๆ ภาค Fury Road ก่อนจะออกมาด้วยความตะขิดตะขวงในใจเล็กน้อย เพราะรู้สึกว่ามันไม่อาจตอบสนองต่อความต้องการผมได้ อาจเพราะ Fury Road มีความระห่ำบ้าบอในระดับปรากฎการณ์ หรือเพราะ Furiosa เลือกจะเล่าในแบบที่ต่างออกไปก็เป็นได้
ถึงอย่าางนั้นเมื่อมานั่งคิดให้ตกผลึกแม้อาจจะยังไม่เปลี่ยนความคิดว่าชอบ Fury Road มากกว่า แต่ก็รู้สึกได้แล้วว่า Furiosa ถูกจงใจสร้างออกมาาเป็นแบบนี้ จงใจที่จะเป็นแบบนี้ การเอาไปวางทาบเพื่อเทียบแบบสนิทกันไปเลยก็คงไม่แฟร์นัก เพราะจะอย่างไรเสีย Furiosa ก็มีมาตรฐานงานแอคชั่นที่เดือดกว่าเรื่องอื่นๆ อีกมาก และที่สำคัญที่สุดก็คือเรายังสามารถสนุกกับมันได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
Furiosa: A Mad Max Saga เป็นเหมือนภาพยนตร์สปินออฟของ Mad Max: Fury Road ที่ย้อนมาเล่าเรื่องราวของ อิมเพเรเตอร์ ฟูริโอซ่า ในช่วงเวลาชีวิตก่อนที่จะทำการทรยศ อิมมอร์ตัน โจ อันเป็นซีเควนช์หลักสุดเดือดที่เกิดขึ้นในภาคหลัก โดยที่มี ดีเมนตัส วอร์ลอร์ดจากอีกแกีงค์เป็นตัวร้ายหลักซึ่งสร้างความเจ็บช้ำให้กับตัวฟูริโอซ่ามาตั้งแต่เด็ก ก่อเกิดเป็นแรงแค้นที่ขอล้างตอนโตก็ยังไม่สาย
ด้วยเพราะเรื่องจงใจที่จะเล่าาผ่านสายตาของฟูริโอซ่าาและดีเมนตัสเป็นหลัก ทำให้ตัวเรื่องสโคปเรื่องราวการโฟกัสและถ่ายทอดลง อะไรที่ไม่อยู่ในสายตาหรือ 2 คนนี้ไม่ได้ประสบพบเจอเองก็จะไม่มีการเล่าใดๆ แต่ในทางกลับกัน เพราะ 2 คนนี้ก็มีชีวิตที่ได้เจอหลายๆ อย่าง ทำให้ผู้ชมได้รับรู้เรื่องราวของจักรวาล Mad Max มากขึ้น มีรายละเอียดที่ถูกเล่าด้วยภาพมากยิ่งขึ้น ขยายขอบเขตความเข้าใจได้เป็นอย่างดี แต่เพราะอย่างนั้นมันจึงอาจค้าางคาใจนิดหน่อยที่ตัวหนังบิลต์มาอย่างดีว่าจะเกิดสงครามระหว่างแก๊งค์แต่กลายเป็นว่าหนังเล่าแบบสรุป และไปให้น้ำหนักที่การตามล้างแค้นของฟุริโอซ่าแทน เลยอดได้เห็นฉากสงครามขนาดใหญ่ที่คงจะเดือดไม่ใช่น้อย น่าเสียดาย
ในแง่ของแอคชั่นนั้นมีเรื่อยๆ ตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะช่วงส่งของกลางเรื่องที่นับเป็นซีนแอคชั่นใหญ่สุดของหนังนั้นถือว่ายังทำออกมาได้สมราคาจอร์จ มิลเลอร์อย่างมาก มันทั้งเดือด ทั้งบู๊ และเต็มไปด้วยความครีเอต แต่เพราะฉากแบบนี้มาให้เห็นตั้งแต่กลางเรื่องจึงทำให้หลังจากนั้นมันดูเนือยไปสักหน่อย เพราะแม้การเล่าเรื่องจะยังคงทำได้ดีรั้งคนดูให้สนุกกับมันได้อยู่ แต่กราฟของหนังไม่สามารถกลับไปแตะระดับนั้นได้อีกเลย
เพลงประกอบก็ไม่มีเพลงไหนที่ติดหูได้เท่าของ Fury Road ขณะที่พอหนังต้องเล่าเรื่องยาวนานกินเวลาเป็นสิบปีในเรื่อง และ 2 ชั่วโมงครึ่งในเวลาฉายจริง ผมจึงรู้สึกว่ามีช่วงย้วยอยู่ประมาณหนึ่งแต่ก็ไม่นานนัก เพราะบทหนังจะเร่งเครื่องให้เร้าก็ไฮออคเทนซะเหลือเกินจนเราแทบจะลืมไปว่ามีจังหวะง่วงจนเกือบจะตาปิดอยู่เหมือนกัน
สำหรับผมแล้วในแง่ของความชอบผมยังให้ใจ Fury Road มากกว่า ทว่า Furiosa ก็มีตัวตนและความสนุกสนานที่ชัดเจนว่าทีมผู้สร้างจงใจออกมาให้เป็นแบบนี้ ซึ่งผมยังคงบอกได้เลยว่ามันเป็นหนังที่สนุกเอามากๆ ด้วยรสชาติที่ต่าางออกไป ซึ่งมันอาจโดนเส้นบางคนมากกว่า Fury Road ก็เป็นได้ครับ หนังระดับนี้จะอย่างไรก็ควรลองมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง แนะนำระบบ IMAX มาฟังเสียงเครื่องยนต์ให้สะเทือนรูหูกันครับ เดือดกว่าโรงธรรมดาแน่นอน!
Verdict
8/10
ดูรอบและสำรองที่นั่งได้ที่ – https://majorcineplex.com/movie/furiosa-a-mad-max-saga
ขอขอบคุณ Major Cineplex สนับสนุนการรับชมภาพยนตร์
ติดตามข่าวหนังอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ Online Station