ออกตัวก่อนว่าพี่ห้อยเป็นแฟน Saint Seiya ฉบับอนิเมะ เชื่อเหลือเกินว่าในหมู่คนอายุใกล้เคียงกันก็เติบโตมาพร้อมการดูการ์ตูนและอนิเมะ Saint Seiya เช่นเดียวกันไม่มากก็น้อย ทำให้รู้สึกว่าคาดหวังกับมันอยู่หน่อยๆ แม้จะมีกระแสเรื่องความไม่เหมือนของเกราะ หรือกระแสที่ญี่ปุ่นซึ่งค่อนข้างเงียบกริบ แต่ของแบบนี้ยังไงก็ต้องขอพิสูจน์ตัวเอง ว่าแล้วก็ขอตีตั๋วเพิ่อเข้าไปลองของในโรงภาพยนตร์ด้วยตัวเอง อย่างน้อยหากมันทำให้รู้สึกว่าสัมผัสถึงหลังคอสโม่ที่พุ่งพล่านได้บ้างก็คงจะดีไม่น้อย
ทั้งนี้ Knights of the Zodiac หรือ Saint Seiya ฉบับภาพยนตร์ ผลิตโดย Toei Animation และ Sony Pictures ดัดแปลงจากการ์ตูนในเวอร์ชั่นดั้งเดิมของปี 1986 บทสรุปของมันมีหลายๆ ส่วนที่น่าตำหนิและน่าหงุดหงิดก็จริง แต่ว่าข้อดีของมันก็ยังมีพอสมควร ไม่ได้แย่แบบสุดปอดเหมือนหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา สามารถเข้าไปรับชมกันได้ไม่ได้เสียหายอะไร ดูไปกินป๊อปคอร์นไป มันก็ไปของมันได้อยู่
รีวิวหนัง Knights of the Zodiac
Knights of the Zodiac ฉบับภาพยนตร์เป็นการนำเนื้อเรื่องมาตีความใหม่ในช่วงของ “ศึกกาแล็คเซียนวอร์ส” โดยตัวดำเนินเรื่องและปมต่าง ๆ จะถูกผูกขึ้นมาและตีความใหม่เกือบทั้งหมด แต่ยังคงไว้ซึ่งแก่นของการเริ่มเรื่อง และ พลังคอสโม่ ดังเช่นเดิมอย่างที่มันควรจะเป็น
ถ้าถามพี่ห้อยว่ามันโอเคไหม ก็ต้องบอกว่ามันค่อนข้างไปได้ของมันนะไม่ได้ติดอะไร เอางี้ดีกว่า เราเคยมีอารมณ์แบบนี้ไหม เมื่อเราโตขึ้น เราย้อนกลับไปอ่านหรือดูการ์ตูนสมัยก่อนแล้วมันไม่สนุก เหมือนปมของมันไม่น่าจะส่งไปถึงบทตรงนั้นได้ มันไม่สนุกเหมือนสมัยก่อนที่เราได้อ่านและดู
ซึ่งบทของ Knights of the Zodiac มันแก้ตรงจุดนั้นได้โอเคเหมือนกันนะ แต่ที่จะติก็คือช่วงแรก ค่อนข้างเล่าเรื่องแบบสะเปะสะปะ จับต้นชนปลายไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ เพราะไม่ได้มีการอธิบายที่มาที่ไปอะไรทั้งนั้น แต่ในการ์ตูนก็ไม่ได้อธิบายอะไรเยอะนะ เพราะงั้นเมื่อมันเป็นภาพยนตร์แล้วก็ควรจะตอบโจทย์ตรงนี้ให้ได้บ้างเช่นเดียวกัน เนื่องจากกลุ่มคนที่จะเข้าไปรับชมอาจจะไม่ได้เป็นกลุ่มที่มาจากการ์ตูนทั้งหมด
โดยรวมการเล่าเรื่องนั้นยังมีปัญหาไม่สมูธ ขาดปูมหลังและความต่อเนื่องในหลาย ๆ ฉาก จะอิงตามการ์ตูนก็ไปได้ไม่สุด จะตีความใหม่ก็บอกได้ไม่ครบพอจะให้ผู้ชมสามารถเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น รวมไปถึงการเล่าแก่นเรื่องที่ขาดน้ำหนักพอจะทำให้เราว้าวหรือเข้าใจได้ว่ามันยิ่งใหญ่มากแค่ไหน
ฉากบู๊ และ เอฟเฟกต์
ฉากบู๊ และ เอฟเฟกต์ ของ Knights of the Zodiac ทำได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นฉากสู้มือเปล่า, การออกแบบคิวบู๊ หรือ ฉากที่ต้องปล่อยพลัง มีการวางตำแหน่งตำละครในเฟรมได้ดี แต่บางฉากอาจจะถูดลดทอนคุณภาพด้วยบางมุมกล้องที่ก็ไม่รู้ว่าจะถ่ายแบบนี้มาทำไม แต่ก็พอรับได้ครับ ไม่ได้แย่มากมาย ส่วนตัวคิดว่าบู๊สนุกทีเดียว เอฟเฟกต์ไม่ลอยมากมีแค่บางฉาก
และส่วนตัวคิดว่าอย่างหนึ่งที่ชอบคือ “มันไม่เบียว” คือต้องยอมรับจริง ๆ ว่า ถ้าเป็นญี่ปุ่นทำสไตล์นี้ยังไงก็ต้องเบียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตะโกนชื่อท่าของตัวละคร ซึ่งพอมันไม่เบียวมันก็ได้ความเรียลมาแทนตรงจุดนี้ชอบครับ ไม่ดูโอเวอร์แอคติ้งเกินไป เป็นธรรมชาติดี แม้ว่าในบางฉาก ตัวเอกจะออกท่าทางก่อนที่เอฟเฟกต์จะมาบ้างก็ตาม ไม่ติดอะไรครับ
ตัวละครและนักแสดง
ตัวละครในเวอร์ชั่นหนังบางตัวถูกเปลี่ยนโฉมไปบ้าง แฟนการ์ตูนอาจจะไม่ได้คุ้นตากันนัก บางคนอาจจะยึดติดกับบทบาทที่นักแสดงเคยได้รับมาบ้าง แต่อย่างหนึ่งที่ต้องยอมรับคือหนัง Knights of the Zodiac มีนักแสดงที่โหดจัดเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Famke Janssen นักแสดงมากฝีมือจาก X-Men, Sean Bean ดาราชายรุ่นใหญ่ มืออาชีพด้านความตาย(หยอก ๆ) ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีจากผลงานการรับบทเป็น Boromir ใน The Lord of the Rings, พระเอกของเรา Seiya รับบทโดย Mackenyu เป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งที่ถ่ายทอดบทบาทของเจ้าหนุ่มหัวรั้น Seiya ออกมาได้ดี
ซึ่งต้องยอมรับว่านักแสดงมากฝีมือมีส่วนช่วยกลบจุดด้อยไปไก้บ้าง Knights of the Zodiac จึงเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ทุ่มทุนในเรื่องของนักแสดงและใช้งานมันได้อย่างคุ้มค่า ส่วนตัวไม่ติดเรื่องนักแสดงเลย แต่ติเรื่องบทกับบางจังหวะเท่านั้นที่มันไม่ค่อยมีความสมูธในบางช่วงของหนัง
คอสตูม ( Costume )
มาถึงในส่วนของชุดเกราะเพกาซัสที่เป็นประเด็น ด้วยกระแสต่าง ๆ ของดีไซน์ชุดบรอนซ์คลอธเพกาซัสในเวอร์ชั่น Knights of the Zodiac ซึ่งเกิดขึ้นจากความต้องการของ อาจารย์ Kurumada Masami ผู้เขียนมังงะต้นฉบับเอง ที่มีการกล่าวว่าแท้จริงแล้ว อาจารย์ออกแบบชุดนั้นมาจากนักรบกรีกโบราณ เอาจริง ๆ นะครับ ส่วนตัวของพี่ห้อย พี่ห้อยว่ามันไม่ไหว (ฮ่า)
คือชุด Pegasus เนี่ย ในบางมุมมันไม่เหมาะกับการต่อสู้ที่เป็นแอคชั่น คือมันเก้งก้างไม่สง่างาม ยิ่งในบางมุมที่มีการโคลสอัป บริเวณช่วงหมัดมันยิ่งแบบเหมือนโฟมยางบวม ๆ คล้ายมือมัดกล้ามของมาสคอตมิชลิน แต่บางฉากที่เป็น CG คอยช่วยมันดูดีอยู่นะ ส่วนหมวกคือด้านข้างมันสั้น และดูเต่อตอนใส่ ไม่ใส่ยังเท่กว่า ถ้าเทียบกับชุดของ Phoenix มันดูน่าเกรงขามกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่หมวกของ Phoenix ก็ไม่ไหวเหมือนกัน มันหลวมเกินไป มุมหน้าตรง ๆ แทนที่จะเท่ แต่หมวกมันดันเป๋หลวมบังลูกตา ชุดที่ดีที่สุดคือชุดของ Sagitarius Cappricon และ Eagle Marine ที่แทบจะถอดต้นฉบับมาเลย
สรุป
ในภาพรวมสำหรับพี่ห้อย Knights of the Zodiac เซนต์เซย่า กำเนิดอัศวินจักรราศี คือพอดูได้เพลิน แต่สำหรับแฟน ๆ อนิเมะ อาจจะต้องถอดฟิลเตอร์ออกเยอะหน่อย เพราะความไม่คุ้นในหลายๆ จุดอาจจะทำให้รู้สึกติดขัดรัวๆ มันยังมีข้อดีในส่วนของนักแสดง ฉากบู๊ที่โอเค สเปเชียลเอฟเฟกต์ทำได้ดีในช่วงหลัง ส่วนเรื่องชุดเกราะก็ขึ้นกับแต่ละคนจริงๆ ว่ารับได้ขนาดไหน เพราะมันมีทั้งชุดที่แย่และชุดทที่ทำได้ดีผสมกันไป ส่วนตัวคิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้อีกสักหน่อย
แต่ถึงจะบ่นแบบนี้พี่ห้อยก็ยังอยากให้มันมีภาคต่อ เพราะอยากดู Gold Saint บนเส้นเรื่องที่แตกต่างออกไป มันไม่ได้แย่ขนาด Dragon Ball Evolution แต่ก็ยังยากจะเรียกว่ายอดเยี่ยม และอาจจะยากยิ่งกว่าที่จะทำให้แฟนๆ สักคนได้จดจำมัน
แต่จะเป็นแบบที่ว่ามาจริงหรือไม่ ยังไงพี่ห้อยก็อยากให้ลองไปพิสูจน์กันเองในโรงภาพยนตร์ครับ คุณๆ อาจชอบมันมากกว่าพี่ห้อยก็ได้นะ
VERDICT
5/10
- บทรีวิว: พี่ห้อย
- เรียบเรียงแก้ไข: ท่านหลอด
ติดตามข่าวหนังอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ Online Station
