รีวิวหนัง John Wick: Chapter 4 – เดือดจัดๆ กับแอคชั่นซีนสุดมหัศจรรย์!

ช่วงก่อนที่จะรีวิวหนัง John Wick: Chapter 4 หรือก่อนหนังจะเข้าเพียงไม่นาน ตามโซเชี่ยลหลาย ๆ คนก็อาจจะเห็นมุกเห็นมีมล้อกันประมาณว่าเรื่องราวของหนังมันใหญ่โตขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่จุดเริ่มต้นก็มาจากการที่หมาตายตัวหนึ่ง ที่นี้หลังจากดูภาค 4 จบ พอลองมองย้อนกลับไปจริงๆ ดูอีกที เราก็พบว่าแฟรนไชส์นี้เริ่มต้นจากการเป็นหนังล่าล้างแค้นง่ายๆ ไม่ต้องเยอะ แรงมาแรงกลับ

ก่อนจะค่อยถูกเติมรายละเอียดของ “โลกมือสังหาร” เข้ามาเรื่อยๆ ตามภาคที่เพิ่มเข้ามา พร้อมๆ กับศพที่จอห์นฆ่าก็ค่อยๆ กองพะเนินทับถมจนแม้แต่บาบายาก้าในตำนานก็เหนื่อยเกินจะแบกรับ และเซ็ตติ้งที่เข้าใจได้ง่ายๆ ก็กลายเป็นโลกที่ถูกเติมแต่งไปด้วยกฎเกณฑ์แล้วประเพณีมากมายก่ายกอง ผู้คนรอบตัวจอห์นก็เริ่มพ่นอะไรที่เปี่ยมความงามด้านภาษาแต่เข้าใจยากยิ่งขึ้น

นี่คือการเดินทาง แตกหน่อ และเติบโตของหนังเรื่องหนึ่งที่พยายามหาอะไรใหม่ ๆ และทำลายขีดจำกัดตัวเองในทุก ๆ ภาคที่ขึ้นเลขใหม่ ถึงแม้ John Wick อาจเริ่มจากการอยากจะเป็นหนังแอคชั่นง่ายๆ เน้นความมันส์ และโชว์ช็อตสตั๊นสวยๆ ของคู่หูคีอานู – แชด แต่สุดท้ายมันกลับเติบโตขึ้นจนเป็นหลักไมล์ใหม่ของการทำหนังแอคชั่นที่เพียบพร้อมทั้งเรื่องราวที่ส่ง ปรัชญา และซีนแอคชั่นสุดมหัศจรรย์ ที่ทั้งรุนแรง เฉียบคม เปี่ยมความอาร์ทไปด้วยในตัว

ว่าง่ายๆ คือจากเพื่อนเก่าที่เคยคุยด้วยง่ายๆ พูดจาโผงผางแต่มีชั้นเชิง เขาคนเดิมกลับกลายเป็นคนที่คุยด้วยยากขึ้น พูดจาเป็นปริศนามากขึ้น แต่ยังคงจริงใจ และพร้อมจะมีอะไรที่คาดไม่ถึงมานำเสนออยู่ตลอด ผมเดาว่าคนที่ชอบความดูง่ายๆ ของภาคแรกบางส่วน อาจจะชอบภาค 4 น้อยกว่า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่า John Wick: Chapter 4 คือหนังที่มีความสนุกในแบบที่ต่างออกไป และเต็มเปี่ยมไปด้วยซีนแอคชั่นสุดมหัศจรรย์ที่คุณอาจหาจากไหนไม่ได้ในอีกหลายต่อหลายปีนับจากนี้

John Wick: Chapter 4 จะเริ่มเรื่องหลังจากภาค 3 เมื่อจอห์นยังคงหาหนทางที่จะออกจากวงการ แต่กลับต้องเจอกับการโถมกำลังของ มาร์กีส์ เดอ กรามอง ขุนนางหนุ่มเลือดร้อนไฟแรงที่เชื่อว่าการสังหาร จอห์น วิค ได้คือใบเบิกทางสู่การเถลิงอำนาจอันยิ่งยง งานนี้จอห์นจึงต้องรับศึกหนักจนคนดูยังเหนื่อยหอบแทน เพราะตลอดเวลาหนังความยาว 2 ชั่วโมง 49 นาที แม้ช่วงแรกจะนวยนาฎกับการร่างธรรมนูญโลกนักฆ่าให้ชัดเจน ทว่าพอเครื่องสตาร์ทเท่านั้นแหละ มีแต่ฉากแอคชั่นประดังประเดเข้ามาจนแทบไม่มีช่วงพักหายใจเลยทีเดียว!

แน่นอนว่าซีนแอคชั่นเป็นตัวชูโรงหลักของหนังอยู่แล้ว แต่ความน่าทึ่งคือทีมงานยังมีอะไรมาให้เราว้าวได้เสมอ แม้จะเล่นท่ายากมาเยอะแยะตลอด 3 ภาคแล้วก็ตาม ผู้ชมจะได้พบกับซีนแอคชั่นใหญ่ๆ ราวๆ 5 ซีน ทุกๆ ซีนล้วนน่าจดจำ และ 3 จาก 5 ในช่วงท้ายคือความสุดยอดและความมหัศจรรย์ของทั้งทีมงาน ทีมกล้อง ทีมสตั๊น และทีมนักแสดง ที่ช่วยกันเนรมิตอะไรแบบนี้ให้เราได้เห็นแบบติดต่อกันในหนังเรื่องเดียว บอกเลยว่าโคตรบ้า โคตรคลั่ง!

ในขณะที่ซีนบู๊ช่วงต้นก็เป็นอะไรที่ผมชอบเป็นพิเศษ พอเรื่องมันเกิดที่ญี่ปุ่น ก็ต้องมีอะไรที่มันญี่ปู๊นญี่ปุ่นเป็นองค์ประกอบอยู่เต็มไปหมด หลายๆ อย่างอาจจะมีคำถามตอนแรกว่า “ทำทำไมวะ?” แต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยความ “เท่ชิบหาย” มี Vibe ความเป็นอนิเมะเต็มไปหมด อาจไม่มีความสมจริงเท่าไหร่ แต่ในภาพรวมคือเป็นซีนที่ผมชอบอันดับต้นๆ ของแฟรนไชส์เลย

ในด้านนักแสดงเฮียคีอานูดูโรยราลงไปตั้งแต่ภาค 3 แล้ว แต่ในภาพรวมยังพอถูไถและลุคตอนจับปืนซัลโวลูกตะกั่วยังคงเท่บาดใจ แต่ตัวขโมยซีนของจริงคือคาแรคเตอร์ เคน ของ ดอนนี่ เยน ด้วยความเป็นนักแสดงสาย มาเชี่ยล อาร์ท อยู่แล้ว ทำให้แกเป็นคนที่ออกแอคชั่นได้ดูปราดเปรียวและท่าสวยสุดๆ อีกทั้งบทของตัวละครก็ทำได้ดี และมาดยียวนที่ดูโมเดิร์นเข้ากับเรื่องก็ทำให้ตัวละครเคนมีสีสันขนาดสามารถมีภาคแยกเป็นของตัวเองได้เลย ใครที่ห่วงว่าเฮียแกจะมาเป็นแค่ไม้ประดับก็หายห่วง บทบาททัดเทียมตัวเอกอย่าง จอห์น วิค เลยล่ะ

ตัวละครสมบทอื่นๆ ก็น่าสนใจหลายตัว บิลล์ สการ์การ์ดส์ เล่นเป็น มาร์กีส์ เดอ กรามอง ได้อย่างเด็ดขาด แม้จะเป็นคาแรคเตอร์ที่ไม่ได้เก่งกาจ แต่ก็ดุไม่น่าเข้าใกล้ และดูอันตราย ขณะที่ตัวละครแทรคเกอร์ก็มีเมคานิคที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะในแง่ของลักษณะนิสัย หรือวิธีการต่อสู้ แบบว่าหลายๆ ตัวน่าสนใจซะจนถ้ามีซีรีส์แยกก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่

John Wick: Chapter 4 จะเป็นภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์ หรืออย่างน้อยๆ ก็เป็นภาคสุดท้ายไปอีกหลายปีจนกว่าคีอานู-แชดจะกลับมามีไฟขึ้นมาใหม่ เพราะในภาคนี้พวกพี่แกใส่สุดราวกับจะได้ทำหนังแอคชั่นเรื่องสุดท้าย และมันก็ออกมาสุดยอดจริงๆ กล้าพูดได้เลยว่า John Wick: Chapter 4 คือหนึ่งในหนังที่ดีไซน์คิวบู๊ได้ดีที่สุดในยุคนี้ และมันอาจจะดีที่สุดไปอีกหลายปี

เป็นภาคจบที่สมบูรณ์แทบจะไร้ที่ติ มันอาจเนือยช่วงแรกๆ กับกลางๆ ไปนิด แต่ที่สุดแล้วความสุดยอดขององค์สุดท้ายจะกลบทุกอย่างและดันบาร์ให้ John Wick: Chapter 4 คือหลักไมล์ที่หนังแอคชั่นมาเชียลอาร์ทรุ่นหลังต้องไปให้ถึง นี่คือหนังที่คุ้มค่าจะดูในโรงภาพยนตร์ที่สุดแล้วในช่วงเวลานี้ เป็นโปรแกรมที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ

ขอขอบคุณทาง Major Cineplex สำหรับการสนับสนุนในครั้งนี้