รีวิวหนัง The Cheese Sisters – หนังรักคู่จิ้นเบาๆ เสิร์ฟตรงเพื่อแฟนคลับ

The Cheese Sisters ภาพยนตร์จากทางค่าย iAM ซึ่งมีเมมเบอร์ของวง BNK48 และ CGM48 ร่วมแสดงนำถึง 8 คน เป็นภาพยนตร์ที่จากหน้าหนังอาจไม่มีอะไรหวือหวาในแง่ของการนำเสนอและโปรดักชั่น เพียงแต่ประเด็นที่ตัวหนังเลือกที่จะพูดกันดังๆ ตรงๆ ก็คือการเป็นหนังรักแบบคู่จิ้นซึ่งสะท้อนประเด็น LGBTQ+ ตามฉบับสมัยนิยม ซึ่งนับว่ากล้าหาญไม่เบาที่ทำแบบนั้น

เพราะมันทำให้หนังมีความ Niche แล้ว Niche อีก จนเราไม่สามารถเดาได้ว่าตัวหนังนั้นคาดหวังความสำเร็จกับเม็ดเงินที่จะได้รับขนาดไหน มันแทบไม่มีอะไรที่มีความแมสเลยในหนังเรื่องนี้ ทว่าอย่างน้อยๆ มันก็ยังเป็นหนังที่ดูสนุกเพลินๆ เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ หากคุณนั้นเป็นแฟนคลับ และรู้จักกับเมมเบอร์ 48TH พอสมควร

***บทความนี้ไม่มีสปอยล์

The Cheese Sisters เป็นภาพยนตร์ที่ประกอบด้วยหนังสั้น 4 เรื่องซึ่งจะถูกร้อยเรียงเรื่องราวต่อๆ กันผ่านกระบวนการทำชีส ซึ่งไล่มาตั้งแต่ฟาร์มโคนม การขนส่ง การบ่มชีส และการแปรรูปเป็นเค้ก ทำให้แม้จะแบ่งเป็น 4 พาร์ท แต่ตัวละครทุกตัวก็มีชีวิตอยู่ในจักรวาลเดียวกัน อยู่ในจังหวัดเดียวกัน และบางคนก็ยืดโยงกันด้วยเหตุผลที่ต่างกันออกไป กระนั้นจะนับเป็นเรื่องเดียวกันก็ไม่ใช่อยู่ดี เพราะแต่ละพาร์ทถูกกำกับโดยผู้กำกับคนละคนซึ่งมีสไตล์การเล่าเรื่องที่ต่างกันออกไปชัดเจน

พาร์ทแรกเป็นเรื่องราวของฟาร์มโคนม นำแสดงโดย น้ำหนึ่ง – เนย เกี่ยวกับฟาร์มโคนมที่ประสบปัญหาต่างๆ นานาทั้งเจ้าของฟาร์มก็เพิ่งเสียชีวิตไป และลูกสาวที่ยังเรียนไม่จบก็จะต้องมารับช่วงต่อแทน

ที่จริงเป็นเซ็ตติ้งที่น่าสนใจมากๆ เพราะเป็นการโยนคอนฟลิกต์ใหญ่ใส่ตัวเอกในวัยค้นหาตัวเอง มีอะไรให้เล่นได้เยอะมาก ทว่าตัวหนังพยายามจะตึงแต่ก็ไม่สุด และการเคลียร์ปัญหาของมันก็รู้สึกว่าง่ายดายจนไม่มีอะไรให้ลุ้น ส่วนที่ผมไม่ชอบที่สุดก็คือไดอาล็อกตัวละครที่ค่อนข้างวกวนสับสนและไม่ชัดเจนโดยไม่จำเป็น ภาพรวมของเรื่องแรกจึงเป็นความอึดอัดและชวนหาว เรียกว่าเปิดหัวมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ค่อนข้างน่าเสียดายเพราะรู้สึกว่าทั้งเนยและน้ำหนึ่งนั้นมีของให้ปล่อยมากกว่านี้พอสมควร

แต่การที่เรื่องแรกเป็นแบบนั้นก็ยังมีข้อดีอยู่ คือมันลดความคาดหวังของเราลง และทำให้อีก 3 เรื่องถัดมานั้นกลายเป็นดูสนุกได้ง่ายๆ อย่างเรื่องที่ 2 ซึ่งเกี่ยวกับคนเมืองที่หนีความวุ่นวายมาอยู่โฮมสเตย์และเกิดอยากทำชีสขึ้นมาดื้อๆ จะเห็นว่าเซ็ตติ้งค่อนข้างเหนือจริงปนอิหยังวะไปหน่อย แต่เพราะเรื่องชัดเจนในสิ่งที่ต้องการนำเสนอและจังหวะการกำกับที่เป๊ะ ก็ทำให้เราหัวเราะและรู้สึกดีๆ ไปกับมันได้ไม่ยากเลย

เจนนิษฐ์อาจไม่ได้โชว์พลังอะไรนัก แต่เพราะเป็นสายนักแสดงอยู่แล้ว งานนี้สำหรับเธอจึงไม่มีปัญหาและไม่ยากไม่เย็น ส่วนการแสดงครั้งแรกของปัญก็ไม่น่าห่วงเช่นกัน เพราะการได้เล่นเป็นตัวเองแบบแทบทุกระเบียดนิ้วนี่แหละ มันอาจน่าเสียดายไปหน่อยที่ไม่ได้เห็นปัญในบทบาทอื่นๆ แต่ปัญที่เป็นปัญ ก็การันตีได้ว่าสามารถเรียกรอยยิ้มจากแฟนคลับได้แน่นอน

เรื่องที่ 3 เป็นเรื่องที่ผมชอบที่สุดและอาจจะเรียกได้ว่ามีความเป็นซิเนมาติคที่สุด ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนักเพราะเป็นพี่มะเดี่ยวกำกับเอง กับคู่โร้ดทริปแฟนเก่าที่อยากแก้ไขความเข้าใจผิดก่อนจะสายเกินไป ความเจ๋งก็คือในเวลาไม่มากแต่เรากลับรับรู้พลางสัมผัสถึงความสัมพันธ์ของคู่นี้ได้ชัดเจนกว่าคู่อื่นๆ ความดีความชอบส่วนหนึ่งต้องยกให้ไดอาล็อกที่มีความเป็นมนุษย์ กับการต่อบทที่ทั้งลื่นไหลและเปี่ยมความตึงใส่กันแม้ใบหน้าจะยังแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรของทั้งวีและฟ้อนด์

นอกจากนี้ผมยังชอบบทสรุปของเรื่องนี้มากที่สุด มันทั้งแตกต่าง แต่ก็ค่อนข้างจริงในความเหนือจริงของเซ็ตติ้ง อาจเล่นง่ายในบางจุดเพื่อลดเวลาในการนำสนิบทสรุป แต่ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ และไม่ได้น่าหงุดหงิดใจอะไรนัก

เรื่องสุดท้ายคือหนังรอมคอมง่ายๆ ที่เล่นตามสูตรทุกอย่าง แต่พอคุมให้มันอยู่ในเรื่องในรอยไม่เผยจุดอ่อนให้ได้เห็นเยอะ มันก็แทบจะการันตีความสนุกสนานได้เลย จะว่าไปผมว่ามันเหมือน MV เพลงรักที่ไม่มีเพลงขนาดยาวน่ะนะ เราคาดเดาได้ยันตอนจบแต่ก็ยังเอนจอยจะนั่งดูมัน หลายๆ คนชอบเรื่องนี้ที่สุดด้วยซ้ำไป ส่วนคู่คมิ้งก็เอาตัวรอดกับการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกไปได้ อาจเพราะบทไม่ได้ท้าทายอะไรนัก และสามารถใช้ทักษะของไอดอลที่เจนเวทีระดับหนึ่งส่งผ่านฟิลลิ่งได้ดีพอสมควร ทำให้คนดูไม่ได้รู้สึกติดขัดอะไรนัก

ในเรื่องสุดท้ายจะมีการขมวดปมของหนังโดยตัวละครปรางของวีที่เป็นตัวละครเอก (พิเศษ) เพราะโผล่ในทุกๆ เรื่องด้วยสถานะคนส่งชีส แม้การแสดงของเธออาจจะไม่ได้เอาท์สแตนดิ้งอะไรนัก แต่ปรางเป็นตัวละครที่ผมชอบสุดในเรื่อง และเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นคนขมวดปม ถึงแม้ฉากนั้นจะดูสอนปนยัดเยียดไปสักนิดก็เถอะ

The Cheese Sisters เป็นหนังที่ทำมาเพื่อแฟนคลับและแฟนคลับสายจิ้นอย่างแท้จริง ผมไม่ชัวร์นักว่าคนทั่วไปที่ดูเรื่องนี้จะรู้สึกอย่างไร จะสนุกไหม เรื่องที่เราชอบเขาจะชอบรึเปล่า เพราะต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งที่ผมรู้สึกดีกับ The Cheese Sisters มากกว่าที่คิด ก็เป็นเพราะน้องๆ เมมเบอร์ได้โชว์ความเป็นตัวเองออกมาอยู่ไม่น้อย และแฟนคลับที่รู้ตื้นลึกหนาบางมากกว่าบุคคลทั่วไปก็จะเก็ตและอินได้ง่ายกว่าอยูแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สายจิ้นก็ตาม (เช่นผมนี่แหละ)

ดังนั้นสำหรับเหล่าแฟนคลับ The Cheese Sisters นั้นเป็นภาพยนตร์ที่คุณจะดูได้เพลินๆ แน่นอน แต่ถ้าไม่ใช่แล้วการไม่ดูก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด แม้กระนั้นถ้าอยากเข้าไปลองพิสูจน์เอง หรืออยากดูสาวๆ ไอดอลรับส่งต่อบทน่ารักๆ แก่กันแล้ว ก็เรียนเชิญพิสูจน์กันได้ในโรงภาพยนตร์ครับ