ก่อนที่การฉายภาพยนตร์รอบสื่อฯ จะเริ่มแฟนหนังชาวไทยหลายๆ คนก็โดนทำลายขวัญกำลังใจไปแล้วเรียบร้อยจากการที่คะแนนของ Black Adam บน Rotten Tomato ถูกปล่อยออกมาว่าอยู่ในระดับความสดราวๆ 54% เท่านั้น ทำให้แฟนๆ จำนวนมากเริ่มเป็นกังวล ถึงขนาดที่เฟซบุ๊คของโรงภาพยนตร์ยังต้องรีบออกมาทำโพสต์ประมาณว่าอย่าเพิ่งเชื่อคะแนนจนกว่าจะได้รับชมจริงๆ
แต่เฮ้! นี่หนัง “เดอะ ร็อค” นะ คำนี้มันน่าจะมีความหมายอยู่ อย่างน้อยที่สุดผมเชื่อว่ามันจะเป็นหนังที่ไม่แย่ในแง่ของควอลิตี้ หรือมันอาจจะเป็นหนังประเภทที่คนชอบก็ชอบเลย คนไม่ชอบก็อาจจะไม่เผาผี อะไรแบบนี้ และสำหรับ Black Adam หากตามข่าวมาบ้างหนังเรื่องนี้แกก็ทำโดยที่เลือกคนดูไว้แล้ว นั่นคือแฟน DC ดังนั้นเขารู้อย่างชัดแจ้งว่าต้องขายอะไร
ในแง่หนึ่ง Black Adam เป็นหนังที่ดูง่ายรีวิวง่ายมาก เป็นหนังป็อปคอร์นพันธุ์แท้ทางถนัดของพี่ เดอะ ร็อค เขา ที่สามารถดูเอามันส์เอาสนุกได้อย่างไม่อิดออด เป็นหนังประเภทที่ถ้าเผอิญเจอฉายบนเคเบิ้ลทีวีก็จะไม่กดรีโมทเปลี่ยนช่องหนีและเลือกจะรับชมมันอยู่ร่ำไป แม้จะผ่านตามันมาเป็นสิบรอบแล้วก็ตาม
ทุกอย่างดูว่องไวกระชับราวกับจะเร่งรัดเข้าสู่ฉากบู๊มันส์ๆ ที่ตั้งใจทำเพื่อเสิร์ฟแฟนๆ ไม่แปลกที่หลายๆ คนอาจจะตั้งคำถามต่อเนื้อเรื่องหรือบทของตัวละครที่ดูเปลี้ย ดูงง ชวนให้ฉงนสงสัยว่าทำอย่างนี้ไปเพื่อ?! โดยเฉพาะกับบทของแม่ลูกที่ค่อนข้างจะอีหยังวะในหลายๆ จุด แม่ก็ห้าวเกินเบอร์ ลูกชายก็หิวตีนเกินวัย มันมีความไม่เมคเซนส์ แต่เรากลับเข้าใจได้ว่าฉากแบบนี้มีมาเพื่อปลดล็อคประตูเนื้อเรื่องสู่ฉากสู้กันให้ไวที่สุดนั่นเอง
แต่ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะดูไม่ให้ความสำคัญกับบทหรือเนื้อเรื่องมากขนาดไหน น่าแปลกใจที่มันกลับหยอดเรื่องราวความเป็นไปของ DCEU ได้อย่างน่าสนใจแม้เราไม่เก็ตไทม์ไลน์ก็ตาม ยังไม่นับรวมอีสเตอร์เอ้กมากมายกับหรือนักแสดงจากเรื่องก่อนๆ ที่ตบเท้าเข้ามาโผล่บนจอให้ได้หายคิดถึงทั้งเป็นสัญญะที่แข็งแกร่งว่า DCEU มันยังมีตัวตนอยู่นะ และเอาเข้าจริง ส่วนตัวคิดว่ามันจับต้องได้มากกว่าตอน Justice League ด้วยซ้ำไป
อีกอย่างที่หนังให้น้ำหนักได้ดีมากก็คือทีม Justice Society of America หรือ JSA ที่นอกจากจะมาสร้างเคมีที่ลงตัวในการต่อบทสนทนาอันมีแนวคิดที่แตกต่างจากตัว Black Adam แล้ว ความเป็นคนดีที่อยู่ผิดที่ผิดเวลาของพวกเขายังช่วยไดร์ฟให้บางปมในเนื้อเรื่องน่าสนใจขึ้น กับการพยายามทำสิ่งที่ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจคนในพื้นที่
พูดถึงตัวของ เดอะ ร็อค ผมค่อนข้างคล้อยตามใครหลายๆ คนว่ากับเรื่องนี้ถึงแกจะยังดูเล่นเป็นตัวเองคล้ายๆ เดิม แต่ก็ดันมีความเป็น Black Adam มากกว่า ก็ไม่รู้ว่าเพราะพี่แกเหมือน Black Adam หรือ Black Adam เหมือนพี่แกกันแน่ ทำให้พวกเขาดูจะเบลนด์จนกลายเป็นคนเดียวกันได้ ที่จริงแกก็เล่นได้ตามมาตรฐานของตัวเอง ใครที่ไม่ติดขัดตรงนี้ก็ดูหนังได้ลื่นๆ สบายๆ ครับ
พูดมาถึงตรงนี้สิ่งที่ดีที่สุดของหนังจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากฉากต่อสู้ ที่อัดกันมาแบบ 3 ซีนใหญ่ๆ ไม่รวมซีนย่อย ซึ่งโชว์ให้เห็นถึงความโหดระดับเบอร์สุดของเรต PG-13 ซึ่งก็แอบสงสัยว่าบางซีนรอดอยู่เรตนี้ได้ยังไง ทั้งยังมีความรุนแรงดุดันน้องๆ Man of Steel รวมไปถึงความแพรวพราวของการเล่นเอฟเฟกต์เมื่อตัวละครบางตัวใช้พลัง อย่าง Cyclone หรือ Dr.Fate ที่ใช้พลังเวทได้สมเป็นจอมเวทจริงๆ ดูหรูหราหมาเห่ามากๆ ในภาพรวมคือสู้กันสนุกมาก ซึ่งเมื่อหนังฮีโร่สู้กันสนุกมันก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
เมื่อรับชมจนจบผมไม่แปลกใจที่ Black Adam จะได้คะแนนเท่านั้นจากนักวิจารณ์ มันเป็นหนังที่มีแผลเยอะมาก มันไม่ใช่หนังที่เลิศเลออะไรเลย แต่มันเป็นหนังที่เข้าใจหัวอกคนเป็นแฟน DC อย่างแท้จริง เข้าใจว่าตัวเองต้องขายอะไรแล้วไปให้สุด เพราะอย่างน้อยๆ แค่มันเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่อัดกันได้สนุกมากๆ เรื่องอื่นๆ ก็กลายเป็นโบนัสไปแล้ว ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเด็กตอนดูหนังฮีโร่มานานมากจนกระทั่ง Black Adam นี่แหละ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฉาก Mid Credit ท้ายเรื่องที่ทำเอากรี๊ดแตกทั้งโรง และส่งผลให้ DCEU ดูน่าจับตามองขึ้นมาทันที
VERDICT
8/10
ขอขอบคุณ Major Cineplex ที่เอื้อเฟื้อการรับชมภาพยนตร์ครั้งนี้ครับ
ดูรอบหนัง และจองตั๋วได้ คลิกที่นี่
https://www.majorcineplex.com/booking2/search_showtime/movie=1798
ติดตามข่าวภาพยนตร์อื่น ๆ ได้ที่ online-station.net