Genre ของหนังที่เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดนั้นเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมาย ผมก็เช่นกัน กับความสนุกแบบเรียบง่ายแค่ได้เห็นตัวประหลาดไล่ถล่มเมืองกระทืบคนหรือซัดกับสัตว์ประหลาดอีกตัวแบบมันส์ๆ ก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว เนื้อเรื่องซับซ้อน – ไม่จำเป็น, ตัวละครมีมิติ – ไม่ต้องหรอก, ซีนดราม่าพระนาง – มีก็ได้ไม่มีก็ได้, เด็กเปรต – อ่า ใช่อันนี้เแหละที่ต้องมี
แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเรื่องซิมเปิ้ลแบบนี้มันกลับทำออกมาสนองคนดูยากเหลือเกิน หนังใหญ่ๆ ทุนหนาๆ ก็ยังพลาดท่ามานักต่อนัก แม้แต่งานที่เป็นสัญญะของหนังสัตว์ประหลาดยุคใหม่ในแฟรนไชส์ Monsterverse ที่แม้จะอลังจริงสนุกจริง แต่ก็ยังเต็มไปด้วยรอยด่างพร้อย และใช่ว่าทุกคนจะเทใจให้ทุกเรื่องไป
กับ “ไลโอ” ก็เช่นกัน คอนเซ็ปต์แย้ตัวเบิ้มๆ ออกอาละวาดในอีเวนต์แข่งขุดเจาะน้ำบาดาล กับบรรยากาศความเป้นอีสาน นี่มันฟังดูแล้วโคตรซื้อเลย อีกทั้งการโปรโมตของทีมค่ายที่ดูจะพยายามผลักดันมันมากๆ ก็ชวนให้อยากเอาใจช่วยอยู่เนืองๆ ถึงแม้จะตะงิดๆ ใจตั้งแต่เห็นตัวอย่างแล้ว แต่ก็ยังพยายามปลุกใจตัวเอง ว่ามันอาจมีดีกว่าที่คิด
ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องน่าเสียดายว่าไอ้สิ่งที่พยายามจะไม่คิดเนี่ย มันไม่ได้ผิดไปสักนิดเลย
***บทความนี้อาจมีสปอยล์เล็กน้อย
“ไลโอโคตรแย้ยักษ์” เป็นเรื่องของ “เก้า” แรปเปอร์หนุ่มตกอับที่เผอิญปู่เสียเลยต้องกลับไปบ้านเกิดที่ต่างจังหวัด ในจังหวะเดียวกับที่ “ฝน” ยูทูปเบอร์ชื่อดังและเพื่อนสมัยเด็กของเก้าได้จัดชาลเลนจ์แข่งขันขุดน้ำบาดาลขึ้นในพื้นที่ เก้าและทีมเห็นช่องทางทำเงินจึงโดดเข้าไปแจมด้วยเพื่อหวังเงินรางวัล 1 ล้านบาท โดยไม่รู้เลยว่าชาลเลนจ์สุดอึกทึกนี้จะไปรบกวนการคงอยู่ของบางสิ่งและทำให้มันอาละวาดขึ้นมา
สิ่งที่พังที่สุดของไลโอ ไม่ใช่เนื้อเรื่องสุดพื้นๆ ไม่ใช่ CG กิ้งก่าที่ลอยบ้างไม่ลอยบ้าง แต่คือบทและการเดินเรื่องที่เฉิ่มเชย แข็งเป้กเป็นหิน ราวกับไม่ใช่ภาพยนตร์ของทศวรรษนี้ หนังบางเรื่องอาจจะดูเลวร้ายในหลายๆ แง่ แต่มันกลับสนุกเพราะการต่อบทไดอาล็อกพูดคุยของตัวละคร ทว่าเรื่องนี้ไม่เลย ผมไม่รู้สึกเหมือนกับว่าเป็นวัยรุ่นยุคนี้คุยกัน หรือสิ่งที่พูดกันมันเป็นคำคุยที่ใช้ในชีวิตประจำวัน บางทีพยายามจะตลกก็โคตรฝืนจนกลายเป็นฝืด เท่าที่จำได้ผมมีขำบ้างอยู่ประมาณ 2 มุขถ้วน นอกนั้นก็คือเชียร์ให้แย้มางับๆ พวกนี้ไปเถอะจะได้ตัดรำคาญไปบ้าง
เรื่องของคู่พระ-นางก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องใหญ่… หมายถึงปัญหาใหญ่น่ะ หนังพยายามจะยัดเยียดให้เก้ากับฝนชอบกันให้ได้ โดยหยอดๆ มาก่อนหน้าว่าทั้งคู่แอบมีใจให้กันนิดๆ ตั้งแต่เด็ก แต่เฮ้! คุณแทบไม่ได้แฟลชแบ็คอะไรเกี่ยวกับสองคนนี้เลย กลับเทน้ำหนักไปที่เรื่องของปู่ของเก้าซึ่งแม้มันจะเกี่ยวกับปมในใจเก้า แต่ก็อีกนั่นแหละ ปมมันกื๋อมากและเชยระเบิด จนหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงต้องทุ่มเวลาให้กับแฟลชแบ็คปู่ขนาดนั้น
จึงไม่แปลกเลยที่ผู้ชมจะไม่อินคู่นี้สักนิด เพราะนอกจากจะไม่มีอดีตที่หวานชื่นแล้ว ในปัจจุบันที่เราเห็นคือเก้าพยายามจะเก๊กซิมใส่ฝนอยู่ตลอด ขณะที่ฝนก็ฉอดเก้าจนเกินเบอร์ไปมาก ซีนทะเลาะเพื่อปลดล็อคปมของทั้งคู่ช่วงก่อนไคลแมกซ์นี่โคตรจะอีหยังวะ เพราะฝั่งหนึ่งก็ปมไม่เข้าท่า ขณะที่อีกฝั่งก็บ่นๆ ว่าพระเอกไม่ฟังใคร แต่คือตัวเองก็ไม่ฟังพระเอกเหมือนกัน แล้วหนังก็ทำเหมือนฝนเป็นคนถูกร้อยเปอร์เซ็นต์และเก้าก็พร้อมมูฟออน แฮปปี้เอนดิ้งชะเอิงเงย
แบบนี้ก็ได้เหรอ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่า 2 คนนี้ไปชอบกันได้ยังไง
แต่เอาเถอะพาร์ทคนก็เรื่องหนึ่ง หนังสัตว์ประหลาดมีพาร์ทคนเป็นของประดับอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าแย้เรื่องนี้ซีนปรากฎตัวมันน้อยไปหน่อยน่ะนะ เรื่องซีจีแย้ลอยบ้างไม่ลอยบ้างมันพอหยวนๆ ได้บางส่วนเพราะเราเห็นเลยว่าค่อนข้างตั้งใจ แถมไม่ค่อยหลบมุมมืดเท่าไหร่ เพราะเหตุการณ์เกิดในที่สว่างเสียส่วนมาก แต่เพราะแบบนั้นเราจึงได้เห็นแผลเหวอะหวะของหนังเต็มไปหมด
ให้ไล่พูดมันก็จะยาวจัดๆ งั้นขอสรุปเลยว่าทั้งๆ ที่ตัวแย้ก็ดูมีโพเทนเชี่ยลดี แต่หนังล้มเหลวในการสร้างความรู้สึกว่าแย้ยักษ์ตัวนี้เป็นภัยต่อคนหมู่มาก หลักๆ ก็คือหนังทำให้แย้มันแผ่รังสีคุกคามน้อยไปหน่อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมุมกล้อง มู้ดแอนด์โทน การเล่าเรื่องในซีนนั้นๆ มันดูล้มเหลวไปหมดทุกส่วนสัด ยังไม่นับการลำดับภาพที่ทั้งงงและไม่เมคเซนส์ เช่นซีนแรกที่ปรากฎในตัวอย่าง เราได้เห็นว่าตัวประกอบตัวหนึ่งเห็นแย้กำลังขึ้นจากหลุมเขาเลยรีบวิ่งไปสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ห่างออกไปพอสมควร แน่ล่ะว่าการถูกจับกินในฉากนี้ไม่ได้แปลกอะไร ปัญหาคือภาพตอนโดนจับมันเป็นแค่มือแย้ขึ้นมาจากหลุมไม่มาก ซึ่งขัดแย้งกับซีนไม่กี่วินาทีก่อนหน้าที่ตัวประกอบรายนี้วิ่งออกห่างจากหลุมไปไกลพอสมควรแล้วนั่นเอง
ตัวหนังมีปัญหาในการลำดับภาพและเล่าเรื่องมากเสียจนทำเอาผมย้อนมองกลับไปถึงการโหมโปรโมต ว่าทำไมทางค่ายจึงมั่นใจกับหนังขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ข้อดีที่อยากจะชมจากใจจริงมันแทบไม่มี ผมอาจรู้สึกถึงความพยายาม แต่การจะบอกว่าหนังมีดีที่ความพยายามมันก็โคตรจะนามธรรม และก็ไม่มีความแน่ชัดเลยว่าความพยายามที่ว่าแม้มันจะมากกว่านี้สักร้อยพันเท่า แต่หากไดเรคชั่นพังพินาศขนาดนี้ ต้องพยายามขนาดไหนมันถึงจะพอกัน
แม้ในปีนี้จะเจอหนังไม่เข้าท่ามาบ้าง แต่แทบทุกเรื่องก็ยังมีจุดที่โดดเด่นพอให้รู้สึกว่าชอบและเอ่ยชมได้ ทว่ากับไลโอขนาดนอนให้ตกผลึกมาหนึ่งคืนก็ยังหาจุดนั้นไม่เจอ ผมหวังกับหนังเรื่องนี้ไว้มาก ผมชอบหนังสัตว์ประหลาด จะดีจะแย่ยังไงถ้ามันมีจุดน่าจดจำผมก็อยากจะเชียร์
การดูหนังเรื่องนี้ทำเอานึกถึงตอนดู “ปักษาวายุ” เมื่อก่อนที่คนบ่นๆ กันแต่ผมก็ยังชมชอบและมีจุดที่รู้สึกว่ามันเบียวได้เจ๋งดี ทว่าเมื่อไลโอไม่มีจุดนั้น สิ่งเดียวที่ผมอาจจะจดจำจากมันได้ก็คือการเป็นหนึ่งในหนังที่แย่ที่สุดของปี 2022 นี้แหละ
อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเชื่อผม ยังไงก็อยากให้ลองมาอุดหนุนกันด้วยตาตัวเองในโรงภาพยนตร์ก่อน ไม่แน่ว่าคุณอาจจะเจอข้อดีของมันมากกว่าผมก็ได้
ขอบคุณ Major Cineplex ที่สนับสนุนการชมภาพยนตร์ในโรงครั้งนี้