หลังจากความสุด (ในหลายๆ แง่) ของภาพยนตร์ Resident Evil: Welcome to Raccoon City หลายๆ คนก็รู้สึกว่าหมดหวังกับหนังจากเกมไปเป็นที่เรียบร้อย
และแม้จะมีโปรแกรมน่าลุ้นอย่าง Uncharted ตามมา แต่ความหลอนในความเละเทะก็ยังติดจำฝังตรึง แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากให้ใจเย็นๆ กันก่อน เพราะอย่างน้อย Uncharted ก็ไม่ได้แย่ แค่ไม่ได้ดีขนาดหลุดคำสาปโดยดุษฎีก็เท่านั้น
***บทความนี้ไม่มีสปอยล์
Uncharted เป็นเกมดังบนเครื่อง PlayStation มีออกมาให้เล่น 4 ภาคแล้วด้วยกัน และยิ่งไปกว่านั้นคือตัวภาพยนตร์ก็ถูกสร้างโดย PlayStation Productions อันเป็น Label ใหม่ของทาง PlayStation เองที่ดูทรงแล้วคงขุดเอาเกม IP ดังของตัวเองมาทำหนังเป็นหลักแน่ๆ เพราะตอนขึ้นโลโก้ค่ายคือรวมดาวแบบ Marvel มาเลย ซึ่งก็เห็นแล้วตื่นตาดี
ตัวหนังไม่ได้เอาเนื้อเรื่องจากเกมช่วงใดมาทำ แต่ทำตัวเป็น Prequel ของเกม จับเอาช่วงวัยรุ่นของตัวเอกอย่าง Nathan Drake มาเล่า รวมถึงใส่ตัวละครสำคัญในเกมอีกประมาณหนึ่งเข้ามาร่วมผจญภัยเป็นสีสัน กะว่าดูหนังจบก็ตามไปเล่นเกมต่อได้ทันทีถ้าอารมณ์ไม่จบ
แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุการณ์มันเกิดก่อนเกม Uncharted ภาคแรกจะเริ่มรึเปล่า เราเลยไม่รู้สึกถึงความเป็น “หนังจากเกม” เอาล่ะว่าตัวละครจากเกมเข้ามาเต็มไปหมด แต่ผมก็ไม่แน่ใจนักว่าความเป็นซิกเนเจอร์ของ Uncharted คืออะไร และทำไมมันจึงโดดเด่นกว่า IP อื่นๆ สิ่งเดียวที่ยึดชุดความคิดของเราว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังจากเกม Uncharted เห็นทีจะมีแค่ประโยค “Oh Crap” ของ พรี่ Nathan ที่ตะบันพ่นออกมาอย่างบ่อยราวพยายามย้ำเตือนคนดูอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ปริศนาก็รีบมารีบไป ไม่ทันให้คนหยุดคิดก็รีบเฉลยอย่างรวดเร็ว แต่อันนั้นไม่เท่าไหร่ เพราะสามารถอนุมานว่าตัวละครฉลาดมีไหวพริบได้ ทว่าสิ่งที่ขัดใจจนแกะไม่ออกก็คือการวางโพซิชั่นของสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นตามหา แบบว่าในหลายๆ จุดฝ่าฟันปริศนามาหลายชั้นเพื่อมาเจอของ แต่อีของนั้นดันอยู่ในจุดที่ชวนให้ตั้งคำถามจริงๆ ว่า “แน่ใจนะว่ายังไม่มีใครเคยเจออ่ะ?” ไม่ลึก ไม่ลับ และโคตรจะโจ่งแจ้งจัดๆ
สิ่งที่ทำให้ Uncharted ยังดูดีกว่าหนังจากเกมที่เข้าโรงก่อนหน้าก็คือ จังหวะการเดินเรื่องที่ไหลลื่นและดูได้เพลินๆ รวมไปถึงโปรดักชั่นที่ดูลงทุนไม่ประดักประเดิด อีกทั้งพลังดาราของ ทอม ฮอลแลนด์ และ มาร์ค วอห์ลเบิร์ก ที่ช่วยแบกหนังได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ยอมรับว่าช่วงต้นนี่แอบง่วงไปหน่อย รวมไปถึงการไม่มีเวลาเล่าความเป็นมาของ Nathan ก็ทำให้หลาย ๆ คนอาจไม่อินกับตัวละครนี้มากนัก ทั้งยังอาจตั้งคำถามในใจว่า “สรุปแล้วพี่แกไปเก่งมาจากไหนฟระ?”
Uncharted ในภาพรวมอาจยังไม่ดีเด่มากมายอะไร แต่มันก็ไม่ใช่หนังจากเกมที่แย่ อย่างน้อยเรายังรู้สึกว่าสามารถดูเพลิน ๆ ลื่น ๆ ได้จนจบเรื่อง เทียบกับ Jungle Cruise ที่ดูไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ในฐานะหนังผจญภัยล่าขุมทรัพย์เหมือนกัน ผมให้เรื่องนี้สนุกกว่าหน่อย ๆ ถึงแม้ว่าดูจบแล้วจะจบเลยไม่มีอะไรให้น่าจดจำไม่ต่างกันนักก็เถอะ
แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ใครอยากดูหนังผจญภัยสนุกๆ หรือเป็นแฟนเกม Uncharted ก็เรียนเชิญมาพิสูจน์กันเองในโรงภาพยนตร์ได้ครับ คุณอาจดูแล้วชอบมากๆ ก็ได้ใครจะรู้
ขอขอบคุณ Major Cineplex ที่สนับสนุนการชมภาพยนตร์ในครั้งนี้ครับ
VERDICT
7/10
ดูรอบหนัง และจองตั๋วได้ คลิกที่นี่ https://bit.ly/OSUncharted