Gintama เป็นมังงะที่ผมมักจะพูดออกไลฟ์หรือรายการ Online Station บ่อยๆ ว่าเป็นมังงะที่ผมรักมากๆ เรื่องหนึ่งในชีวิต และมันคือตัวเลือกแรกของคำตอบมังงะที่ชอบที่สุดในชีวิตของผมอยู่เสมอๆ
มันเป็นงานที่เต็มไปด้วยสเน่ห์ การยำรวมความน่าสนใจและประเด็นต่างๆ รวมไปถึงแนวการ์ตูนหลายๆ Genre มาอยู่ในเรื่องเดียวกันได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งที่เป็นการ์ตูนยิงมุขสัปดน แต่ตัวละครกลับมีโมเมนต์เท่ห์ๆ หรือฉากเรียกน้ำตาดราม่าระเบิดให้ได้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังเป็นมังงะที่สามารถขายสายจิ้นได้อย่างดุเดือดแม้หลายๆ ตัวละครจะมีบุคลิกสัปรังเคสักแค่ไหนก็ตาม อัจฉริยะภาพของ ฮิเดอากิ โซราจิ AKA ลุงกอริลล่า ผู้เขียนมังงะเรื่องนี้คือสิ่งที่ผมเชิดชูอยู่เสมอในแง่ของการสรรค์สร้างผลงาน
บทความนี้ไม่มีสปอยล์
Gintama The Very Final คือภาพยนตร์อนิเมชั่นที่จะปิดฉากการ์ตูนเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยตัวภาพยนตร์ได้จับเอาเนื้อเรื่องช่วงสุดท้ายมาถ่ายทอดเป็นซีเควนซ์จอเงินได้อย่างน่าติดตาม แม้กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าคนที่จะซึมซับความดีงามตรงนี้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็จำต้องเป็นแฟนของ Gintama หรืออย่างน้อยที่สุดต้องเคยทำความรู้จักกับตัวละครหรือรู้จักปูมหลังในเรื่องอยู่ประมาณหนึ่ง ว่าง่ายๆ คือเคยดูอนิเมะทีวีซีรีส์หรืออ่านมังงะมาไม่ต่ำกว่า 70% ใครที่รู้จักเพียงผิวเผินหรือไม่เคยดูไม่เคยอ่าน Gintama มาก่อน บอกเลยว่าไม่แนะนำครับ เนื่องจากตัวเรื่องเรียกร้องประสบการณ์ร่วมในระดับที่สูงไปจนถึงสูงมากเลยทีเดียว
เพราะแม้จะต้นเรื่องจะมีรีแคปเหตุการณ์ต่างๆ ก่อนเข้าเนื้อเรื่องหลักให้ มันก็เป็นการรีแคปทีเล่นทีจริงสไตล์ Gintama พาโรดี้ชาวบ้านจิกกัดทีมงานตัวเองไปเรื่อย ดังนั้นในแง่ผู้ที่ต้องการทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมามันอาจไม่ใช่อะไรที่เสพย์ง่ายหรือตอบโจทย์เท่ากับอ่านมังงะเองนัก แต่สำหรับผู้ที่้เข้าใจในความเป็น Gintama รวมถึงคลุกคลีกับมังงะของจั๊มป์มาประมาณหนึ่งก็ต้องบอกว่ามันเป็นรีแคปที่โคตรจะบันเทิง ขำลั่นกับความจริงจังในการล้อเลียนเรื่องอื่น ชนิดที่ไม่มีการ์ตูนเรื่องไหนคิดทำในแบบที่คล้ายๆ กันแน่ๆ
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้มาเอาความฮาลูกเดียวก็อาจต้องแสดงความเสียใจไว้ล่วงหน้า เพราะแม้จะมีมหกรรมความฮาปิดหน้าปิดหลัง แต่เนื้อแท้ของเรื่องราวภาคนี้คือ Arc ที่มีความจริงจังที่สุด มันมีทั้งเรื่องราวการต่อสู้ กดดัน ความเศร้าเสียใจ ราวกับกลับไปเป็นการ์ตูนดราม่าโชเน็นเข้มข้นเรื่องหนึ่งเท่าที่จะนึกออก แต่ก็อีกล่ะ จะดึงอารมณ์แบบนี้ออกมาได้ ผู้ชมเองก็ต้องคลุกคลีพอจะรู้จักกับตัวละครเกือบทุกตัวของเรื่องมาพอสมควร
แต่เอาล่ะในแง่อารมณ์ตัวหนังสามารถส่งถึงแฟนๆ ได้อย่างสบาย แต่กับงานภาพในความเป็น The Movie มันยังคงมีจุดด่างพร้อยอยู่บ้าง ในด้านการเคลื่อนไหว หรือมุมกล้องที่เรารู้สึกว่าน่าจะทำให้ดักว่านี้ได้ รวมไปถึงฉากต่อสู้ ที่มีทั้งช็อตดีแย่ปะปนกันไปในระดับใกล้เคียงกัน แม้จุดดีจะมากกว่า แต่ก็ยังอยากให้จุดที่แย่ทำได้ดีขึ้นมากกว่านี้
ตัวเรื่องยังมีสิ่งที่ผิดจากขนบอีกอย่าง แต่ก็พอเข้าใจได้และผมชอบด้วยที่มันเป็นแบบนี้คือซีนสรุปอันยาวเหยียดหลังเหตุการณ์คลี่คลาย ที่มันราวกับจะพาไปเยี่ยมความเป็นไปของเทียบทุกตัวละคร และย้ำเตือนเราว่าในโลกเบี้ยวๆ ของเรื่องนี้มันมีเรื่องราวมากมายขนาดไหน ดูไปก็ลุ้นไปว่าอย่าเพิ่งจบ ขออีกนิด ไปอีกๆ แบบนี้เรื่อยๆ นอกจากนี้สิ่งที่ห้ามพลาดอีกอย่างก็คือเอนด์เครดิตซีนที่ปิดท้ายความเป็น Gintama ได้อย่างยอดเยี่ยม ชนิดที่ใครลุกไปก่อนคือพลาดของดีไปแบบมหันต์ทีเดียว
Gintama The Very Final คือภาพยนตร์ปิดท้ายซีรีส์ที่มอบแด่แฟนๆ อย่างแท้จริง มันแทบไม่มีที่ยืนให้กับผู้อยากจะมาทำความรู้จัก แค่แฟนๆ และผู้ที่ผูกพันธ์กันมาเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงและรู้สึกได้แบบที่ตัวเรื่องต้องการ ถ้าคุณไม่รู้จักชาวแก๊งค์ร้านสะดวกซื้อนี่ไม่ใช่หนังของคุณเลยสักนิด เว้นแต่ว่าจะไล่อ่านมังงะอย่างบ้าคลั่งจนเรื่องราวซึมเข้าตัวไปแล้ว
ทว่าสำหรับแฟนๆ มันคือจดหมายรักและบอกลาที่เล่นเอาน้ำตาซึมได้ง่ายๆ เมื่อเพลง ED ขึ้น นี่คือเรื่องราวที่มีไว้เพื่อพวกคุณเท่านั้น อย่าได้พลาดที่จะตีตั๋วเข้ามารับชมในโรงภาพยนตร์กันแบบถึงอารมณ์ เพราะก็อย่างที่บอก ว่านี่คือครั้งสุดท้ายแล้ว
