รีวิวหนัง No Time To Die – การส่งท้ายบทบอนด์ที่ยอดเยี่ยมของแดเนี่ยล เคร็ก

Play Video

ผมไม่ใช่คนที่คลุกคลีกับ 007 ขนาดเป็นแฟนพันธุ์แท้อะไร ทั้งยังไม่ได้ตามดูทุกภาค แม้แต่ภาคของ “แดเนี่ยล เคร็ก” เองผมยังดูแบบภาคเว้นภาคเสียด้วยซ้ำ และใช่ครับ ผมดู Skyfall แต่ดันไม่ได้ดู Spectre จึงทำให้ผมต้องใช้เวลาจับต้นชนปลายตัวเรื่องอยู่พักหนึ่ง

อย่างไรก็ตามเพราะเป็นคนที่คลุกคลีอยู่กับข่าวของแวดวงภาพยนตร์ จึงอาจทำให้การปะติดปะต่อจิ๊กซอว์ในหัวนั้นง่ายขึ้นเล็กน้อย ถึงอย่างนั้นผมก็คิดว่าในภาพรวมมันไม่ยากเกินย่อยหากใครจะกระโดดมาดู No Time To Die เลย และอันที่จริงผมไม่แนะนำให้คุณพลาดภาคสั่งลาของเคร็กด้วยประการทั้งปวง

No Time To Die
No Time To Die

***รีวิวนี้ไม่มีสปอยล์เนื้อเรื่อง

อย่างไรก็ตามผมอาจต้องบอกตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าส่วนตัวไม่ซื้อตอนจบแบบนี้ แต่ก็พอจะเข้าใจ และว่ากันตามตรงหากตัดเรื่องความชอบไม่ชอบส่วนตัวออก ทางเลือกแบบนี้ก็ยังมีความสมเหตุสมผลอยู่ไม่น้อย ถึงอย่างนั้นพอจุดหนึ่งที่ต้องตัดสินด้วยฟีลลิ่งเป็นที่ตั้งก็คงบอกได้แค่ว่า “ในส่วนนี้” รู้สึกผิดหวังระดับหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมดของหนังแต่อย่างใด

เพราะในภาพรวมของ No Time To Die ผมสามารถสรุปได้สั้นๆ เลยว่า “นี่คือยอดหนังแอคชั่นของปีอย่างไม่ต้องสงสัย” อะไรก็ตามที่สามารถก่อร่างจนกลายเป็นหนังแอ็คชั่นชั้นดีแจ่มๆ ซักเรื่อง No Time To Die มีอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นมุมกล้องสวยๆ ซีนบู๊สุดเดือด งานสตั๊นชวนทึ่งและอ้าปากค้าง รวมไปถึงซีนระทึกที่ค่อยๆ ไต่ระดับ ก่อนจะมาแผ่วลงในองค์สุดท้ายซึ่งแม้จะแผ่วปลายแบบนั้น แต่มันก็ไม่อาจเปลี่ยนความจริงที่ว่าหนังเรื่องนี้นั้นมีความสนุกและชั้นเชิงการนำเสนออยู่เต็มเปี่ยม ถ้าคุณดูหนังเพื่อเอาบันเทิงเข้าว่า ก็ไม่มีเหตุผลจะรอช้าในการตีตั๋วเข้าไปดู

งานด้านภาพก็น่าสนใจ ถ่ายซีนแอคชั่นสวยๆ หลายฉาก โดยเฉพาะบทที่อิตาลีช่วงต้นที่อยากจะใช้คำว่า “น่าทึ่ง” ในขณะที่เพลงภาคนี้รู้สึกว่าดรอปไปสักหน่อย ไม่ติดหูนัก ไม่แย่ แต่ก็ไม่โดดเด่น

อีกอย่างที่ชอบก็คือการทัชประเด็นต่างๆ ที่ภาคก่อนๆ หรือยุคก่อนๆ ไม่เคยพาบอนด์มาถึงจุดนี้ มันทำให้เราได้เห็นบอนด์ในมุมใหม่ๆ ถึงแม้ในยุคของ แดเนี่ยล เคร็ก เราจะได้เห็นบอนด์ที่ปฏิวัติความเป็นบอนด์มานักต่อนักแล้วก็ตาม ในภาคจบก็ยังคงไม่ทิ้งลาย และนั่นก็คงจะเป็นตราประทับที่ติดตัวเคร็กในหน้าประวัติศาสตร์ฮอลลิวูดอีกนานเท่านานในฐานะของบอนด์ที่สดใหม่ที่สุดคนหนึ่ง

รามี่ มาเล็ค กับบทบาทตัวร้ายหลักของภาคอาจจะดูไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับตัวร้ายภาคก่อนๆ ทั้งในแง่ของเหตุผล การกระทำ หรือฝีไม้ลายมือที่ใช้ต่อกรกับบอนด์ ส่วนดาเนี่ยล เคร็ก คงไม่ต้องพูดถึงแกเอาอยู่อย่างมากในบทบาทส่งท้ายของบอนด์ภาคนี้ เต็มที่เหมือนกับทุกครั้งที่เคยเป็นมา เชื่อแน่ว่าแฟนๆ จะไม่ลืมบอนด์คนนี้ไปอีกนานเท่านาน

No Time To Die
No Time To Die

No Time To Die อาจจะจบได้ไม่ถูกใจผมรวมถึงอีกหลายๆ คนนัก แต่มันมีทุกเอเลเมนต์ของความเป็นหนังแอคชั่นที่ดี ซีนแอคชั่นยอดเยี่ยม ถ่ายภาพเยี่ยมยอด ประเด็นทัชใจ ที่สำคัญคือนี่เป็นภาคส่งท้ายของหนึ่งในเจมส์บอนด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่ง คอหนังแอคชั่นรวมถึงแฟนๆ ของแดเนี่ยลเคร็ก ไม่ควรพลาดว่าที่หนังแอคชั่นของปีเรื่องนี้เป็นอันขาดครับ


VERDICT

8.5/10

ดูรอบหนัง และจองตั๋วได้คลิกที่นี่

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้