ชินจัง เดอะมูฟวี่ ฮันนีมูนป่วนแดนจิงโจ้ รีวิว – ไม่ใช่แค่ตลกไปวันๆ แต่เมสเสจด้านครอบครัวยังตื้นตันกินใจ
ชินจัง เดอะมูฟวี่ ฮันนีมูนป่วนแดนจิงโจ้ รีวิว – ไม่ใช่แค่ตลกไปวันๆ แต่เมสเสจด้านครอบครัวยังตื้นตันกินใจ – ไม่น่าเชื่อว่าเดอะมูฟวี่ของการ์ตูนที่ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กเปรตผมทรงสกินเฮดอย่างชินจังจะมาในทรงนี้ สารภาพตามตรงว่าไม่ทันตั้งรับจนเกือบนํ้าตาไหลเหมือนกัน เพราะแน่นอนว่าการมาดูอนิเมะมูฟวี่เรื่องนี้ผมต้องคาดหวังความเฮฮาบ้าบอเป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญอยู่แล้ว
แต่กลับอดประหลาดใจไม่ได้ที่ตัวเรื่องแฝงประเด็นความสัมพันธ์เอาไว้อย่างแข็งแรงจนน่าตกใจ คือผมอาจจะเป็นคนที่ไม่ได้ตามชินจังจริงๆ จังขนาดนั้น ที่พอรู้ก็แค่ฮิโรชิ (พ่อชินจัง) เป็นพนักงานเงินเดือนที่ขยันทำงาน ส่วนมิซาเอะ (แม่ชินจัง) ก็เป็นแม่บ้านลูก 2 ที่เข้มงวดและแข็งขันในที ดังนั้นแล้วสิ่งที่ได้เห็นในเรื่องนี้จึงเป็นเหมือนสิ่งแปลกใหม่สำหรับไมน์เซ็ตผมพอดู และมันดีเอามากๆ โดยเฉพาะแล้วกับตัวผมเองที่เพิ่งแต่งงานมาไม่ครบ 2 ปีดี
ชินจัง เดอะมูฟวี่ ฮันนีมูนป่วนแดนจิงโจ้ แม้จะเป็นชื่อที่ชวนให้นึกถึงการผจญภัยต่างแดนสุดป่วนของเด็กเปรตหัวเกรียน แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่เลย ตัวเรื่องพูดถึงครอบครัวของชินจังที่ซื้อทัวร์ฮันนิมูนต่างประเทศราคาถูกเพื่อบินมาเที่ยวเกาะแห่งหนึ่งใกล้ๆ ประเทศออสเตรเลีย โดยที่ไม่รู้เลยว่าเกาะแห่งนี้มีกลุ่มชนเผ่าที่กำลังตามหาเจ้าบ่าวให้กับองค์หญิงของพวกเขา ฮิโรชิที่ถูกเผ่าดังกล่าวเลือกโดยไม่รู้ตัวจึงโดนจับตัวไปเป็นเจ้าบ่าวให้กับองค์หญิงของตน เป็นเหตุให้มิซาเอะและลูกๆ ต้องแท็กทีมกับสาวนักล่าสมบัติในพื้นที่เพื่อช่วยสามีกลับมาให้ได้ และใช่ครับผมคิดว่าภาคนี้ฮิโรชิกับมิซาเอะคือคู่พระ-นางที่เด่นชัดเอามากๆ ส่วนชินจังตัวแสบลดบทบาทตัวเองเล็กน้อยไปเป็นตัวคอยก่อเรื่องวุ่นเสริมประเด็น รวมถึงยิงมุกไปตามท้องเรื่อง ซึ่งสำหรับผมมันกลายเป็นคอมบิเนชั่นที่สดใหม่จนประทับใจอย่างมาก
สิ่งที่ชอบที่สุดไม่ใช่มุขตลก (ซึ่งก็ฮาเลยแหละครับ) แต่เป็นประเด็นเรื่องครอบครัวที่มีความน่าสนใจและยังนำเสนอออกมาได้ดี โดยเฉพาะการจับคุณแม่ลูก 2 อย่างมิซาเอะมาผจญภัยคู่กับนักล่าสมบัติวัยรุ่น ซึ่งถือเป็นการคอมแพร์ที่ดี และยังทำให้เห็นภาพถึงความแตกต่างด้านสถานะและวัยวุฒิรวมถึงสิ่งที่ต้องแบกรับในชีวิตเมื่อคุณไม่ได้ตัวคนเดียวอีกต่อไป แต่ยังมีเด็กป่วนอีก 2 คนที่ต้องดูแล ทั้งยังต้องตามไปช่วยสามีอีก ตัวเรื่องฉายภาพความหนักหนาของสถานการณ์ที่มิซาเอะต้องเผชิญ คือถ้าเปลี่ยนธีมเป็นดราม่านี่คือนํ้าตาร่วงแน่นอนเพราะลำเค็ญจัดๆ แต่เพราะนี่คือชินจังเราจึงไม่ได้โฟกัสกับความยากเข็ญที่ว่ามากนัก และกินใจไปกับสิ่งที่มิซาเอะยอมแบกเพื่อครอบครัวมากกว่า
ในขณะที่ฮิโรชิเองอาจดูไม่ได้ลำบากเหมือนภรรยาทว่าก็แสดงบทบาทการเป็นหัวหน้าครอบครัวได้เยี่ยมไม่แพ้กัน ซึ่งตัวผมเองรู้สึกว่าสามารถเข้าใจฮิโรชิได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อนจากสถานะของตัวเองทำให้อินกับพี่แกไปอีกระดับ มีหลายๆ ช็อตที่รู้สึกได้ถึงความแมนและความเป็นพ่อเต็มขั้น หรือแม้กระทั่งซีนเหงาๆ ระหว่างพ่อ-ลูกที่ไม่คิดว่าจะมีในซีรีส์นี้ก็มาเหมือนกัน นับว่าเดอะมูฟวี่ภาคนี้ช่วยขยายมิติของความเป็นชินจังได้ดีมากๆ เลยทีเดียว
ส่วนของงานภาพมันอาจไม่มีอะไรโดนเด่นนัก เพราะรักษาความคลาสสิคไว้ แต่ก็ใช่ว่าจะมาตรฐานเดียวกับทีวีซีรีส์เลย เพราะในแง่ของเฟรมเรตและงานอนิเมตก็คุณภาพหนังโรงได้อยู่ แม้ไม่ได้โดดเด่นแต่ไม่ใช้สิ่งที่แย่อะไรครับ เอาเข้าจริงแล้วแฟนๆ น่าจะชอบที่มันเป็นแบบนี้แหล่ะ
ชินจัง เดอะมูฟวี่ ฮันนีมูนป่วนแดนจิงโจ้ อาจไม่ใช่อนิเมชั่นดังๆ ที่พร้อมจะเข้าชิงรางวัลหรือทุนสูงมากมายอะไร ทว่าประเด็นเรื่องครอบครัวที่มันนำเสนอกลับหนักแน่น ชัดเจน ย่อยง่าย และแปลกใหม่ในที ช่วยเพิ่มมิติใหักับความเป็นชินจังอย่างมาก เรียกได้ว่าไม่ได้มาฮาอย่างเดียวแต่ซึ้งก็มี ใครที่เป็นแฟนคลับชินจังหรืออยากหาอนิเมะโรงเบาๆ สนุกๆ ดูก็แนะนำเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
7.5/10
