แม้ Jumanji: Welcome to the Jungle จะมีการอ้างถึงหนัง Jumanji ภาคต้นฉบับของผู้กำกับ Joe Johnston ที่ออกฉายไปเมื่อปี 1995 ให้เราหายคิดถึงว่ามันก็ยังคงเป็นหนังที่มีความเชื่อมโยงกันอยู่บ้าง แต่ใน Jumanji ภาค 3 ที่จะเป็นภาคต่อจาก Welcome to the Jungle นั้น มันจะมีความเชื่อมโยงที่มากขึ้นยิ่งกว่าเดิม กับเรื่องราวของบอร์ดเกมมหัศจรรย์ที่ได้พาเหล่าสรรพสัตว์และโลกของ Jumanji เข้ามาสู่ในชีวิตจริง
(ภาพจาก: Variety)
Jumanji: Welcome to the Jungle นั้น ก็อย่างที่เราทราบกันดีว่า มันเป็นหนังที่เป็นการพลิกเนื้อหาของ Jumanji กลับด้านทั้งหมด จากที่ในหนังภาคแรกนั้น มันเป็นเรื่องราวของบอร์ดเกมมหัศจรรย์ที่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนเกมกระดานนั้นจะมาปรากฏในชีวิตจริง แต่ใน Welcome to the Jungle นั้นมันก็ได้นำเสนอเรื่องราวที่พลิกกลับด้านแทน โดยการนำเอาเหล่าตัวละครเอกเหวี่ยงเข้าไปสู่โลกของวิดีโอเกม เพื่อให้เนื้อหามีความร่วมสมัยมากขึ้น จนทำให่มันถูกเหล่าแฟนๆ ต่อต้านในช่วงแรกที่มีการเปิดตัวออกมา และค่อนขอดตัวหนังว่าไม่มีความเป็น Jumanji เอาเสียเลย แต่มันก็กลับสร้างเซอร์ไพรซ์ที่ทำให้หลายๆ คนไม่คาดคิดว่าแม้จะมีเนื้อหาและการนำเสนอที่แตกต่างกัน แต่ถึงกระนั้นมันก็คือภาคต่อของ Jumanji อย่างแท้จริงจากหลายๆ สิ่งที่ปรากฏขึ้นในหนัง เพราะตัวของ Dwayne Johnson เองก็เป็นแฟนตัวยงของหนังเรื่องนี้ และเขาก็หวังอีกด้วยว่าใน Jumaji ภาคต่อไป ไม่แน่ว่าตัวละคร Alan Parrish ที่ Robin William เคยแสดงนั้นอาจจะได้มาปรากฏตัวด้วยก็เป็นได้
ซึ่งล่าสุดผู้กำกับ Jake Kasdan นั้น ก็ได้ออกมายืนยันกับทางเว็บไซต์ SlashFilms แล้วว่าใน Jumanji ภาค 3 นั้นมันจะมีความเชื่อมโยงกับหนังภาคแรกมากขึ้นอย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะดำเนินเนื้อหาต่อจาก Welcome to the Jungle ก็ตาม
“ความหวังของเราก็คือการที่จะทำให้มันสามารถดำเนินเรื่องต่อไปให้ยาวนานที่สุด เราชอบไอเดียที่เป็นการเก็บรวมสิ่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันและมาเชื่อมโยงเข้าหากันไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเป็นอย่างมาก”
(ภาพจาก: Stack)
และนอกจากนี้ทาง SlashFilms ก็ยังได้ยืนยันอีกด้วยว่าทางผู้กำกับ Jake Kasdan นั้น มีแผนที่จะออกฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในช่วงคริสต์มาส 2019 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่นักแสดงอย่าง Dwayne Johnson ได้เคยบอกกับเรามาก่อนหน้านี้
Jumanji: Welcome to the Jungle นั้นกลายเป็นหนังม้ามืดของปีที่แล้วที่ออกมาประสบความสำเร็จเกินคาดสำหรับทางค่าย Sony จากที่ใครๆ ต่างก็เคยปรามาสเอาไว้ว่าหนังแนวนี้มันเป็นหนังที่ตกยุคและล้าสมัยไปแล้ว ซึ่งมันก็ได้แสดงให้เราเห็นด้วยรายได้อันมหาศาลบน Box Office ว่าผู้คนก็ยังคงชื่อชอบหนังแอคชั่นสนุกๆ เบาๆ สมองในสไตล์นี้อยู่และมันก็กลายเป็นหนังที่ดีได้หากผู้กำกับและตัวผู้สร้างให้การเคารพกับงานมากพอ ก็ไม่น่าแปลกใจนักที่ทาง Sony นั้นจะอนุมัติในการสร้างภาคต่อโดยทันท่วงทีที่เราจะได้ชมมันอีกครั้งในช่วงคริสต์มาส 2019
ที่มา: Screen Rant