อีกหนึ่งอนิเมะที่ได้รับการกล่าวขานตั้งแต่ที่ได้เริ่มเข้ามาเปิดตัวโฆษณาในไทย เพราะเป็นอีกเรื่องที่ มาโคโตะ ชินไค ออกปากชมด้วยตนเอง เพราะทั้งภาพ สี แสง นั้นเรียกได้ว่างดงามตระการตาจนน่าใจหายเลยทีเดียว ซึ่งในวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางทีมงานได้มีโอกาสไปรับชมรอบมา โดยตัวหนังจริงๆ นั้นจะเปิดรอบพิเศษในวันที่ 16 – 17 มิถุนายน และจะเริ่มเข้าฉายจริงในวันที่ 28 มิถุนายนที่จะถึงนี้
Sayo Asa หรือ Sayonara no Asa ni Yakusoku no Hana o Kazarō เป็นภาพยนต์อนิเมะที่ได้รับการกำกับโดย Okada Mari ผู้เขียนบทอนิเมะชื่อดังอย่าง Fate/Stay Night, Anohana: The Flower We Saw That Day, Black Rock Shooter และอื่นๆ อีกมากมาย โดยสำหรับ Sayo Asa นั้นเป็นภาพยนต์อนิเมะเรื่องแรกที่เธอเป็นผู้กำกับด้วยตัวเองอีกด้วย
โดยเรื่องย่อของ Sayo Asa นั้นเป็นเรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่าง มาเคีย เด็กสาวผู้มาจากเผ่าแห่งการลาจาก (หรือในชื่อของ ชาวลอร์ฟ) เผ่าพันธุ์ที่หยุดการเจริญเติบโตเมื่อร่างกายย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นและมีอายุขัยยืนยาวกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ บนโลก มาเคียนั้นมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความอมตะอันโดดเดี่ยว เธอไม่มีทั้งพ่อแม่และได้รับการเลี้ยงดูโดยผู้นำเผ่า เธอเติบโตขึ้นมาพร้อมกับ เลเลีย เด็กสาวที่งดงามที่สุดในเผ่า และ คาริม เพื่อนชายที่เธอแอบปันใจให้ ความสงบสุขนั้นช่างแสนสั้นเมื่อเผ่าของเธอถูกกองทัพบุกรุก หมู่บ้านเธอถูกเผาทำลาย และเพื่อนของเธอก็โดนจับตัวไป มาเคียต้องออกเร่ร่อนท่ามกลางป่าอย่างเดียวดาย และโชคชะตาก็พาเธอมาพบกับ แอเรียล เด็กทารกตัวน้อยที่สูญเสียพ่อแม่ไป เรื่องราวของเด็กสาวผู้เป็นอมตะและมนุษย์ตัวน้อยจึงเริ่มต้นขึ้น
เริ่มแรกเรื่องราวถูกเปิดตัวขึ้นโดยการเล่าเรื่องชีวิตประจำวันและประวัติโดยคร่าวของ เผ่าพันธุ์แห่งการลาจาก (ในอนิเมะจะมีการเรียกคนจากเผ่านี้ว่า ชาวลอร์ฟ) ก่อนที่เรื่องจะนำไปสู่จุดผันเปลี่ยนของชีวิตมาเคีย
ตัวอนิเมะนั้นโฟกัสความสำคัญทั้งหมดไปที่ “ความสัมพันธ์ของตัวละคร” และ “ความเป็นแม่” ซึ่งตลอดช่วงเวลาของหนังนั้นจะเห็นได้ชัดเจนว่าตัวหนังได้พยายามนำเสนอประเด็นนี้อย่างชัดเจน เรียกได้ว่าผู้ชมจะสามารถมองเห็นถึงพัฒนาการในแต่ละด้านของตัวละครอย่างชัดเจน
ซึ่งนั่นทำให้ยิ่งเราได้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เรารู้สึกอินไปกับความรู้สึกของตัวละครในเรื่องมากเท่านั้น ตัวละครแต่ตัวมีสเน่ห์ มีปม และทัศนคติที่เป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจ การแสดงออกระหว่างตัวละครจึงมีความเป็นธรรมชาติ และชวนให้เข้าถึงอารมณ์คนดูได้ดียิ่งขึ้น นั่นทำให้หนังสามารถชักจูงอารมณ์ของคนดูให้ไปในทิศทางที่ต้องการได้พอสมควร
อย่างไรก็ตามในขณะที่ตัวหนังนั้นได้โฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ของตัวละคร เรื่องราวอื่นๆ ทั้งปริศนาและความเป็นมาของเรื่องกลับนำเสนอได้ไม่สุด ประเด็นหลายเรื่องถูกทิ้งไว้โดยไม่มีการอธิบายทั้งทางด้านความเป็นมาของเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างเมือง หรือแม้กระทั่งสัตว์วิเศษที่ควรจะมีการบอกเล่าเรื่องราวได้มากกว่านี้ เพราะถ้าหากเราเลิกสนใจเรื่องราวของสองตัวละครหลักไปล่ะก็ จะเห็นได้ว่าพล็อตอื่นๆ ของตัวหนังนั้นแทบจะเรียกได้ว่าทำให้รู้สึกโหวงเหวงได้เลย
นอกจากนั้นตัวหนังนั้นมีการสลับช่วงเวลา (Time Skip) บ่อยมากจนบางทีทำให้ผู้ชมเกิดความสับสน ด้วยความที่ตัวหนังโฟกัสไปที่มาเคีย เด็กสาวที่หยุดการเจริญเติบโตยิ่งทำให้แยกช่วงเวลาได้ยากว่าเหตุการณ์นี้ถูกข้ามไปกี่ปี และนี่คือเรื่องราวของช่วงเวลาไหน เกิดความไม่ปะติดปะต่อของเนื้อเรื่องขึ้น
อย่างไรก็ดีในด้านของงานอนิเมชั่นนั้นเรียกได้ว่าสวยงามจริงๆ มีการใช้แสงและสีในการบ่งบอกถึงบรรยากาศและอารมณ์ของตัวละครได้อย่างดี ใครที่ชื่นชอบในด้านของความสวยงามของฉากและรายละเอียดสุดอลังเรียกได้ว่าอาจจะต้องหลงรัก นอกจากนั้นสิ่งของบางอย่างในฉากอาจซ่อนความหมายในชนิดที่ถ้าหากมองผ่านไปก็คงไม่มีใครสังเกต และสำหรับด้านดนตรีเพลงประกอบนั้น ขอบอกได้เลยว่ามีความไพเราะ ทำนองของเพลงส่วนใหญ่นั้นจะเป็นบทเพลงช้าๆ และให้ความรู้สึกเหงาซึ่งตรงกับคอนเซปต์ของตัวละครหลักอย่างมาเคีย “ความอมตะที่เต็มไปด้วยความเดียวดาย” นั่นเอง
Sayo Asa นั้นไม่ใช่อนิเมะรักใสๆ สำหรับใครที่คิดอยากจะดูแนว Your Name ล่ะก็ Sayo Asa อาจจะไม่ตอบโจทย์คุณ เพราะตัวหนังนั้นมุ้งเน้นไปที่ “สายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกและครอบครัว” มากกว่า แต่ถึงแม้จะไม่ใช่อนิเมะรักหวานแหวว แต่ Sayo Asa ก็นำเสนอความรักที่สุดจะซึ้งกินใจได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งนอกจากนั้นในด้านของภาพ เสียง อรรถรสต่างๆ เรียกได้ว่าคุ้มค่าแก่การมาดูจริงๆ ล่ะนะ