เมื่อน้องหนู Alma กลับมากระตุกขวัญสั่นประสาทคุณอีกครั้ง F.E.A.R. 2: PROJECT ORIGIN

ประเภท: FIRST-PERSON-SHOOTING ผู้พัฒนา: MONOLITH ผู้ผลิต: WARNER BROS. INTERACTIVE ENTERTAINMENT ผู้จัดจำหน่าย: – เครื่องที่ต้องการ: P4 2.8GHZ (3.2GHZ FOR VISTA), 1GB RAM (1.5GB for Vista), 12GB HD SPACE, 256MB 3D CARD, DVD-ROM drive เครื่องที่แนะนำ: CORE 2 DUO 2.2GHz, 2GB RAM, 512MB 3D Card จำนวนผู้เล่นสูงสุด: 16 ESRB RATING: M

สำหรับคนที่กลัวว่านี่จะเป็นเกมกระชากขวัญสั่นประสาทที่คุณเคยเล่นมาก่อนหรือไม่ ไม่ต้องกังวลครับ มันยังคือเกมที่เราคุ้นเคยกันอยู่ เพราะ F.E.A.R. 2: Project Origin จะดำเนินเนื้อเรื่องต่อโดยตรงจาก F.E.A.R. ในฉากการระเบิดทำลายล้างอาคารของ Armacham คุณจะได้รับบทสมาชิกของหน่วยกวาดล้างพิเศษที่ภารกิจตามปกติของเขาถูกขัดขวางโดยพลังอำนาจเหนือธรรมชาติอันแสนกราดเกรี้ยวของ Alma ที่แผ่ขยายและครอบคลุมทุกพื้นที่ของเมือง Auburn

Project Origin อาจจะให้ความรู้สึกที่ไม่แตกต่างกันกับ F.E.A.R. เท่าไรนัก คุณจะได้สัมผัสบทบู๊แอ็กชั่น การสาดกระสุนจนมันส์หยด ภาพการทำลายล้างแบบสโลว์โมชั่น กระสุนเจาะหัวกะโหลกเลือดสาดกระจายยังมีให้เห็นอยู่เหมือนเดิม (หลายๆ คนคงจะรู้สึกสะใจอยู่ไม่น้อย) ความหลอนของ Alma ที่ออกมาทักทายคุณเป็นระยะๆ สิ่งเหล่านี้คุณจะได้เจอได้ตลอดในขณะเล่นเกม แต่ก็ใช่ว่า Project Origin จะไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย เพราะทั้งความดุเดือดและความสยองขวัญที่ F.E.A.R. มีนั้น มันจะยกระดับขึ้นไปอีกขั้นในเกือบทุกด้าน เอฟเฟ็กต์ สถานที่หรือฉากต่างๆ ดูกว้างใหญ่หลากหลายขึ้น ศัตรูจะโหดขึ้น และเอฟเฟ็กต์สโลว์โมชั่นที่คงเอกลักษณ์ยังมีอยู่เหมือนเคย ความสามารถขั้นเทพในการใช้เอฟเฟ็กต์สโลว์โมชั่นของตัวละครของคุณก็จะยังคงใช้จัดการกับศัตรูหน้าไหนก็ตามที่บังอาจมาขวางทางได้เช่นเดิม

 EPA คือหุ่นยนต์แห่งการทำลายล้างอย่างแท้จริง

สภาพแวดล้อมที่ทำลายได้ AI มีหนทางมากขึ้นในด้านปฏิสัมพันธ์และการใช้สิ่งแวดล้อมในฉากต่อสู้ จำนวนชนิดของศัตรูจะมีความหลากหลายมากกว่าเก่าและตัวผู้เล่นสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมเพื่อใช้เป็นที่กำบังได้อีกด้วย เช่น ในขณะที่กำลังแจกกระสุนใส่ทหารโคลนอย่างเมามันส์อยู่นั้น ผมสามารถล้มตู้ใบยักษ์เพื่อนำมาเป็นโล่กำบังได้ ทำให้มีโอกาสส่องพวกทหารโคลนได้ถนัดขึ้น โดยไม่ต้องห่วงที่กำบัง นับว่าเป็นการออกแบบที่ดีทีเดียว ความหลากหลายของศัตรูก็นับว่าเป็นส่วนช่วยให้ผมพบประสบการณ์การเล่นที่น่าหลงใหล ไม่นับรวมพวกทหารหน่วย Replica Forces และ ATC Security ที่ต้องเจอหน้ากันเป็นประจำแล้ว (เจ้าตัว Abomination นั้นสร้างความหลอนให้ผมได้อย่างสุดขั้ว) ความฉลาดของ AI เองก็ดูสูงขึ้นมาก พวกมันรู้จักหลบหลีก หาที่กำบัง และหยอดระเบิดได้แบบประจวบเหมาะ

หากเจ้าตัวประหลาดนี้เข้ามาหาคุณ แนะนำให้ใช้เท้าผลักมันไปไกลๆ

ส่วนอาวุธใหม่ๆ อย่างปืน Raab KM50 Sniper Rifle (ปืนซุ่มยิงพร้อมติดกล้องอินฟราเรด) ปืนไฟ Balzer LM 10 Flamethrower, ปืนเลเซอร์ Shark FL-3 และเครื่องยิงระเบิด กลายเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยม แน่นอนว่าลูกเล่นสโลว์โมชั่นดั้งเดิมก็ยังน่าสนุกไม่เสื่อมคลาย การได้ขับขี่หุ่นยนต์ Elite Power Armor (EPA) ทำให้รู้สึกได้ว่าทหารโคลนที่พุ่งเข้ามานั้น เหมือนมดปลวกที่สามารถบดขยี้พวกมันได้อย่างง่ายดาย

เมื่อเล่นไปได้สักระดับหนึ่ง คุณจะพบถึงรูปแบบการเล่นที่เดินตามรอยเดิมๆ เหมือนอย่างในภาคที่แล้ว เจอเหล่าศัตรูทีไรก็ต้องมีการยิงต่อสู้โดยตลอด แม้ว่าเกมนี้จะมีการแก้ปริศนาเพื่อเอาตัวรอดในบางฉาก แต่มันก็ขาดความลุ่มลึกไปซะหน่อย ผมรู้สึกดีใจที่มี AI เป็นเพื่อนร่วมทางไปด้วย แต่เธอหรือเขาเหล่านั้นกลับไม่มีส่วนร่วมในเกมเลยสักนิด เพราะว่าภารกิจส่วนใหญ่จะเน้นให้คุณเป็นผู้นำหรือทำเองซะมากกว่า (เพื่อนเราได้แต่ยืนเอาใจช่วยอยู่ข้างๆ) ส่วนลูกเล่นสโลว์โมชั่นที่เป็นเอกลักษณ์นั้น ผมกลับรู้สึกว่าทางทีมพัฒนายังทำออกมาได้ไม่ดีพอ ภาพการเคลื่อนที่ของกระสุน สภาพแวดล้อมในช่วงนั้น และภาพเวลาศัตรูเคลื่อนที่ยังดูไม่สมจริง ผมว่าลูกเล่นสโลว์โมชั่นในภาคที่แล้วดูดีกว่านี้นะ

เมื่อคุณปะทะกับศัตรูที่มองไม่เห็น การสาดกระสุนออกไปก่อนนับว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุด

แต่สิ่งที่มาเติมเต็มให้กับ Project Origin ได้คงหนีไม่พ้นเรื่องของกราฟิกที่ดูดีมาก ยิ่งถ้าคุณออกด้านนอกอาคาร คุณจะได้เห็นภาพเมือง Auburn ที่กำลังล่มสลาย ภาพฝุ่นหรือควันไฟ มันทำให้ผมรู้สึกว่ากำลังอยู่ในเมืองนี้จริงๆ ยิ่งในช่วงที่อยู่ในภาวะคับขันหรือในช่วงที่ตระหนกสุดขีดหรือเวลาเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ประหลาด ภาพหน้าจอจะออกเบลอๆ แถมด้วยเสียงการเต้นของหัวใจที่ดังก้องอยู่ตลอดเวลา มันทำให้ระทึกขวัญอยู่เสมอ ตรงส่วนนี้ผมต้องขอยกนิ้วให้จริงๆ ครับ

ชี้อธิบายเป็นหัวข้อตามนี้ครับ

01 คุณสามารถยิงพวกถังน้ำมันหรือก๊าซเชื้อเพลิงเพื่อให้มันระเบิด สร้างความเสียหายได้
02 เมื่อใช้ลูกเล่นสโลว์โมชั่นจะปรากฏ Highlighted บนตัวศัตรู ทำให้เล็งเป้าหมายได้ง่ายดายมากขึ้น
03 คุณจะเห็นวิถีกระสุนเจาะร่างของศัตรู เมื่อใช้สโลว์โมชั่น
04 อย่าคิดว่าจะหลบอยู่หลังเสาหรือที่กำบังได้ตลอดเวลา เพราะสภาพแวดล้อมต่างๆ ภายในเกมสามารถทำลายได้!

สำหรับโหมดผู้เล่นหลายคน เรียกได้ว่าสร้างสีสันในการเล่นและมีการพัฒนาได้ดีกว่าภาคที่แล้วที่เน้นการเล่นคนเดียวเป็นหลัก โหมดที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้น Armoured Front ที่คุณจะต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งจุดยุทธศาสตร์ในแผนที่ให้ได้ ทีเด็ดคือ การเรียกใช้งานหุ่นยนต์รบ Elite Powered Armour คุณจะต้องสะใจที่ได้ยิงปืนกลหรือเครื่องยิงจรวดใส่ผู้เล่นคนอื่น ส่วน Failsafe เป็นอีกหนึ่งโหมดที่ผมคิดว่าน่าสนใจนะ ภารกิจคุณของคุณคือไปวางระเบิดที่เก็บพลังงาน แต่ไม่ง่ายอย่างนั้นเมื่ออีกทีมจะต้องทำหน้าที่ในการเก็บกู้ระเบิด หากฝ่ายใดระเบิดฐานฝ่ายศัตรูได้ก่อนก็เป็นผู้ชนะไป รวมถึงยังมีโหมดพื้นฐานอย่าง Deathmatch และ Teamdeathmatch ให้เล่นด้วยครับ

ปืน Raab KM50 Sniper Rifle ใช้ส่องพวกทหารโคลนได้ชะงัดนัก

คงต้องบอกได้อย่างเดียวว่า Monolith ได้สร้างตำนานเกม F.E.A.R. ภาคแรกได้อย่างสุดยอด ไร้ข้อครหาใดๆ ทั้งสิ้น แต่เราก็ทราบดีว่าการรักษามาตรฐานและความสำเร็จให้คงเดิมหรือดีกว่าเดิมนั้น ทำได้ยากกว่าเดิมมากๆ มีอยู่หลายส่วนที่ Project Origin ได้ทำลายความคาดหวังของผม การขาดความสร้างสรรค์ที่ทำให้ตัวเกมมีความน่าสนใจ การเดินตามสูตรสำเร็จเดิมๆ ไม่มีการปรับปรุงการเล่นและเนื้อหาแบบหักมุมให้ดึงดูดใจผู้เล่น แต่ขึ้นชื่อว่า F.E.A.R. 2: Project Origin มันยังคงมีมนตร์เสน่ห์ที่ทำให้ผมเล่นเกมนี้ได้โดยไม่เบื่อครับ

ศัตรูหน้าใหม่ซึ่งถูกเรียกขานว่า Remnant เจ้านี่ไม่เหมือนอะไรที่พวกเราเคยจ่อปืนใส่มาก่อน โดยแต่ละตัวจะมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ผมเจอเดินเตร็ดเตร่อย่างไร้จุดหมายในตรอกข้างทาง ถ้าพวกเขาถูกรบกวนด้วยอะไรก็ตามจากภายนอก มันจะตอบสนองอย่างดุเดือดและบ้าคลั่ง เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้ๆ เจ้า Remnant เริ่มกรีดร้องจนหน้าจอเบลอไปหมดซึ่งทำให้ผมเคลื่อนที่ช้าลง จากนั้นก็ปรากฏลำแสงคล้ายๆ ไฟนีออนสีแดงพุ่งออกมาจากร่างกายของมัน ลำแสงนี้จะช่วยคืนชีพให้กับบรรดาซากศพทั้งหลายที่อยู่ในฉากแล้วทำให้มันกลับกลายเป็นมีชีวิตแล้วลุกขึ้นมาจัดการกับเรา คุณจะเจอพวก Remnant ได้ไม่บ่อยนัก แต่การได้ประมือกับพวกมันถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่เลวเลย

ความเห็นที่หนึ่ง  : 76%

ข้อดี: ยังคงบรรยากาศที่ชวนขนหัวลุกได้ตลอดเวลา สภาพแวดล้อมที่ทำลายได้ ปฏิสัมพันธ์สิ่งแวดล้อมในฉากต่อสู้ จำนวนชนิดของศัตรูจะมีความหลากหลายมากกว่าเก่า โหมดผู้เล่นหลายคนที่น่าสนใจ
ข้อด้อย: เดินตามสูตรสำเร็จเดิมๆ ไม่มีปรับปรุงการเล่นและเนื้อหาแบบก้าวกระโดดให้ดึงดูดใจผู้เล่น
โดยรวม: F.E.A.R. 2: Project Origin ยังคงเอกลักษณ์และรูปแบบการเล่นที่เหมือนเดิม มีอยู่หลายจุดที่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ภาพรวมแล้วตัวเกมยังไม่ได้สร้างสิ่งที่เรียกว่า “ความแตกต่าง” จากเกมในแนวเดียวกันเท่าไรนัก

ความคิดเห็นที่ 2  : 65%

รู้สึกว่า F.E.A.R. 2: Project Origin เน้นในเรื่องของแอ็กชั่น ดุเดือด สาดกระสุนกันมากไปหน่อยนะ ความสยองขวัญหายไปหมด ไม่เหมือนภาคแรกเลย อีกอย่างผมยังไม่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นมากเท่าไรนัก มันทำให้เกมดูไม่ค่อยน่าสนใจเหมือนอย่างที่ผมคาดหวังไว้ จริงอยู่ว่าหลายๆ ส่วนภายในเกมมีการพัฒนาในทางที่ดีขึ้น เช่น ฉากที่กว้างใหญ่อลังการ กราฟิกสวยงามมากขึ้น ความชาญฉลาดของเหล่า AI การปรับปรุงในส่วนของระบบผู้เล่นหลายคน แต่มันก็ไม่ทำให้ผมลืมข้อด้อยที่กล่าวมาในตอนแรกได้ทั้งหมด สำหรับในความคิดเห็นของผมแล้ว F.E.A.R. 2: Project Origin ก็แค่เกมแนวเดินหน้ายิงที่ไม่ค่อยมีจุดเด่ดอะไรให้น่าจดจำเท่าไรนัก (หากคุณได้สัมผัส Dead Space แล้วล่ะนะ…)

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้