[รีวิวเกม] Harry Potter: Magic Awakened โลกเวทมนต์บนมือถือ

สิ้นสุดการรอคอยสำหรับเหล่า Potterhead กับการมาของเกมมือถือจากแฮรี่ตัวล่าสุดอย่าง Harry Potter: Magic Awakened ที่พึ่งเปิดให้บริการแบบ Global ทั่วโลกกันไปเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา หลายคนน่าจะโหลดมาลองกันแล้ว แต่หลายคนอาจจะกำลังลังเลอยู่ว่าจะลองดีมั้ย ? แล้วถ้าไม่ได้ดูหนัง ดูนิยายมาก่อนจะสนุกรึเปล่า ? ลองมาดูรีวิวนี้กันครับ

ภาพรวมและเนื้อเรื่อง

Harry Potter: Magic Awakened เป็นผลงานจากค่าย NetEase ที่ตัวเกมจะมาเป็นแนว RPG ผสมผสานกับการเล่น TCG ในการต่อสู้เป็นหลัก โดยเนื้อเรื่องของตัวเกมจะอยู่ในช่วงหลังจากสงครามกับลอร์ดโวลเดอมอร์ประมาณ 4 ปี และเราก็จะรับบทเป็น 1 ในนักเรียนที่กำลังจะเข้าเรียนที่ Hogwats ในปี 1 นั่นเองครับ ดังนั้นตัวละครดังๆ ที่เป็นนักเรียนในหนังที่เราเห็นกันก็อาจจะไม่ได้เจอ แต่เราอาจจะเจอคนที่นามสกุลคุ้นเคย หรือเหล่าศาสตราจารย์ที่เป็นครูอยู่ในโรงเรียนแทน แน่นอนว่าตัวละครเราก็จะเข้าไปพัวพันกับเรื่องวุ่นวายต่างๆ ซึ่งตัวเกมก็จะมีความ RPG ค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับการเป็นเกมมือถือด้วยกันครับ แถมยังมีเสียงพากย์แบบจัดเต็มให้ฟังกันด้วยนะ ที่สำคัญคือตัวละครเราก็มีเสียงพากย์ตามเพศด้วย! นอกจากนี้ตัวกราฟิกของเกมเองก็ใช้ออกแนวๆ ถ้าใครเคยเล่นเกมในเครือ NetEase เองก็จะเป็นภาพสไตล์ Identity V ซึ่งภาพจะดูเหมาะกับความเป็นปริศนาลึกลับและการผจญภัยในโลกเวทมนต์ของตัวเกมพอดี ส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างชอบภาพสไตล์นี้ในการใช้กับเกมแนวนี้มากๆ เลยทีเดียวครับ

ระบบต่อสู้หลักของเกม

สำหรับระบบการต่อสู้นั้นตัวเกมจะใช้ระบบการ์ดเป็นหลักซึ่งผู้เล่นก็จะต้องจัดการ์ดใส่เด็คด้วยกันทั้งหมด 8 ใบจาก 2 ประเภทก็คือ Spell ที่เป็นเวทใช้งานแล้วหมดไปต่างๆ กับ Summoning ที่เป็นการอัญเชิญสัตว์วิเศษหรือสิ่งของต่างๆ ออกมาช่วยต่อสู้ ซึ่งทั้ง 2 ประเภทก็จะมีทั้งการ์ดที่เอาไว้สร้างความเสียหายกับฝ่ายตรงข้าม ขัดขวางหรือก่อกวนฝ่ายตรงข้าม ป้องกันตนเอง เสริมพลังการต่อสู้ และอื่นๆ ให้เลือกใช้งานมากมาย นอกจากนี้เมื่อเราเล่นไปซักพักก็ยังมีอีก 2 ส่วนประกอบในเด็คให้ใส่ด้วยก็คือ Companion ที่จะเป็นเหมือนเพื่อนร่วมต่อสู้ในสนาม ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคน (แต่ก็มีเป็นเผ่าอื่นด้วยนะ) กับ Echo ที่เปรียบเสมือนผู้นำของเด็คเรา ซึ่งจะเสริมพลังจากความสามารถพิเศษอย่างเช่น Harry Potter ที่จะทำให้การ์ดค่าร่าย 3 หรือต่ำกว่ามีผลที่รุนแรงมากขึ้นนั่นเองครับ

อัปเกรดความสามารถของเราให้เก่งขึ้น

ทีนี้ตัวเกมจะแปลกหน่อยตรงที่ว่าเลเวลของตัวละครเราจะขึ้นอยู่กับเลเวลรวมๆ ของการ์ดในตัวที่เรามี ซึ่งเราจะต้องทำการอัปเกรดการ์ดต่างๆ ให้มีเลเวลสูงขึ้น พร้อมกับส่งผลให้ความสามารถของการ์ดใบนั้นเพิ่มขึ้น โดยเราจะสามารถอัปเกรดการ์ดด้วยการเปิดหาการ์ดซ้ำๆ มากดอัปเลเวลเท่านั้นเองครับ แต่ยิ่งเลเวลเยอะก็จะยิ่งใช้จำนวนมากขึ้น ซึ่งการ์ดเองก็จะมีระดับความหายากที่แตกต่างกันตั้งแต่ Normal ไปจนถึงระดับ Mystic และเลเวลเริ่มต้นของการ์ดก็จะแตกต่างกันด้วยอย่าง Normal จะเริ่มที่การ์ดเลเวล 1 แต่ระดับ Legendary จะเริ่มที่เลเวล 9 เป็นต้นครับ อ้อ! ตัว Echo เองก็อัปเกรดได้เหมือนกันนะ โดยจะใช้ดวงวิญญาณที่สามารถหาได้ในป่าต้องห้ามมาอัปเกรด ซึ่งพอ Echo อัปเกรดเราก็จะได้ค่าสถานะเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการที่ Echo แต่ละตัวจะมีการอัปเลเวลให้การ์ดที่สุ่มออกมาได้ (สามารถกดเปลี่ยนการ์ดสุ่มได้นะ แต่ต้องใช้เงินกับเศษวิญญาณด้วย) เมื่อเราปลดแต่ละขั้นอีกด้วยครับ ก็ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการจัดเด็คเช่นกัน

ออกสำรวจและเรียนรู้ในโรงเรียน

และก็ถึงเวลาที่เราจะได้ออกสำรวจภายในโรงเรียนกันซักทีนะครับ หลังจากที่เราได้ออกจากหอพักของเราและดำเนินเนื้อเรื่องไปซักพักแล้ว ตัวเกมก็จะค่อยๆ เปิดระบบต่างๆ ให้เราเล่น โดยตอนนี้ที่ผมเล่นไปถึงซักเลเวล 26-27 ก็จะมีโหมดการเล่นให้เราเลือกเล่นได้อีกประมาณ 4 อย่างดังนี้

Duelling Club

Duelling Club – คลับแห่งการประลองที่จะเป็นเหมือนโหมด PvP หลักของเกมนั่นเองครับ มีการเก็บคะแนนไต่แรงค์ด้วย โดยภายในนี้เราก็จะได้ปะทะกับผู้เล่นอื่นเพื่อวัดฝีมือกันผ่านการจัดเด็คและใช้งานการ์ดต่างๆ นั่นเอง ซึ่งในแรงค์แรกๆ ก็จะเป็นบอทมาให้เราได้ลองเล่นกันก่อน และเมื่อเล่นไปซักพักก็จะเริ่มเจอกับผู้เล่นอื่นครับ เป็นโหมดที่สนุกมากและเป็นไฮไลท์นึงของเกมนี้เลยก็ว่าได้

Today’s Classes

Today’s Classes – เป็นการเข้าเรียนในคลาสต่างๆ โดยเราสามารถชวนเพื่อนมาร่วมเรียน หรือชวน NPC ที่เราเจอเข้ามาเรียนด้วยได้ทั้งหมดรวมเป็น 3 คน แต่ละคลาสก็จะมีมินิเกมต่างๆ ไม่เหมือนกัน และก็จะมีการเพิ่มระดับเพื่อรับของรางวัลต่างๆ ด้วย อย่างโหมดในรูปก็จะเป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่อง Harry Potter ทั้งหมด ซึ่งถ้าเป็นแฟนๆ อยู่แล้วน่าจะตอบกันสนุกนานแน่นอนครับ

Dance Club

Dance Club – คลับสำหรับคนชอบเต้น นับว่าเป็นมินิเกมอันนึงที่จะให้เราได้เล่นเกมแนวกดจังหวะ หรือมิวสิคเกมนั่นแหละครับ โดยถ้าเล่นใน PC ก็จะให้เรากดแค่ลูกศรซ้ายกับขวา แต่ถ้าเล่นบนมือถือจะเป็นให้จิ้มๆ ซึ่งตอนแรกเพลงก็จะง่ายๆ 1 ดาวไม่ได้ยากอะไร แต่พอเล่นผ่านก็จะสามารถปลดระดับความยากขึ้นได้เรื่อยๆ ครับ

Forbidden Forest

Forbidden Forest – โหมดนี้เป็นโหมดที่ผมค่อนข้างชอบเป็นพิเศษเลยครับกับป่าต้องห้าม ที่จะมาให้เราได้เล่นเป็นเหมือนโหมดไต่หอของเกมอื่นๆ แล้วก็จะมีความผสมๆ Rouge-like เข้าไปหน่อยๆ ด้วยการมีสุ่มบัฟการ์ดให้ด้วยครับ แต่ในโหมดนี้จะถูกแบ่งย่อยเป็นอีก 2 แบบก็คือ Solo Exploration ที่จะออกสำรวจป่าด้วยตัวคนเดียว และโหมด Team Exploration ที่สามารถชวนเพื่อนๆ ไปออกสำรวจป่าได้ แต่แบบทีมจะสามารถลงได้แค่วันละ 2 รอบครับ (ถ้าจำไม่ผิดนะ) แล้วแบบทีมเท่าที่เห็นก็จะมีแยกอีก 2 ด่านคือ Haunted Hallow กับ Deadly Dell ด้วยครับ ซึ่งของในโหมดนี้ก็จะได้เยอะกว่าแบบ Solo แน่นอน

นอกจากนี้ตัวเกมก็ยังมีพาร์ทอื่นให้เดินสำรวจอีกมากมายอย่างเช่นการนั่งไม้กวาดบินสำรวจรอบๆ โรงเรียน การไปหาแฮกริดที่ Hagrid’s Hut หรือการไปซื้อของใช้ต่างๆ ที่ดรอกไดแอกกอน เป็นต้น ทำให้ตัวเกมค่อนข้างมีการตอบโจทย์แฟนแฮรี่ในด้านบรรยากาศของเกมอีกด้วย นอกจากนี้เห็นว่ามีโหมดให้เล่น Quiditch ด้วยนะ แต่ผมยังเล่นไม่ถึงไม่รู้ว่ามันปลดให้เราเล่นเมื่อไหร่ครับ

ส่วนเรื่องของการจ่ายเงินของตัวเกม หลักๆ ก็จะเป็นเรื่องของการซื้อกุญแจมาเปิดกาชาต่างๆ ภายในเกมเพื่อหาการ์ดมาใช้งาน มีทั้งแบบกุญแจเงิน กุญแจทองที่เป็นเรทปกติ สามารถหาได้ทั้งจากเควสต์ในเกมและซื้อด้วยเงินจริง แต่แบบตู้เรทตามเวลานั้นจะใช้เป็นกุญแจสีแดงแทน ซึ่งตอนนี้เราจะหาได้จากการทำเควสต์เนื้อเรื่องภายในเกมกับใช้เงินจริงซื้อครับ ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นพวกแพ็คเด้ง พาสรายซีซั่น การ์ดได้เพชรประจำเดือนต่างๆ ที่เกมมือถือปกติทั่วไปก็จะมีอยู่แล้ว กับพวกร้านค้าสุ่มประจำวันอะไรพวกนี้ครับ

คร่าวๆ ก็ประมาณนี้สำหรับรีวิว Harry Potter: Magic Awakened อีก 1 เกมมือถือที่ส่วนตัวผมรู้สึกว่าทำออกมาได้ดีมากๆ ในการเป็นซีรี่ส์ Harry Potter ระบบการต่อสู้ที่ใช้การ์ดเกมผสมเข้ามาเพื่อให้ดูเป็นกลยุทธที่มากขึ้น การออกสำรวจหรือเข้าเรียนในชั้นเรียนที่สามารถสนุกกับเพื่อนๆ ได้ (อันนี้ผมรู้สึกแฮปปี้จริงๆ นะ) หรือแค่ขนาดห้องนอนในหอเรายังชวนเพื่อนมาเป็นรูมเมทก็ได้ มีการสร้าง Club เพื่อรวมกลุ่มกันไปทำกิจกรรมต่างๆ ก็ได้ เรียกว่าระบบโซเชี่ยลก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีมากๆ เลยทีเดียวครับ แต่จะมีแค่เรื่อง UI ที่ในการเล่นช่วงแรกอาจจะงงในการใช้งานต่างๆ นิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไปครับ