เหล่าผู้บุกเบิกหลายคนตอนนี้น่าจะเริ่มเข้าสู่ช่วง end game ของแพตช์ 1.0 ช่วงต้นของเกม Honkai: Star Rail กันแล้ว น่าจะเริ่มฟาร์มของ ฟาร์มเลเวล เตรียมพร้อมในการอัปเดตถัดไปอยู่ แต่สิ่งหนึ่งที่รอคอยท้ายทายช่วง end game ณ ตอนนี้ก็คงจะไม่พ้น Simulated Universe นั่นเองครับ ซึ่งระบบนี้ตัวเกมจะแนะนำให้เราได้รู้จักตั้งแต่เริ่มเกมตอนแรกเลย แต่ว่าทำไมมันถึงเป็นเนื้อหา end game ถ้าพร้อมแล้วเราไปรู้จักระบบนี้กัน
Simulated Universe
Simulated Universe เป็นระบบการต่อสู้ที่เปรียบเสมือนดันเจี้ยนหรือที่สายมือถือจะชอบติดปากเรียกกันว่าไต่หอ (แต่ Forgotten Hall ก็ไต่หอเหมือนกัน 555) แต่เบื้องต้นของการเล่น Simulated Universe ก็คือความ Rouge-like ระหว่างลงดัน เนื่องจากทุกครั้งที่ต่อสู้จบลง ก็จะมีสิ่งที่เรียกว่าบัฟของ Path ที่จะสุ่มมาให้เราเลือก 1 จาก 3 ชิ้น โดยแต่ละ Path แต่ละชิ้นก็จะมีบัฟที่แตกต่างกันไป และระหว่างทางก็จะมีห้องที่เป็น Event ไม่ต้องสู้ แต่สุ่มว่าเราจะได้รับไอเทม หรือจะต้องสู้ หรือจะติดดีบัฟ หรือโดนลงโทษอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งสุดท้ายแล้วเราจะไปสุดที่ห้อง Boss นั่นเองครับ
ส่วนของรางวัลก็จะมีพวกวัตถุดิบต่าง ๆ มากมาย กับการเก็บแต้มรายสัปดาห์ให้ถึงที่กำหนดเพื่อรับของตามแต้มที่ทำได้ รวมไปถึงนำตั๋ว Herta Bond มาแลกของในร้านค้า Herta แต่ถ้าหากเริ่มโลกที่ 3 เป็นต้นไป จะมีแคปซูลดรอป “จักรวาลประดับ” ที่เป็นรีลิคช่องกลาง 2 ชิ้นอีกด้วยครับ ดังนั้น Simulated Universe จึงสำคัญมาก ๆ ในการลงทุกสัปดาห์นั่นเอง
สำหรับการลง Simulated Universe ให้เรากลับมาที่ Herta’s Office (กดวาร์ปกลับมาจากหน้าคู่มือก็ได้) ซึ่งแต่ละโลกก็จะมีของรางวัลทั้งแบบการผ่านครั้งแรก และของรางวัลในการดรอป และการเชื่อมโยง (เปิดหีบจักรวาลประดับ) แล้วก็จะมีบอกระดับเลเวลแนะนำเบื้องต้นไว้ขวาล่าง พอเลือกดาวที่จะลงแล้วก็จะมีบอกว่าในดันเจี้ยนนี้จะได้เจอศัตรูตัวไหนบ้าง แล้วก็บอสประจำด่านคือใคร แพ้ธาตุไหน พร้อมกับจะให้เราจัดทีมเข้าไปต่อสู้ 4 ตัวด้วยครับ และเมื่อเราปราบบอสประจำโลกได้สำเร็จ ก็จะได้รับรางวัลผ่านด่านครั้งแรกพร้อมคะแนน Simulated Universe ไปเต็มๆ ด้วยนั่นเองจ้า
พื้นฐานการจัดทีม
สิ่งแรกที่เราต้องคำนึงถึงในการลง Simulated Universe ก็คือการจัดทีม 4 ตัวละครแรกนั่นเองครับ แม้ว่าในห้องพักผ่อน เราจะสามารถเพิ่มตัวละครเข้ามาเสริมทีมได้ 1 ตัว แต่ว่าในห้องช่วงแรกนั้นเราจะมีแค่ 4 ตัวนี้ในการต่อสู้เท่านั้น ดังนั้นการเลือก 4 ตัวแรก เราอาจจะยังไม่ต้องรีบเลือกตัวที่บอสแพ้ทางก็ได้ครับ เอาไว้ค่อยใส่มาตอนก่อนเจอบอสก็ได้ ให้เราเน้นไปที่มอนในแถบมีโอกาสได้เจอก่อนครับ พยายามเอาไปให้ครบทุกธาตุ (ไม่นับตัวฮีล) มีตัวแท๊ง ตัวฮีลให้พร้อมก็ดีครับมันช่วยรักษาชีวิตปาร์ตี้เราได้เป็นอย่างดีเลยนะในโลกหลังๆ เพราะถ้าตัวละครตายก็จะชุบไม่ได้จนกว่าจะเจอห้องพักผ่อนที่จะมีที่ชุบให้นั่นเอง อย่างในรูปตัวอย่างผมก็จะดูว่ามอนแพ้ธาตุไหนเยอะๆ ก็หา DPS ที่เป็นธาตุนั้นพกไปด้วยซัก 2 ตัว แล้วก็แท๊ง 1 ฮีล 1 ประมาณนี้ครับ (สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามตัวละครแต่ละคนที่มีนะ)
เลือกบัฟดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
หลังจากที่เราจัดทีมเสร็จ ก็จะมี Path ให้เลือกครับ ซึ่งการเลือก Path นี้จะเป็นตัวช่วยเมื่อเราเลือกบัฟของ Path นั้นๆ มาใช้งานถึงจำนวนหนึ่ง (3/6) และจะมีสกิลติดตัวของ Path มาให้ใช้งานด้วย ดังนั้นเราก็ต้องดูว่า Path ไหนเหมาะกับทีมเราหรือว่าเหมาะกับดันเจี้ยนนั้น ๆ
แต่ถ้าให้แนะนำ Path ที่ใช้งานง่ายที่สุดก็คงจะเป็น ล่าสังหาร ครับ เนื่องด้วย Path นี้จะมีสกิลเกี่ยวกับเพิ่มพลังโจมตี เพิ่มคริติคอลต่างๆ เพิ่มความเร็ว ทำให้เหมาะกับเกือบทุกทีมอยู่ครับ แต่ว่าการเลือก Path ตรงนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่บัฟระหว่างทางจะเป็นสายนั้นล้วน ๆ นะ มันก็จะมีบัฟสายอื่นโผล่มาให้เลือกอยู่เหมือนเดิมครับ นอกจากนี้เองก็ยังมี “วัตถุหายาก” สุ่มออกมาให้เลือกใช้ระหว่างทางด้วย ก็จะเป็นบัฟอีกประเภทหนึ่ง แต่จะเป็นไอเทมเสริมที่บางชิ้นก็จะมีโอกาสเสียหายได้ด้วยครับ ซึ่งบางชิ้นความสามารถดีมาก แต่จะสุ่มได้รึเปล่านี่อีกเรื่องนึงครับ
สรุปการจัดทีม
สรุปง่าย ๆ สำหรับการจัดทีมก็คือการเน้นธาตุที่ศัตรูแพ้เป็น DPS ซัก 2 ตัว แล้วก็ แท๊ง+ฮีล อย่างละตัว เน้นที่ตัวมอนระหว่างทางก่อน ซึ่งบางตัวมันไม่ได้โผล่ในลิสต์แต่ก็จะเป็นตัวจิ๊บจ้อยหรือลูกน้องบอสบางตัว พอจะเจอบอสก็ค่อยเสริมตัวอื่นที่แพ้ธาตุเพิ่มเข้ามา ส่วน Path ถ้านึกอะไรไม่ออกก็เลือกล่าสังหารใช้งานไปก่อนก็ได้ แต่ผมเคยใช้ความทรงจำก็ช่วยได้ดีเหมือนกันสำหรับสายแช่แข็งครับ อาจจะมีการลงครั้งแรกเพื่อไปดูธาตุตัวที่เป็นปัญหาดูก่อนก็ได้ครับ แล้วเดี๋ยวเราจะเห็นปัญหาเองว่ามันแพ้ที่อะไร ทีนี้ผมขอทิ้งท้ายไว้กับ Simulated Universe โลกที่ 3 ที่หลายคนน่าจะติดบอส Gepard ในเฟสสุดท้ายกันว่าเราจะผ่านได้อย่างไรครับ
**ตอนผ่านตัวละครเวล 40 ก็ผ่านได้นะครับ และสามารถใช้ทีมสายฟรีได้
ระหว่างทางโลกที่ 3 ผมจะไม่ขอพูดถึงละกัน เพราะมันค่อนข้างง่าย แค่เลือกธาตุมาให้ถูกก็พอ อย่างผมก็จะมี Serval กับ Guruguru เอ้ย! Herta มาเป็น dps ระหว่างทาง เพราะ 2 ตัวนี้เป็นตัวตีหมู่ที่ค่อนข้างชนะทางในโลกนี้ครับ ทำให้เคลียมอนค่อนข้างง่าย ส่วน MC ไฟก็ถือว่าแท๊งได้ค่อนข้างดีอยู่ ส่วนแม่แนทก็ผมมีฮีลแค่ตัวเดียวในไอดี ฮ่าๆ โดยที่ผมจะเลือก Path ล่าสังหารลงมา แล้วก็พยายามเก็บให้ครบ 6 บัฟแล้วเลือกบัฟ Path อันที่ 6 เป็นเก็บท่า Path ไว้ใช้งานได้ 2 ครั้งต่อเนื่องกัน พอถึงก่อนสู้ Gepard ผมก็จะเลือก Sushang เข้าทีมเพื่อมาช่วย Serval ในการทำความเสียหายและสลายเกราะนั่นเองครับ ส่วนถ้าใครไม่มี Sushang สามารถใช้ MC กายภาพตัวแรกได้ แล้วน้ำแข็งก็ใช้น้อง March แทนได้เช่นกันครับ หรือถ้าใครมั่นใจในดาเมจ Serval ก็สามารถเอา Herta มาใช้เคลียร์ลูกน้องได้อยู่เช่นกันครับ
สิ่งที่ทำให้ Gepard น่ากลัวมี 2 อย่างครับ อย่างแรกคือตอนที่ Gepard กระโดดทุบพื้น จะได้บัฟ ATK เพิ่ม 1 ขั้น ทำให้ยิ่งเลทเกม จะยิ่งโจมตีแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่ 2 คือสิ่งที่หลายคนรำคาญกันนั่นก็คือบัฟโล่ทองที่เกิดขึ้นตอนเฟส 2-3 ครับ และบัฟให้กับลูกน้องด้วย ซึ่งบัฟเกราะนี้โคตรจะถึก แถมทำให้ไม่แพ้ธาตุใดอีก วิธีในการทำลายโล่ที่ผมใช้ก็คือใช้สกิลของ Path ล่าสังหารในการช่วยละลายโล่ครับ ครั้งนึงค่อนข้างเยอะ หลังจากนั้นก็ใช้ตัวละครเราค่อยๆ กะเทาะโล่ออกครับก็จะใช้เวลาไม่นานที่ทำให้โล่หายไป ที่เหลือก็เอา Serval ไล่สั่งสอนน้องชายตัวเองไปเท่านั้นครับ คร่าวๆ ก็ประมาณนี้แหละครับสำหรับ Simulated Universe เอาจริงถ้าเราไม่ผ่านด่านไหน ก็ไม่ต้องรีบ แนะนำให้ไปปั้นตัวเพิ่มมาก่อน อย่างน้อยก็ DPS ธาตุละตัวกำลังดีครับ แค่ทำคะแนนให้ครบที่กำหนดต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้วครับ
สุดท้ายนี้ฝากบทความ Honkai Tier List สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะจัดทีมหรือดันเวลตัวไหนดี และใครที่กำลังมองหา Codes Free เกมนี้ ก็คลิกดูได้ที่ โค้ด Honkai Star Rail เราอัปเดตให้อยู่เรื่อย ๆ
และยังมีบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเกม Honkai ที่จะไกด์การเล่นเกมนี้แบบมีประโยชนืให้กับใครก็ตามที่กำลังเล่นเกมนี้อยู่ สามารถค้นหาได้ที่ช่อง “ค้นหา” บนหน้าเว็บ Online Station ได้เลยครับ
ติดตามข่าวเกมอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ Online Station