10 วิธีเอาตัวรอดจากซอมบี้ อยากเป็นผู้รอดชีวิตต้องอ่าน!

ทุกคนคงเคยลองจินตนาการดูสักครั้ง ว่าถ้าสมมติโลกเกิดมีซอมบี้บุกขึ้นมาจะเป็นยังไง ซึ่งถึงแม้ในความเป็นจริงจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ถ้าเกิดว่าวันนึงมันเกิดเป็นจริงขึ้นมาล่ะ? ถึงตอนนั้นเราก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับวิกฤตที่จะเกิดขึ้น และหากคุณอยากเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิต ก็ต้องเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดจากซอมบี้ในบทความนี้

เรามักจะเห็นในหนังซอมบี้ เยอะแยะมากมายในช่วงนี้ มีวิธีเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้หลากหลายวิธี แต่ทุกวิธีล้วนแล้วแต่มีพื้นฐานมาเหมือน ๆ และถ้าจับมัดมารวมกัน อาจจะได้เป็นร้อยวิธี แต่ในวันนี้ เราขอหยิบมาซัก 10 วิธี ง่าย ๆ ที่ทำกับตัวเราเองและดูไม่ยากจนเกินไปมาฝาก

1. มีสติ ประเมินสถานการณ์

หากเกิดเหตุการณ์ซอมบี้บุกในที่ ๆ คุณอยู่ ให้ตั้งสติ อย่าเพิ่งร้อนรน มองซ้ายมองขวาดูให้ทั่วว่าไม่มีกล้องแอบซ่อนอยู่ หรือเลือดที่ไหลจากปากซอมบี้นั้นเป็นเลือดจริง ๆ ไม่ใช่น้ำแดง เพราะในบางครั้งเราก็อาจแค่เหนื่อยล้าจากการทำงาน มากเกินไปจนหลอกตัวเองว่าถ้ามีซอมบี้บุกมาจริง ๆ ก็คงดี แต่แท้จริงแล้วเป็นแค่การตั้งกล้องหลอกกันเล่นไปซะอย่างนั้น ดังนั้นจึงต้องตั้งสติและประเมินสถานการณ์ก่อนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริง ไม่สติแตก เพราะคนที่สติแตกมักจะตายเป็นคนแรก ๆ ในหนังซอมบี้เสมอ ให้ค่อย ๆ คิดหาทางหนีทีไล่และเตรียมพร้อมรับมือกับวิกฤตซอมบี้

2. มีไหวพริบ ช่างสังเกต

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง! หากคุณสังเกตให้ดี ซอมบี้มักจะมีจุดอ่อนบางอย่างให้เราใช้เล่นงานได้ เช่น ซอมบี้บางตัวอาจจะเดินช้า ตาบอดในที่มืดหรือแยกพรรคพวกด้วยกลิ่น การนำจุดอ่อนเหล่านี้มาปรับใช้ เช่น ปลอมตัวเป็นพวกเดียวกับซอมบี้โดยการคลุกตัวไปกับซากศพ ออกเดินทางในตอนกลางคืน หรือใช้พาหนะที่มีความเร็วมากกว่าซอมบี้ (เช่นปั่นจักรยานแบบ Zom 100) ก็จะช่วยให้เรารอดพ้นจากซอมบี้ได้ แต่ยังไงก็ไม่ควรวางใจว่าซอมบี้ทุกตัวจะเหมือนกันหมด เพราะซอมบี้บางตัวก็อาจจะเป็นอดีตนักกีฬาโอลิมปิกเหรียญทอง ที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว สามารถปีนป่ายข้ามสิ่งกีดขวางได้ ในกรณีนี้ การหนีออกห่างให้ไกลที่สุดอาจเป็นวิธีที่ดีกว่าการสู้กันตรง ๆ

3. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม

สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการเอาตัวรอดจากซอมบี้ นั่นก็คืออาวุธ และอุปกรณ์ในการช่วยเอาตัวรอด คงไม่ดีแน่หากซอมบี้บุกมาถึงห้องนอนของคุณ แต่สิ่งที่คุณสามารถหาได้มีเพียงแค่ถุงเท้าไม่ครบคู่ 1 ข้าง เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นหม้อ กระทะ คีย์บอร์ด หากจำเป็นก็สามารถนำมาซัดกับซอมบี้ได้ แต่ทางที่ดีก็ควรหาอาวุธที่สามารถโจมตีได้จากระยะไกล เช่น ปืน หอก ไม้เบสบอลหรือไม้กอล์ฟ จะปลอดภัยและเสี่ยงกับการถูกซอมบี้กัดน้อยกว่า
นอกจากอาวุธที่สำคัญแล้ว อุปกรณ์เอาตัวรอดอื่น ๆ ก็สำคัญ เช่น เข็มทิศ แผนที่ ไฟแช็ก เชือก ผ้าพันแผล เกลือ เครื่องมือช่างและอุปกรณ์สำหรับกรองน้ำ อุปกรณ์เหล่านี้เป็นอุปกรณ์ที่อาจไม่ได้จำเป็นอะไรมากมายในชีวิตประจำวันของเรา แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ซอมบี้บุกขึ้นมา อุปกรณ์เหล่านี้จะกลายเป็นของจำเป็นทันที เพราะอุปกรณ์พวกนี้สามารถช่วยให้เรามีชีวิตรอดต่อไปได้ แม้จะไม่มีไฟฟ้าใช้นั่นเอง

4. ตุนเสบียง

แน่นอนว่ามนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์แสงแบบพืชได้ หากคุณเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้มาได้ แต่หากไม่มีอาหารให้กิน คุณก็จะตายอยู่ดี ดังนั้นการตุนอาหารให้เพียงพออย่างน้อย 1-2 อาทิตย์ เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะอาหารแห้งและอาหารกระป๋องที่สามารถเก็บรักษาได้นาน โดยให้ความสำคัญกับการหาน้ำดื่มก่อน เพราะคนเราสามารถอดอาหารได้นานกว่าอดน้ำ หรือหากอาหารหมดแล้วจริง ๆ อีกสิ่งหนึ่งที่เราสามารถเก็บตุนไว้ได้ก็คืออาหารสัตว์ เพราะอาหารสัตว์มักออกแบบมาให้มนุษย์สามารถทานได้ด้วย และนอกจากอาหารและน้ำแล้วก็ควรตุนยารักษาโรคเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินด้วย

5. หาที่หลบภัย

การเลือกที่หลบภัยควรเลือกสถานที่ที่มีความแข็งแรงและยากต่อการถูกซอมบี้บุก โดยที่ที่เหมาะแก่การหลบหนีจากซอมบี้ที่สุดก็คงหนีไม่พ้น เกาะห่างไกลผู้คน เพราะเราคงไม่โชคร้ายเจอซอมบี้ที่ว่ายน้ำเป็นแล้วข้ามเกาะมาแพร่เชื้อใส่เราอย่างแน่นอน นอกจากนี้ก็มีแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเลและคุกหรือค่ายทหารที่มีแนวป้องกันสูง ที่เหมาะแก่การใช้เป็นสถานที่หลบภัย ส่วนสถานที่ที่แย่ที่สุดและไม่ควรไปที่สุดก็คือ โรงพยาบาลและห้างสรรพสินค้า เพราะถึงแม้สถานที่เหล่านี้จะมีทรัพยากรที่เราต้องการ ทั้งอุปกรณ์การแพทย์ ยารักษา และเสบียง แต่ทุก ๆ คนก็จะคิดเหมือนกับเราและแห่กันมาที่สถานที่เหล่านี้ ทำให้เป็นสถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด

6. มีเพื่อนที่ไว้ใจได้

จะทำยังไงหากเราจำเป็นต้องไปปลดทุกข์ในห้องน้ำ แล้วระหว่างนั้นก็มีซอมบี้บุกมา คงจะดีไม่น้อยหากเรามีเพื่อนที่ไว้ใจได้คอยเฝ้าอันตรายให้เราหน้าห้องน้ำ เพราะคนเราคงไม่สามารถระมัดระวังตัวได้ดีรอบด้านตลอดเวลา การมีเพื่อนมาช่วยระวังหลังให้เราก็จะทำให้เราระแวดระวังภัยได้ดีมากขึ้น ช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องความเรียบร้อย เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตมากขึ้น ดังที่สุภาษิตว่าไว้ คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย มีมิตรไว้ย่อมดีกว่ามีศัตรู

7. สวมใส่อุปกรณ์ที่เหมาะสม

ใครว่าซอมบี้ไม่สนใจของแบรนด์เนม ซอมบี้สนใจและชอบใจมากเวลาเจอคนที่แต่งตัวหรูหรา ใส่ส้นสูงและหิ้วของพะรุงพะรัง เพราะคนเหล่านี้เป็นเหยื่อที่ง่ายต่อการถูกแพร่เชื้อที่สุด ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ซอมบี้บุก ให้เก็บไว้แค่ของที่จำเป็น และสวมใส่อุปกรณ์ที่สะดวกต่อการเคลื่อนไหว ควรหารองเท้าที่สามารถซัพพอร์ทการวิ่งได้ดี สวมเสื้อผ้าที่มิดชิดและหนา โดยเฉพาะช่วงมือและแขนที่ควรหาของแข็งมาพันล้อมรอบ เพราะเป็นส่วนที่ง่ายต่อการถูกซอมบี้กัดมากที่สุด ผู้ที่สวมใส่แว่นตาก็ควรหาสายคล้องแว่นที่จะไม่ทำให้แว่นตาของเราหล่นหายเวลาวิ่งหนีซอมบี้ หรือหาแว่นตากันลม เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอม เช่น เลือด หรือฝุ่นผงเข้าตาเรา โดยเราควรคำนึงถึงความสะดวกและความคล่องแคล่วในการขยับร่างกายเป็นหลัก

8. ฝึกทักษะการเอาชีวิตรอด

การจะเอาตัวรอดในโลกที่มีแต่ซอมบี้ สิ่งที่คุณต้องต่อสู้ด้วยอาจไม่ได้มีแค่ซอมบี้เพียงอย่างเดียว แต่โรคภัย สภาพอากาศ ความหิวโหย สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นตัวการที่ทำให้คุณเสียชีวิตได้ การรู้จักวางแผน ฝึกทักษะต่าง ๆ เพื่อเอาตัวรอด และหมั่นออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอเป็นเรื่องที่ดี การมีร่างกายที่แข็งแรงจะช่วยให้เราไม่กลายเป็นขนมเยลลี่ให้เหล่าซอมบี้เคี้ยวเพลิน ๆ อย่างแน่นอน

9. สุขภาพจิตก็สำคัญ

การมีร่างกายที่แข็งแรงเป็นเรื่องที่ดี แต่หากใส่ใจแต่สุขภาพภายนอกโดยละเลยสุขภาพภายในก็อาจทำให้ร่างกายอ่อนแอได้ ในวิกฤตซอมบี้บุก สื่อบันเทิงต่าง ๆ ก็เลือนหายไป อินเทอร์เน็ตก็ใช้ไม่ได้ แค่ซอมบี้บุกก็เครียดพอแล้ว ยิ่งไม่มีสิ่งบันเทิงใจก็ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่ ครั้นจะไปนั่งจิบเบียร์กับซอมบี้ก็คงไม่ได้ ดังนั้น นอกจากอินเทอร์เน็ตแล้ว ควรหาสิ่งบันเทิงอื่น ๆ ไว้ทำสำหรับคลายเครียด เช่น อ่านหนังสือ ตกปลา หาเพื่อนคุยแก้เหงา เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม หากไม่มีการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเลย ก็อาจทำให้เกิดความเครียดและมีปัญหาสุขภาพจิตตามมาได้

10. อย่าไว้ใจผู้อื่นมากเกินไป

ว่ากันว่า ศัตรูที่น่ากลัวยิ่งกว่าซอมบี้ก็คือมนุษย์ด้วยกันเอง ในสถานการณ์ที่ทรัพยากรมีอยู่อย่างจำกัด เป็นเรื่องง่ายมากที่มนุษย์จะหันมาฆ่ากันเอง หรือหักหลังพวกเดียวกัน เพื่อแย่งชิงอาหารและทรัพยากร มิตรในวันนี้ก็อาจกลายมาเป็นผู้ที่แทงข้างหลังหลังเราในวันหน้า ดังนั้นจงอย่าไว้ใจใครมากจนเกินไป ยิ่งคนที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ไม่ควรเปิดเผยความลับหรือเปิดโอกาสให้เข้าถึงได้ง่าย ๆ มิเช่นนั้นอาจจะได้กลายเป็นปุ๋ย

และนี่ก็คือวิธีการเอาตัวรอดจากซอมบี้ที่เราได้รวบรวมมาจากคำบอกเล่าของผู้รอดชีวิต รับประกันได้ว่าคุณจะไม่กลายเป็นซอมบี้แน่นอนหากปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด!

ขอขอบคุณข้อมูล: TVNZ+, NationalGeographicKids


ติดตามข่าวสารวงการบันเทิง ได้ที่ Online Station

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้