ตั้งแต่เมื่อปีก่อน มีเว็บไซต์และแพลตฟอร์มต่าง ๆ จากประเทศญี่ปุ่นหลายแห่งที่ให้บริการเนื้อหาญี่ปุ่น ทั้งมังงะ เกม และอื่น ๆ เช่น Melonbooks, Getchu, Fanza และ DLsite ถูกผู้ให้บริการประมวลผลจ่ายเงินอย่าง Visa หรือ Mastercard ระงับการให้บริการ และเรียกร้องให้เซ็นเซอร์หรือเอาเนื้อหาที่มองว่าเป็นปัญหาออก ไม่เช่นนั้นก็ต้องยกเลิกช่องทางการจ่ายเงินด้วยบัครเครดิตยี่ห้อนั้น ๆ ไปเลย
ดูเหมือนว่าปัญหาดังกล่าวจะยังไม่ยุติง่าย ๆ เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้ทาง Visa Worldwide Japan Co. ซึ่งเป็นสาขาย่อยประเทศญี่ปุ่นได้พูดถึงยุทธศาสตร์ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง Seetan Kitney ตัวแทนของบริษัทได้ถูกสัมภาษณ์ถึงประเด็นปัญหาที่บัตร Visa ไม่สามารถซื้อเนื้อหาผู้ใหญ่ได้แม้จะถูกกฏหมายในญี่ปุ่นก็ตาม
คุณ Kitney กล่าวว่าแม้ Visa จะมีนโยบายทำตัวเป็นสื่อกลางในการซื้อขายอย่างถูกกฏหมายให้แพร่หลายมากที่สุด แต่ “บางครั้งก็จำเป็นต้องปฏิเสธการให้บริการเพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของแบรนด์” และบอกด้วยว่า “เป็นการตัดสินใจที่ซับซ้อน ต้องพิจารณานโยบายทั้งระดับสากลและระดับท้องถิ่น” และยืนยันว่ามีความจำเป็นจะต้องรักษาความจริงใจและบูรณภาพ และจะยืนยันทำเช่นนี้ต่อไป บ่งบอกว่าทางบริษัทคงไม่คิดจะทบทวนท่าทีที่แข็งกร้าวนี้แต่อย่างใด (ทั้งนี้ไม่ได้อธิบายเจาะจงด้วยว่านโยบายระดับสากลและท้องถิ่นที่ Visa ใช้พิจารณานั้นมีอะไรบ้าง)
ปัญหาดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากย์วิจารณ์อย่างหนักทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้นมีแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ ที่บุคคลทั่วไปสามารถใช้เผยแพร่แฟนอาร์ตและวางขายผลงานของตัวเองได้ แม้แต่ผู้สร้างเกม NieR: Automata อย่างคุณ Yoko Taro ก็เคยออกมาเรียกขบวนการกดดันจากบริษัทบัตรเครดิตเหล่านี้ว่า “เป็นอันตราย” และบ่อนทำลายเสรีภาพในการแสดงออก
ขณะเดียวกันปัญหาดังกล่าวก็กระทบแพลตฟอร์มอ่านหนังสือมังงะและโดจินชิที่หยุดการตีพิมพ์ไปแล้วอย่าง Manga Library Z ซึ่งจำเป็นต้องปิดตัวหลังโดนปิดกั้นช่องทางการจ่ายเงินทั้งหมด ซึ่งอดีตผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มนี้อย่าง Ken Akamatsu นักเขียนมังงะชื่อดังที่ต่อมาได้ลงมาเล่นการเมืองก็มีท่าทีและรณรงค์ต่อต้านนโยบายของ Visa และ Mastercard ด้วย
แปลและเรียบเรียงจาก
Automaton Media
ติดตามข่าวสารวงการบันเทิง ได้ที่ Online Station