เมื่อเร็ว ๆ นี้สำนักงานเขตการศึกษาแห่งหนึ่งในรัฐเทนเนสซีของประเทศสหรัฐอเมริกาได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างหนัก หลังประกาศแบนหนังสือกว่า 400 เล่มจากห้องสมุดโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งมีมังงะหลายเรื่องรวมอยู่ด้วย โดยให้เหตุผลว่ามีเนื้อหาทางเพศหรือไม่เหมาะสมกับเยาวชน แต่ก็ถูกวิพากย์วิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่ไม่ต่างกับเผด็จการพรรคนาซีในช่วงที่ครองอำนาจประเทศเยอรมนีที่แบนและเผาหนังสือต่าง ๆ มากมาย
หนังสือมังงะที่ถูกแบนจากห้องสมุดโรงเรียนในพื้นที่ Wilson County นั้นก็มีอยู่หลายเรื่อง ทั้ง Hunter x Hunter, Jojo’s Bizzare Adventure, Jujutsu Kaisen, Attack on Titan, My Hero Academia: Vigilantes, Inuyasha, Tokyo Ghoul หรือแม้แต่ผลงานสุดคลาสสิกอย่าง Akira ของ Katsuhiro Otomo เป็นต้น ขณะเดียวกันพื้นที่ Rutherford County ก็หมายหัวพิจารณาหนังสืออีก 150 เล่ม ซึ่งก็มีมังงะเรื่อง Assassination Classroom และ Fire Force ด้วย
โดย Frances Rosales หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา Rutherford County บอกว่าได้รวบรวมรายชื่อหนังสือที่จะพิจารณาแบนมาจากเว็บไซต์ Book Looks และบอกว่าโรงเรียนในเขตไม่น่าจะตั้งใจให้มีหนังสือที่มีเนื้อหาทางเพศ แต่ก็เชื่อว่ามีหนังสือบางส่วนที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมหลุดเข้ามา ขณะที่ Caleb Tidwell ซึ่งเป็นกรรมการอีกคนก็มีความเห็นคล้ายกัน มองว่าหนังสือเหล่านี้ละเมิดนโยบายของทั้งคณะกรรมการการศึกษาและกฏหมายรัฐเพราะ “มีเนื้อหาทางเพศโจ๋งครึ่ม”
ในทางตรงกันข้ามก็มีกรรมการที่ไม่เห็นด้วย และคิดว่าอาจทำให้เกิดการฟ้องร้องดำเนินคดีได้ เช่น Stan Vaught ที่เปรียบเทียบการตัดสินใจนี้เหมือนกับที่พรรคนาซีแบนและเผาหนังสือในประเทศเยอรมนี และบอกว่าถ้าวันนี้ถอดหนังสือจากห้องสมุดโรงเรียน วันหน้าอาจจะมีการลามปามไปแบนต่อที่อื่นด้วย
ขณะเดียวกันกรรมการ Butch Vaughn ซึ่งเป็นอดีตครูใหญ่ก็มองว่านี่คือ “การแสดงความอวดอ้างทางการเมือง” ของคนส่วนน้อยแต่โวยวายเสียงดัง ซึ่งจะสร้างความแบ่งแยกร้าวฉาน และบอกว่าถ้าดูจากจำนวนครั้งที่หนังสือที่โดนแบนถูกยืมไปจากห้องสมุดแล้ว ถือว่าน้อยครั้งมาก การแบนหนังสือเหล่านี้จึงเป็นเหมือนการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
ทั้งนี้การแบนหนังสือดังกล่าวเป็นผลพวงจากการที่รัฐเทนเนสซีผ่านกฏหมายบังคับให้ห้องสมุดต้องมีหนังสือที่ “เหมาะกับวัย” ห้ามไม่ให้หนังสือที่มีเนื้อหาโจ๋งครึ่ม คำอธิบายความเร้าใจทางเพศ หรือแสดงความรุนแรงเกินพอดี ซึ่งผู้สนับสนุนอ้างว่ากฏหมายนี้มีไว้เพื่อปกป้องเด็ก ๆ จากเนื้อหาที่เหมาะสม ขณะที่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็มองว่าภาษาคลุมเครือเกินไป และสร้างความสับสนให้กับเขตการศึกษาต่าง ๆ ที่ต้องปฏิบัติตาม
แปลและเรียบเรียงจาก
Anime Hunch
ติดตามข่าวสารวงการบันเทิง ได้ที่ Online Station