ผู้เขียน No Game No Life พาเมียเที่ยวบ้านเกิดบราซิล แต่ปรากฏว่าต้องเจอกับ Culture Shock อย่างจัง

เมื่อเร็ว ๆ นี้ อ. Yuu Kamiya หรือชื่อจริงว่า Thiago Furukawa Lucas นักเขียนไลท์โนเวล No Game No Life ที่เป็นชาวบราซิลแต่กำเนิดแต่ย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นเมื่ออายุได้ 7 ปี ได้เดินทางกลับไปเยี่ยมประเทศแม่ที่เมือง São Paulo แล้วพาภรรยาของเขาไปด้วย ซึ่งดูแล้วเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเยือนบ้านเกิดของสามี แต่ปรากฏว่าต้องเจอกับ Culture Shock อย่างจัง เพราะที่นี่เหมือนจะดิบเถื่อนมากกว่าที่คิด!

No Game No Life

โดย อ. Kamiya เล่าว่าตอนเดินทางไปถึงสนามบินที่ประเทศบราซิลเขาต้องเตือนภรรยาให้เปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ที่เขาเตรียมไว้ทันที ถอดนาฬิกาข้อมือและเครื่องประดับออกด้วย และต้องมีกระเป๋าตังค์ 3 ใบ ให้เตรียมใจไว้ก่อนว่าหายแน่ 2 ใบ ห้ามพูดภาษาญี่ปุ่นเด็ดขาดจนกว่าจะขึ้นรถ และอย่าปล่อยมือเขาเด็ดขาด จนภรรยาต้องถามว่า “นี่มันประเทศแบบไหนกันแน่” ซึ่ง อ. Kamiya ก็ตอบเลยว่า “ประเทศที่มีอัตราอาชญากรสูงกว่าญี่ปุ่น 102 เท่าไงล่ะ”

No Game No Life

นอกจากนี้อาจารย์ยังแนะนำด้วยว่า iPhone และ Apple Watch นั้นเป็นของที่มีมูลค่ามาก ดังนั้นห้ามใช้เวลาออกไปข้างนอกไม่ว่าเวลาไหน ไม่งั้นของพวกนี้รุ่นล่าสุดอาจจะอันตรธานหายไปได้ คุณภรรยาจึงเข้าใจเลยว่าทำไมมาเที่ยวครั้งนี้ถึงเปลี่ยนมาใช้มือถือ Android เก่า ๆ ถูก ๆ ซึ่งอาจารย์เองก็เตรียมใจไว้จากสถานการณ์เมื่อ 5 ปีก่อน และสงสัยอยู่เหมือนกันว่าปัจจุบันจะดีขึ้นหรือไม่

(ทั้งนี้ทางเว็บไซต์ Crazy for Anime Trivia ซึ่งเป็นเว็บไซต์สัญชาติบราซิลให้ความเห็นว่าไม่ดีขึ้นเลย และอีก 5 ปีก็น่าจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง)

อ. Kamiya ยังเล่าด้วยว่าทุก ๆ วันเขาและภรรยาจะได้ยินเสียง “ปัง! ปัง!” จนเธอสงสัยว่าในเมือง São Paulo เขาจุดดอกไม้ไฟกันบ่อยขนาดนี้เลยเหรอ จนคุณสามีต้องอธิบายว่ามันไม่ใช่ดอกไม้ไฟ แต่เป็นเสียงปืนต่างหาก ทำเธอพูดไม่ออกเลยทีเดียว

No Game No Life

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เล่าความน่าสะพรึงกลัวของประเทศบราซิลแล้ว อาจารย์ก็อธิบายเพิ่มว่าไม่ได้อยากถ่มถุยประเทศบ้านเกิดเสียทีเดียว เพราะแม้จะมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย แต่บราซิลก็มีพื้นที่ปลอดภัยเหมือนกัน (แม้จะไม่ปลอดภัยเท่าญี่ปุ่น) อาหารอร่อย และมีข้อดีอีกหลายข้อ ขณะที่ชาวบราซิลก็เป็นคนนิสัยสบาย ๆ แม้จะถึงขั้นเลินเล่อไปบ้าง ประเทศนี้ก็มีข้อดีข้อเสีย แต่ก็รู้สึกว่าชีวิตนั้นผ่อนคลายดี

No Game No Life

ชาวญี่ปุ่นที่มาเห็นก็แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ นา ๆ รวมถึงเล่าประสบการณ์ในอดีตกับประเทศบราซิลด้วย

“หลายสิบปีที่แล้วบราซิลก็ยังเป็นประเทศอันตรายนะ ตอนฉันไปเที่ยวไกด์เขาบอกว่าใน Rio ไม่มีที่ปลอดภัยหรอก มีแต่ที่อันตราย อันตรายมาก และโคตรอันตราย!”

“ว่าไป ที่โน่นเขามองชาวญี่ปุ่นว่าร่ำรวยนะ มีชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเขาโดนปล้นแล้วยังโดนต่อว่าด้วย “ถ้าแกเป็นชาวญี่ปุ่นจริง แกน่าจะพกเงินติดตัวมากกว่านี้นะ”

“ได้ยินแบบนี้หลายคนอาจคิดนะว่าประเทศบราซิลน่ากลัว แต่ในบรรดาประเทศที่เคยไปเที่ยว เราชอบประเทศนี้สุดล่ะ พูดได้เลยว่าชอบมากกว่าญี่ปุ่นจนคิดอยากจะอยู่ที่นั่นถาวรเลย มันน่าทึ่งขนาดนั้นแหละ”

“จริงอย่างที่เขาว่านะ ชาวบราซิลคนนึงที่เคยทำงานที่บริษัทของฉันเขาโดนปล้นฆ่าขณะที่แต่งตัวสะอาดสะอ้านเดินไปเดินมาหลังจากกลับไปที่โน่น ถ้าแต่งตัวดีแล้วตื่นเต้นเพียงเพราะได้มีโอกาสไปเที่ยวอาจจะงานเข้าได้ ถ้าให้ดีที่สุดคือทำตัวเหมือนไม่มีเงิน แล้วก็ถ้าไปอเมริกา พกเงินติดกระเป๋าซัก $30 ก็ดี”

“ประมาณ 20 ปีก่อนมีเพื่อนของแม่ของชาวบราซิลที่ฉันเคยอยู่ด้วยเขาโดนปล้นตอนไปเที่ยวบราซิลแล้วโดนกระทืบซะเจ็บหนักเลย แถมญาติเขาก็เสียแขนตอนรถบัสโดนไฮแจ็คด้วย”

“ฉันเคยคิดว่าบราซิลเป็นประเทศที่น่าจะแจ่มใสเพราะคนเขานิสัยสบาย ๆ ต่อมาถึงได้รู้ว่าเป็นประเทศที่อันตรายมาก ๆ”

“เห็นแบบนี้ญี่ปุ่นนี่เป็นเหมือนสวรรค์ไปเลย”

แปลและเรียบเรียงจาก
Crazy for Anime Trivia


ติดตามข่าวสารวงการบันเทิง ได้ที่ Online Station

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้