ญี่ปุ่นพบงานวิจัยระบุว่า ช่วงที่เกมเนื้อหารุนแรงวางขาย อัตราเกิดอาชญากรรมไม่เพิ่มตาม

ทุกวันนี้เพื่อน ๆ คงทราบกันดีนะครับว่าวิดีโอเกมมักจะตกเป็นเป้าโจมตีอยู่ประจำ โดยเฉพาะเกมที่มีเนื้อหารุนแรงที่ถูกโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงในโลกความเป็นจริง หรือการเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ เป็นต้น จนผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยจะมีทัศนคติกับวิดีโอเกมว่าเด็กที่เล่นวิดีโอเกม พอโตไปก็จะเสพติดการใช้ความรุนแรง หรือมองเรื่องการใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ

ทว่าล่าสุดดูเหมือนจะมีงานวิจัยที่พิสูจน์แล้วว่าอิทธิพลจากวิดีโอเกมไม่ได้มีผลกระทบกับผู้เล่นง่ายดายขนาดนั้นครับ เมื่อทางสำนักข่าว Nazology ของญี่ปุ่นได้พบงานวิจัยชิ้นหนึ่งจากสถาบัน Max Planck จากประเทศเยอรมนีที่ระบุว่าการเล่นเกมทุกวัน ติดต่อกันเป็นเวลานานไม่ทำให้ผู้เล่นมีความก้าวร้าวหรือเกรี้ยวกราดมากขึ้นแต่อย่างใด

暴力的なゲームが発売されると「犯罪率」が一時的に低下していた！https://t.co/CTnCeyzkMr

暴力的なゲームは何かと毛嫌いされがちですが、近年の研究で、人気の暴力的なゲームが発売されると一時的に殺人や暴行などの犯罪率が減少することが示されています。実は平和に貢献しているのかもしれません pic.twitter.com/TsPBm7jTjJ
— ナゾロジー@科学ニュースメディア (@NazologyInfo) November 23, 2023

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีงานวิจัยในรูปแบบกราฟที่บ่งบอกว่าในรอบหลายปีที่ผ่านมา ได้เผยว่าช่วงที่เกมดัง ๆ และมีเนื้อหารุนแรงวางขาย อัตราการเกิดอาชญากรรมมีแนวโน้มที่จะลดลงแบบชั่วคราวเสียด้วยซ้ำ เท่ากับว่าผลที่ออกมามีความขัดแย้งกับทัศนคติของผู้คนกลุ่มหนึ่งในสังคม กลายเป็นว่าเกมที่มีเนื้อหารุนแรงนำพาความสงบสุขให้กับโลกแทนซะอย่างนั้น