เด็กญี่ปุ่นหลายคนอาจจะมีความฝันอยากจะเป็นนักฟุตบอลหรือนักเบสบอลอาชีพ แต่จากผลการศึกษาล่าสุดกลับพบว่าความใฝ่ฝันของเด็ก ๆ อาจเปลี่ยนแปลงไปเมื่อได้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น
โดยทาง NHK ได้มีการทำแบบสำรวจกีฬา 29 ประเภททั่วญี่ปุ่น และได้พบว่าสโมสรและชมกีฬาต่าง ๆ มีจำนวนสมาชิกน้อยลงอย่างมาก และเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ใน 37 จังหวัด เช่นเดียวกับค่าเฉลี่ยทั้งหมดของประเทศ โดยมีจำนวนนักเรียนเพียง 59.6% เท่านั้นที่อยู่ในสังกัดของชมรมกีฬาในตอนนี้
โดยปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขนักเรียนของชมรมกีฬาลดลงมีหลายสาเหตุ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คืออัตราการเกิดของประเทศญี่ปุ่นที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำนวนนักเรียนที่น้อยลงก็หมายความว่าจำนวนสมาชิกในชมรมก็น้อยตามไปด้วยนั่นเอง และมันยังส่งผลกระทบกับกีฬาบางประเภทที่อาจมีจำนวนสมาชิกไม่พอที่จะแข่งขันได้จนต้องยุบชมรมไป และอีกปัจจัยหนึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงกฎของโรงเรียนในญี่ปุ่นที่การเข้าชมรมไม่ได้เป็นกิจกรรมบังคับเหมือนแต่ก่อนแล้ว
อย่างไรก็ดีชาวเน็ตในประเทศญี่ปุ่นก็ได้ออกมาให้ความเห็นต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น
“การเข้าทีมมันเสียเงินเยอะ และผู้ฝึกสอนบางคนก็ทำเกินตัวไป”
“นี่มันหมายความว่าครูจะได้ทำงานล่วงเวลาน้อยลงไปไงล่ะ”
“อนาคตของเด็กสมัยนี้มันดูท่าจะไม่ดีเลย”
“บางทีพวกเด็กอาจจะไม่อยากเล่นกีฬาเพราะต้องใส่หน้ากากก็เป็นได้”
“เอาจริง ๆ พวกเขาควรจะทำชมรมให้มันน่าสนุกกว่านี้เช่นการเข้าชมรมสัก 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละชั่วโมงก็พอแล้ว”
โดยทาง Ryo Uchida ศาสตราจารย์จาก Nagoya Graduate University ยังได้เสริมอีกด้วยว่าเทรนด์มันน่าจะเป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ แต่มันก็มีด้านดีอยู่บ้างเช่นทีมแข่งขันอาจจะไม่ต้องทำอะไรเกินตัวแล้ว ด้วยวิธีการฝึกซ้อมที่จะมีการปรับเปลี่ยนใหม่ตามสมาชิกที่ลดน้อยลงนั่นเอง
ที่มา: SoraNews 24