ภรรยาชาวญี่ปุ่นลงทุนจ้างนักสืบจับชู้แฟน หลังพบมีพฤติกรรมประหลาด แต่กลับเจอเรื่องเหนือคาดเมื่อแฟนหนุ่มไม่ได้มีชู้แต่แอบเป็นแฟน Hatsune Miku ตัวพ่อแทน
เว็บไซต์ Unseen Japan ได้นำเอาเรื่องราวของคุณ @miku_miku_panda หรือ “Panda-san” มาเล่าให้เราได้ฟังกัน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ได้รับการพูดถึงในโลกโซเชี่ยลเป็นอย่างมากในตอนนี้ โดยคุณ Panda-san เป็นหนุ่มสุภาพที่แต่งงานแล้วคนหนึ่งซึ่งเป็นแฟนตัวยงของไอดอลสมมติชื่อดังอย่าง Hatsune Miku เอามาก ๆ จนถึงขั้นต้องปิดเป็นความลับไว้กับภรรยา แต่แล้วเขาก็ถูกภรรยาของเขาจับได้เอาจนได้
妻にオタクがバレた経緯
— パンダ@マジカルミライ札幌全落ち (@Miku_miku_panda) September 11, 2022
・7月の中頃から急に元気になり始めた(恐らくマジカルミライが近づいて来たせい)
・休日に何処へ行くなどいう事なく出かける事が多くなった
(マジカルミライが近くなって来て昂って来てカラオケ、グッズ集めに動いてた)
・風呂場にスマホを持ち込んで、風呂が長くなった
続く
โดยทางคุณ Panda-san ได้มาเปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ของเขาว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเขามีอารมณ์ดีเป็นพิเศษเลยจากการที่จะได้ไปดูคอนเสิร์ต Magical Mirai ของ Hatsune Miku แล้ว เขาเลยเริ่มหายตัวออกจากบ้านไปบ่อย ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมด้วยการไปซื้อสินค้าต่าง ๆ ของ Miku รวมไปถึงไปร้องคาราโอเกะคนเดียว และยังเอามือถือเข้าห้องน้ำไปฟังเพลงของ Miku เป็นชั่วโมง ทั้งยังมีกล่องเก็บของที่ล๊อคกุญแจเอาไว้ด้วยเพื่อเก็บของสะสมต่าง ๆ ของเขาเอาไว้โดยเฉพาะ
แต่แล้วพฤติกรรมดังกล่าวก็ทำให้ภรรยาของคุณ Panda-san เกิดสงสัยขึ้นมาว่าสามีของเธออาจจะมีชู้ และแทนที่จะไปถามตรง ๆ เธอก็ถึงขั้นไปจ้างสำนักงานนักสืบให้มาตามรอยคุณ Panda-san กันเลยทีเดียว แต่สิ่งที่นักสืบกลับมารายงานก็ทำให้เธอตกใจอย่างมากเพราะเธอได้พบว่าสามีของเธอไปแอบร้องคาราโอเกะคนเดียว ไปเล่นตู้คีบ Hatsune Miku และใช้เงินไปกับการลุ้นรางวัลสุดท้ายของร้าน Lawson ที่มีโปรเจกต์คอลแลบกับ Hatsune Miku อยู่
ซึ่งทวีตเล่าเรื่องของคุณ Panda-san ได้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากทีเดียวด้วยยอดไลค์กว่า 300,000 ไลค์จนทำให้มีสื่อหลายเจ้าเข้าไปสัมภาษณ์ด้วย ซึ่งคุณ Panda-san ก็ได้เผยอีกว่าเรื่องดังกล่าวจบลงไปได้ด้วยดี ซึ่งเขายังได้จ่ายเงินไปให้กับสำนักงานนักสืบที่คุณภรรยาเป็นคนจ้างด้วยเป็นจำนวนเงินกว่า 870,000 เยน และยังพาเธอไปเที่ยว Tokyo Disneyland อีกสองคืน และเขาก็ยังได้ชวนเธอไปร่วมงานของ Hatsune Miku ในบางโอกาสอีกด้วย พร้อมกับเผยเหตุผลที่เขาปิดบังความลับเอาไว้ว่า “หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่า 2D มันคืออะไร และผมก็คิดว่าของรักของผมจะถูกโยนทิ้งไปหมดหากโดนจับได้ ผมเอาแต่คิดว่าคนอื่นจะคิดกับผมยังไง มันก็เลยทำให้ผมคิดไม่เปิดเผยเรื่องนี้ออกมา” นั่นเอง
ที่มา: Unseen Japan