ผมเป็นคนหนึ่งที่อย่างน้อยๆ ก็จมจ่อมอยู่กับโลกเสมือนของการ์ตูนและนิยายมามากกว่าครึ่งชีวิตไม่ว่าจะในฐานะคนอ่านหรือแม้แต่การพยายามจะเขียนซะเอง ไลต์โนเวลเป็น Category ที่ผมนิยมจะหยิบมาอ่านอยู่บ่อยๆ ในช่วงหลัง ด้วยความอ่านง่าย เดินเรื่องฉับไว และมีงานอาร์ทสวยๆ มาช่วยประกอบจินตนาการ
แน่นอนว่าไลต์โนเวลจากฟากญี่ปุ่นนั้นผ่านตาผมมามากมาย แต่กับประเทศใกล้เคียงอย่างเกาหลีใต้ แม้จะเคยได้ยินชื่อเรื่องดังๆ มาบ้างแต่ก็ยังไม่เคยลองลิ้มเสียที ด้วยหลายๆ ปัจจัย เช่นเรื่องเงินที่ยุคนี้ไม่แปลกเลย ที่นักอ่านตัวยงหลายๆ คนจะรัดเข็มขัดและ “เลือก” จะซื้อผลงานมากขึ้น ดังนั้นแล้วหากไม่ใช่นิยายที่คิดว่าจะโดนเส้นเราจริงๆ มีโอกาสมากมายเหลือเกินที่เราจะมองข้ามงานเจ๋งๆ ไปโดยไม่รู้ตัว
กับ “มุมมองนักอ่านพระเจ้า” ก็เช่นกัน สารภาพว่าถ้าไปเดินเห็นตามเชลฟ์หนังสือก็คงจะหยิบขึ้นมาพลิกดูเล็กน้อยแต่มีโอกาส 7 ใน 10 ที่ผมจะวางมันกลับลงไปที่เดิม หากวันนั้นไม่ใช่วันเงินเดือนออก หรือมันกำลังลดราคาอยู่ เพราะลำพังแค่ชื่อเรื่องก็ไม่ได้ดึงดูดให้ผู้อ่านสายแมสหยิบมันไปจ่ายเงินนัก โชคยังดีที่ทางสำนักพิมพ์ Levon ส่งตัวอย่างมาให้ทางเราได้ลองอ่าน 2 เล่มด้วยกัน
และผมพบว่าการได้ทำความรู้จักกับ “คิมดกจา” นั้นควรค่าที่ผู้อ่านหลายๆ ท่านจะลองควักเงินจ่ายมาลองอ่านดูกันสักเล่ม เพราะผมก็คงไม่แคล้วต้องรอซื้อเล่ม 3 มาอ่านต่อเช่นกัน!
***บทความนี้ไม่มีสปอยล์
“มุมมองนักอ่านพระเจ้า” จะเล่าถึงตัวเอก “คิมดกจา” พนักงานออฟฟิศจากบริษัทเกมแห่งหนึ่งที่มีชีวิตไม่ต่างจากมนุษย์เงินเดือนทั่วไป คือทำงานและก็กลับบ้าน แต่ระหว่างนั่งรถไฟฟ้ากลับบ้านนั้น คือช่วงเวลาที่เขาจะได้ดื่มด่ำกับงานอดิเรกอย่างการเปิดนิยายขึ้นมาอ่าน โดยเรื่องโปรดของเขาคือ “สามวิธีการเอาชีวิตรอดในโลกที่ล่มสลาย” นิยายความยาวร่วม 3 พันตอนซึ่งมีเพียงเขาคนเดียวที่ได้อ่านจนถึงบรรทัดสุดท้าย แต่เขาไม่รู้เลยว่าเมื่อนิยายที่รักของเขาได้ปิดฉากลง มันจะเป็นการเปิดฉากโลกใบใหม่ซึ่งไม่มีใครได้ทันเตรียมตัว
ตัวเรื่องไม่มีอ้อยอิ่ง ปูเรื่องแค่แบบพื้นฐานให้พอรู้เท่าที่ควรรู้จากนั้นติดสปีดเข้าประเด็นหลักกันเลยรายละเอียดที่เหลือค่อยไปว่ากันหรือขยายความทีหลัง เพียงเปิดอ่านไม่กี่หน้า “คิมดกจา” ก็แปรสภาพจากผู้อ่านกลายเป็นส่วนหนึ่งของนิยายไปแล้ว การที่ตัวเขาจะจับจุดตัวเองถึงชีวิตที่เปลี่ยนไปได้อย่างว่องไวจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรนัก และสำหรับผู้อ่าน (ตัวจริง) อย่างเราๆ ก็มีความรู้สึกว่าได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ “คิมดกจา” ติดสอยห้อยตามการผจญภัยครั้งใหม่ของเขาไปอยู่ในที
ตัวนิยายมีกลิ่นอายชัดเจนของการผสมผสานแนวเรื่องหลาย Genre ไม่ว่าจะเกมออนไลน์, ต่างโลก, แอคชั่น หรือการพูดถึงเรื่องของมิติเวลา ฯลฯ เยอะแยะมากมาย แต่ก็น่าตกใจที่ดูเหมือนมันจะถูกผสานให้เข้ากันอย่างลงตัว จุดนี้ยกเครดิตให้การเล่าเรื่องแบบมีทิศทางและจังหวะจะโคนที่ดี เพราะแม้จะเดินเรื่องไว แต่ก็มีจุดเช็คพ็อยต์และความค่อยเป็นค่อยไปอยู่ไม่น้อย
มันไม่ได้พาไปรู้จักกับโลกใบใหญ่ตั้งแต่ในทีแรก แต่ค่อยๆ เผยให้เห็น ค่อยๆ ให้ทำความรู้จักผ่านมุมมองของ “คิมดกจา” เพื่อซึมซับและจดจำ ผมอาจมีปัญหาไม่คุ้นชื่อกับตัวละครเกาหลีซึ่งก็เป็นปัญหาส่วนตัวผมเอง การที่มันเดินเรื่องในลักษณะนี้ถือว่าช่วยผมได้มาก
ตัวละครหลักอย่าง “คิมดกจา” ก็มีความน่าสนใจไม่น้อย เขาเป็นภาพจำลองของโควตเท่ๆ อย่าง “Information is Power” ได้ค่อนข้างชัดเจน และยังถึงพร้อมด้วยวัยวุฒิ ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าเด็กเกินไปหรือแก่เกินแกง เป็นปุถุชนซึ่งโตมาโดยที่ถูกสภาพสังคมบีบซ้ำกระหน่ำซัด แม้ไม่ต้องพูดอะไร ก็ให้ความรู้สึกว่าการเป็นพระเอกสายขาวของเขานั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย
เมื่อคนดีสเตอริโอไทป์กลายเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ เราจึงได้เห็นพระเอกสายเทาออกวาดลวดลาย เขาไม่ใช่คนหัวอ่อน ไม่ใช่คนเปี่ยมเมตตา ไม่ใช่คนที่ไม่หวังอะไรตอบแทน ทุกๆ นาทีคือการเอาตัวรอด ทุกๆ การกระทำล้วนมีผลประโยชน์ข้องเกี่ยว แต่แม้ “คิมดกจา” จะไม่ใช่คนดีระดับพ่อพระ อย่างน้อยๆ การที่เขายังเห็นคุณค่าของการมีชีวิต และเห็นอกเห็นใจคนรอบตัวอยู่บ้าง ก็ทำให้ผู้อ่านยังรู้สึกว่าสามารถเชียร์พระเอกคนนี้ได้โดยไม่กระดากในความรู้สึกมากนัก
ซึ่งตัวเขาก็ตอบแทนผู้อ่านด้วยการกระเสือกกระสน ต่อสู้ วางแผน และกลยุทธ์การเอาตัวรอดอันในทึ่งในหลายๆ สถานการณ์ เพราะในโลกเก่าเขาเป็นแค่คนตัวเล็กๆ แต่ในโลกใหม่นี้เขาคือคนคนเดียวที่รู้ถึงความเป็นไปและจุดสิ้นสุดของมัน แม้กระนั้นถึงจะรู้เกือบทุกอย่างก็ใช่ว่าจะแตกฉานทุกเรื่อง เพราะเมื่อเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว เขาก็คือตัวแปรที่อาจเปลี่ยนโลกใบนี้ให้ต่างจากที่เคยเป็นเช่นกัน และไหวพริบจากการอ่านและจดจำเรื่องราวที่เคยผ่านตาเท่านั้นจึงจะพาเขาไปจนสุดทาง
ผมเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะสนุกกับมันได้ไหม กับการที่ต้องอ่านนิยายเพื่อมาเขียนรีวิวแบบนี้ แต่ก็พบว่าไม่มีปัญหาเลย เรื่องนี้น่าจะโดนเส้นหลายๆ คนที่ชอบเรื่องราวแอคชั่นผจญภัย พระเอกฉลาด ไม่เหยาะแหยะ โกงบ้างแต่ยังไม่สุด ไม่ใช่คนดีทั่วไป แต่ก็ไม่ใช่คนเลวระยำอะไร
สนุกมากๆ ครับสำหรับ “มุมมองนักอ่านพระเจ้า” แนะนำให้ลองซื้อมาอ่านสักเล่มก่อน ถูกใจค่อยจัดต่อ คนที่คุ้นรสไลต์โนเวลญี่ปุ่นแบบผมอาจต้องปรับตัวเรื่องชื่อตัวละครสักหน่อย แต่ถ้าจูนติดเมื่อไหร่ก็ไหลยาวๆ ครับ ระวังวางไม่ลงล่ะ!
นอกจากนี้ใครที่ซื้อแบบรูปเล่มฟิสิคัลก็จะมีของแถมสุดพรีเมี่ยมให้ด้วยล่ะ คุ้มขนาดนี้ไม่จัดไม่ได้แล้วรึเปล่า!?
เรื่อง: มุมมองนักอ่านพระเจ้า
สำนักพิมพ์: Levon
จำนวนเล่ม: 23 เล่ม (วางจำหน่ายฉบับแปลไทยแล้ว 2 เล่ม)
สั่งซื้อ: amarinbooks.com, หรือร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/Levon.Publishing
