[รีวิว] Deepwater Horizon สัมผัสวิกฤตแท่นขุดน้ำมันระเบิดอย่างถึงใจ

ใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวภัยพิบัติคงจะปักหมุดหนังเรื่อง “Deepwater Horizon ฝ่าวิบัติเพลิงนรก” ไว้ว่าต้องไปดูให้ได้แน่ๆ แต่จะว่าไปแล้วหนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เรียกว่าเป็นอุบัติเหตุของแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเลเสียมากกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเหตุการณ์จริงของแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเลของสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อว่า Deepwater Horizon และเกิดอุบัติเหตุจนเป็นโศกนาฏกรรม นับเป็นภัยพิบัติที่เกี่ยวกับน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรับอเมริกาซึ่งเป็นข่าวดังของโลกในปี พ.ศ. 2553 เลยทีเดียว

Deepwater Horizon ใช้การดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างไม่เร็วและไม่ช้าจนเกินไป มีการสร้างอารมณ์ร่วมนอกเหนือจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นให้ผู้ชมได้อินกับความรักภายในครอบครัวของตัวเอก ไมค์ วิลเลียมส์ ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม นำแสดงโดยนักแสดงมากฝีมืออย่าง มาร์ค วาห์ลเบิร์ก ซึ่งขอบอกตรงนี้เลยว่ามาร์คไม่เคยทำให้เราผิดหวังกับเรื่องการแสดงจริงๆ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีในช่วงเริ่มต้นของภาพยนตร์คุณจะรู้สึกเชื่อได้ทันทีว่าผู้ชายคนนี้รักภรรยาและลูกสาวของเค้าจากใจจริง จุดนี้นับว่าเยี่ยมยอดมากครับ

ความเห็นของผมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ได้มีจุดพีคในเรื่องของวิกฤตที่เกิดขึ้น แต่ผู้ชมจะได้ความรู้สึกถึงวิกฤตที่เป็นหายนะอย่างแท้จริงชนิดที่คุณจะจินตนาการไม่ออกเลยว่าหากมนุษย์ที่ทำงานอยู่ในแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล แล้วมันเกิดภาวะแรงดันสูงแบบโคตรๆ จนทำให้เกิดระเบิดขึ้นมา ไฟลุกท่วม และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหย่อน เราจะเอาชีวิตรอดได้อย่างไร หนังเรื่องนี้ทำให้คุณได้รู้ถึงความเสี่ยงอันตรายอย่างสูงสุดของคนทำงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมัน แรงดันน้ำและโคลนใต้น้ำอันมหาศาล น็อต เศษเหล็ก และชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่ปลิวว่อนด้วยความเร็วสูงและพร้อมทำลายทุกสิ่ง และเพิ่มความวิกฤตเข้าไปอีกด้วยการระเบิดเป็นเปลวเพลิงพวยพุ่งทั่วทั้งแท่นขุดเจาะน้ำมัน ความยิ่งใหญ่ของภัยพิบัติที่เหนือความคิดจริงๆ

นอกจากความตื่นเต้นที่จะได้จากหนังเรื่องนี้เต็มๆ แล้ว หนังยังให้ข้อคิดกับผู้ชมในเรื่องของความละเอียดรอบคอบในการทำงานด้วย ซึ่งหนังก็นำเสนอออกมาได้ดีและมีชั้นเชิงพอสมควร เป็นการนำเสนอปมหรือสาเหตุที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่นี้ ซึ่งช่วยเพิ่มอรรถรสและมิติของเนื้อเรื่องได้อีกด้วยครับ