ฉายครบทุกตอนกันแล้วเรียบร้อยนะครับสำหรับ “มหาศึกคนชนเทพ” Record of Ragnarok ซีซั่นที่ 2 กับศึกที่หลายๆ คนรอคอยอย่างการวาดลวดลายของ ซากะ หรือ ศากยมุนี ที่นอกจากตัวศาสดาสุดเฟี้ยวที่สู้เพื่อมนุษยชาติแล้ว ก็ยังมีตัวละครอีกหลายตัวที่น่าสนใจไม่แพ้กันครับ หนึ่งในนั้นคือคู่ต่อสู้ในเฟสแรกของเขาอย่าง เซโรฟุคุ เทพมารผู้เคยแบกรับความทุกข์เข็ญของมนุษย์ก่อนเข้าสู่ด้านมืดเพราะความเกลียดชังมนุษย์และริษยาศากยมุนีเป็นที่สุดนั่นเอง ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกันครับว่าเซโรฟุคุนั้นเป็นใครมาจากไหน และสามารถทำอะไรได้บ้าง
***บทความนี้มีสปอยล์
รูปร่างของเซโรฟุคุ
แรกเริ่มเดิมทีเซโรฟุคุมีรูปร่างเหมือนกับเด็กผู้ชายธรรมดาๆ มีผมยาว สีผมออกม่วงๆ แววตาสดใสมีชีวิตชีวา ทว่าหลังจากโดนเบลเซบับเอาเมล็ดพันธุ์ฮาจุนมาแอบใส่ไว้ในตัวตอนหลับ บริเวณศีรษะก็มีเขางอกออกมาคล้ายกระทิง และหลังจากเข้าสู่ด้านลบรูปร่างของเขาก็เปลี่ยนไป คือโตเป็นชายชาตรีมากขึ้น กำยำขึ้น บริเวณส่วนปลายของผมมีสีเข้มและมีลูกแก้วทั้งหมด 7 ลูก แต่ละลูกก็จะมีตัวอักษรเขียนสื่อถึงบาปทั้ง 7 ประการของมนุษย์เอาไว้ไม่ว่าจะเป็น ริษยา, เกียจคร้าน, โลภะ, โทสะ, ราคะ, อัตตา และตะกละ โดยร่างเทพด้านลบนี้ก็เกิดจากความผิดหวังในตัวของมวลมนุษย์ที่ผนวกรวมกับความริษยาที่มีต่อศากยมุนี ทำให้ความมืดเข้าครอบงำจิตใจ โดยจะสังเกตได้ว่าบริเวณอกด้านซ้ายของเขานั้นเป็นสีดำสื่อถึงจิตใจที่หมดรักต่อมนุษย์แล้วนั่นเอง
ทั้งนี้เซโรฟุคุในร่างปกติจะมีความรักต่อมนุษย์อย่างมาก ถึงขนาดยอมดูดซับความทุกข์และขอแบกรับความโชคร้ายทั้งมวลมาไว้ในร่างตนขอเพียงแค่ให้มนุษย์นั้นมีความสุขก็พอแล้ว กระทั่งเขาได้เจอความจริงอีกด้าน พร้อมๆ กับศากยมุนีที่เข้ามากุมใจเหล่ามนุษย์แทนที่เขา ทำให้เซโรฟุคุโกรธและกลายเป็นเทพด้านลบ ซึ่งเป็นตัวตนที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและเจ็บแค้นในที่สุด
เซโรฟุคุก่อนเข้าร่วมศึก Ragnarok
ย้อนไปในสมัยเอเชียยุคโบราณหลายพันปีก่อนตอนที่เทพยังคงใกล้ชิดกับมนุษย์ ตัวของเซโรฟุคุเองก็เป็นเทพอีกองค์ที่รู้สึกว่าอยากลงมาสอดส่องมนุษย์บนโลก โดยที่ไม่รู้เลยว่าก่อนที่ตัวเองจะลงมานั้นได้ถูกเบลเซบับแอบเอาเมล็ดพันธุ์ฮาจุนมาใส่ไว้ในตัวเรียบร้อย วันหนึ่งเขาค้นพบว่ามนุษย์อยู่กับวัฐจักร เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย จึงอยากช่วยแบ่งเบาด้วยการดูดความทุกข์ของผู้คนมาไว้กับตัว เขาได้ช่วยเด็กคนหนึ่งไว้จากความเจ็บปวดพร้อมอวยพรให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข จากนั้นเขาก็ตระเวนดูดความทุกข์ของผู้คนไปทั่วสารทิศ กระทั่งเวลาผ่านไปหลายปี สารรูปของเขาก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงจากการแบกรับความทุกข์แทนมนุษย์ เขากลับไปยังหมู่บ้านแรกที่เขาเริ่มช่วยเหลือมนุษย์อีกครั้งก็พบว่าผู้คนใฝ่หาความสุขได้ยากขึ้นจากการที่ขาดไร้ซึ่งความทุกข์ มนุษย์หันเข้าหาบาปง่ายขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังโดนชายหนุ่มซึ่งเป็นเด็กที่เขาเคยช่วยไว้เมื่อหลายปีก่อนปฏิบัติด้วยไม่ต่างจากขยะ ทำให้ตัวเขาเริ่มจะเข้าสู่ด้านมืด
แต่แล้วขณะนั้นขบวนของศากยมุนีก็ผ่านมา ผู้คนในขบวนนั้นต่างมีสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุข ขณะที่ผู้คนรอบข้างก็รู้สึกว่าเลื่อมใสชายคนนี้ขึ้นมาทันใด เซโรฟุคุไม่เข้าใจว่าทำไมชายคนนี้จึงมีผู้เลื่อมใสมากมายทั้งๆ ที่เป็นแค่มนุษย์แท้ๆ จึงลุกขึ้นด่าทอศากยมุนี พอโดนศากยมุนีเทศน์ใส่พร้อมชวนไปค้นหาความสุขที่แท้จริงด้วยกันเจ้าตัวก็เกิดหวาดกลัววิ่งหนีเข้าป่าไป ณ ที่แห่งนั้นความมืดได้กัดกินเขาโดยสมบูรณ์ เพียงความเกลียดชังต่อมวลมนุษย์และความริษยาต่อศากยมุนีเท่านั้นที่ยังคงอยู่ แต่ในขณะที่เขายังมีสติเฮือกสุดท้ายเซโรฟุคุได้เอามือจ้วงเข้าไปที่หัวใจตัวเองและทำการแบ่งร่างของตัวเองออกมาเป็น 7 ร่าง เพื่อไม่ให้ถูกความมืดกลืนกินไปด้วย ซึ่งนั่นก็คือเหล่าเทพแห่งโชคลาภทั้ง 7 ที่นำทีมโดยบิชามอนเทนนั่นเอง
เซโรฟุคุในศึก Ragnarok รอบที่ 6
คู่ต่อสู้ของศากยมุนีในรอบที่ 6 ก็คือเซโรฟุคุนั่นเอง ซึ่งถือว่าเข้าทางสำหรับเขาเลยเพราะแค้นเคืองมาเป็นพันๆ ปีแล้ว ความตั้งใจแต่เดิมก็คือกำจัดศากยมุนีให้พ้นๆ หน้าไปเสีย ทว่าศากยมุนีกลับจำเขาไม่ได้ ทำให้ตัวของเซโรฟุคุนั้นโกรธแค้นขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นคนเปิดก่อน แต่เซโรฟุคุกลับสู้ศากยมุนีไม่ได้แม้แต่น้อย เมื่อโดนต้อนไปเรื่อยๆ ศากยมุนีก็ได้โอกาสในการเทศน์ใส่เซโรฟุคุไปพลาง จนทางเซโรฟุคุนั้นเริ่มกลับมาเข้ารูปเข้ารอย และตัดสินใจว่าจะลองเชื่อในมนุษย์และกลับมารักตัวเองอีกสักครั้ง
แต่แล้วเขาบนศีรษะของเซโรฟุคุก็วกเข้ามาแทงตัวเองจนร่างของเขาเปลี่ยนไปเป็นมารสวรรค์ชั้น 6 ฮาจุนซึ่งเป็นฟอร์มที่ศากยมุนีแทบจะสู้ไม่ได้ไปเลย กระทั่งในตอนที่กำลังเสียเปรียบสุดขีดศากยมุนีได้บังเอิญไปคว้าเอาด้ามขวานของเซโรฟุคุขึ้นมาและสัมผัสได้ว่าสิ่งนี้ยังคงเหลือจิตตกค้างของเซโรฟุคุอยู่ ทางศากยมุนีจึงทำการประสานเวลุนด์ฝากชีพร่วมปัทม์ระหว่างเทพเพื่อเรียกดาบมหานิรวาณ-สุญตาออกมาปลิดชีฟฮาจุนได้สำเร็จ ก่อนที่ดวงวิญญาณของเขาจะลอยไปรวมกับ 7 เทพแห่งโชคลาภและกลายเป็นกลุ่ม 8 เทพแห่งโชคลาภแล้วสูญสลายไปในที่สุด
พลังและความสามารถของเซโรฟุคุ
พลังตอนเป็นเทพด้านบวก
- ดูดซับความทุกข์จากเหล่ามนุษย์
- แวลุนด์เป็นอาวุธให้ศากยมุนี
- แบ่งร่างตัวเองออกมาเป็น 7 เทพแห่งโชคลาภ (ใช้ได้ทั้ง 2 ร่าง)
พลังตอนเป็นเทพด้านลบ
- เน้นการต่อสู้
- มีขวานทุกขตาเป็นอาวุธหลัก แข็งแกร่งขึ้นตามระดับความทุกข์ของผู้ใช้
- แต่แม้จะชื่อ “ขวานทุกขตา” แท้จริงแล้วมันเป็นแค่ด้ามจับเท่านั้น หมายความว่าอาวุธชนิดนี้เปลี่ยนรูปร่างได้ตามต้องการ
ก็จบไปแล้วสำหรับประวัติคร่าวๆ ของเซโรฟุคุตัวละครที่มาซัดกับศากยมุนีในรอบ 6 ศึก Ragnarok ถือว่าเป็นเทพที่ทั้งน่าสงสารและเวทนาไม่หยอกเลยทีเดียว ทั้งนี้เพื่อนๆ สามารถรับชมความระทมของเซโรฟุคุได้ในอนิเมะมหาศึกคนชนเทพในช่องทางลิขสิทธิ์ต่าง ๆ หรือนั่งฟังสรุปชีวิตของเขาแบบเต็มๆ ได้จากช่อง Dice Destiny เลยครับ
สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูอนิเมะเรื่องนี้ สามารถดูได้ที่นี่ มหาศึกคนชนเทพ ซีซั่น 2 พาร์ท 2 กับลิงก์ดูแบบถูกลิขสิทธิ์
ติดตามดูอนิเมะถูกลิขสิทธิ์ ได้ที่นี่ Online Station