ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บนอินเตอร์เน็ตของประเทศจีน มีการตั้งคำถามต่อกระแสญี่ปุ่นในประเทศตัวเองว่า “ญี่ปุ่นพยายามรุกรานประเทศจีนด้วยวัฒนธรรม” โดยเฉพาะวัฒนธรรม 2D อย่างอนิเมะที่มีอิทธิพลต่อคนจำนวนมากในจีน และยังมีการนำมาซึ่งคำถามต่อที่ว่า “ทำไมถึงได้มีชาวจีนหลงรักวัฒนธรรม 2D ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น” แน่นอนว่าประเด็นนี้ไม่ใช่แค่ในจีนเพราะมันรุกรานไปทั่วโลกอย่างที่เราทุกคนทราบกันดีนั่นเอง
สำหรับความเห็นของชาวจีนส่วนใหญ่นั้น มองว่าวัฒนธรรม 2D ของญี่ปุ่นเป็นอะไรที่บ่งบอกถึง “ความเป็นคุณภาพสูง” ซึ่งคนเราทุกคนมักจะต้องการบางอย่างที่มีคุณภาพสูงอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่นวรรณกรรมไซอิ๋วและสามก๊กของจีน ถึงแม้ว่าจีนจะมีการทำสื่อเกี่ยวกับวรรณกรรมของ 2 เรื่องนี้ออกมามากมาย แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่ากับวรรณกรรมไซอิ๋วกับสามก๊กที่ทำโดยประเทศญี่ปุ่น และจากความที่ญี่ปุ่นทำมันออกมาในรูปแบบคุณภาพ ก็ไม่แปลกใจเท่าไรที่จะมีชาวจีนรู้สึกหลงรักวัฒนธรรม 2D ของญี่ปุ่นมากขึ้น
ตัวอย่างวรรณกรรมไซอิ๋วและสามก๊กที่ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรม 2D และคำว่า “โอตาคุ” ที่กล่าวถึงผู้คลั่งไคล้บางสิ่งบางอย่างกับส่วนมากที่จะเป็นในเชิงวัฒนธรรม 2D แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวัฒนธรรม 2D เป็นเอกสิทธิ์ของประเทศญี่ปุ่น เพราะในปัจจุบันนี้ก็พูดไม่ได้เต็มปากเต็มคำว่าญี่ปุ่นคือเสาหลักแห่งวัฒนธรรม 2D และวัฒนธรรม 2D ไม่ได้มาจากญี่ปุ่น เนื่องจากยังมีชาวจีนและคนบนโลกจำนวนมากที่ชื่นชอบวัฒนธรรม 2D ของอนิเมะกับยุโรป รวมถึงสื่อวัฒนธรรม 2D ในขณะนี้ที่กำลังมีการพัฒนาอย่างมากด้วย
ส่วนความเห็นของชาวจีนเกี่ยวกับการรับมือวัฒนธรรม 2D ของญี่ปุ่นนั้น หลายคนมองว่าประเทศจีนควรสร้างผลงาน “ให้ดีเท่ากับญี่ปุ่น” แต่ก็มีหลายคนมองว่ามันเป็นไปได้อย่างเพราะประเทศจีนมีข้อจำกัดในการสร้างสรรค์ผลงานอยู่หลายอย่าง เพราะการต่อต้านที่แท้จริงไม่ใช่การโจมตี แต่เป็นการทำผลงานให้ดีกว่าต่างหาก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทางจีนจะมีวันนั้นหรือไม่ ในเมื่อปัจจุบันการชื่นชอบวัฒนธรรม 2D ของญี่ปุ่นก็เป็นความรักความชอบส่วนบุคคล
อนิเมะ Tonikaku Kawaii ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในจีน
“หวังว่าจะมีสักวันที่ 2D ของไทยจะผงาดกับเขาในเวทีโลกบ้างนะ!”
ที่มา: http://news.searchina.net/id/1704596?page=1
TrunksTH