The King’s Avatar: For the glory รีวิว – วินาทีที่คว้าแชมป์กลอรี่ครั้งแรก ทีมของพี่เยี่ยก็ไม่ใช่ม้ามืดอีกต่อไป
The King’s Avatar หรือที่หลายๆ คนรู้จักในชื่อไทย “เทพยุทธ เซียนกลอรี่” นิยายชื่อดังที่เขียนเล่าเรื่องการต่อสู้ในวงการอีสปอร์ตสุดเข้มข้นจนได้รับความนิยมล้นหลาม ในช่วงปี – 2 ปีที่ผ่านมา กระทั่งถูกนำไปดัดแปลงเป็นอนิเมะรวมถึงทีวีซีรีส์ชื่อเดียวกันจนความนิยมขยายวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะกับตัวซีรีส์ (หาชมได้ทาง WeTV และ Netflix) ที่สามารถทำให้คนเห็นภาพความเป็นจริงได้ชัดเจนขึ้น อีกทั้งแคสต์ที่มาเล่นก็ช่วยให้ตัวเรื่องสามารถตีตลาดของผู้ชมสาวๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม (เช่นเมียผมที่เครซี่หยางหยางขณะรับชมอย่างออกนอกหน้า) ส่งให้ชื่อของ The King’s Avatar กลายเป็นแฟรนไชส์ทรงคุณค่าไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ดีคราวนี้เราไม่ได้มาพูดถึงตัวซีรีส์หรืออนิเมะทีวี แต่เราจะมาพูดถึง The King’s Avatar: For the glory อนิเมะภาคหนังโรงซึ่งเพิ่งเข้าฉายสดๆ ร้อนๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยภาคนี้จะเล่าเหตุการณ์ก่อนสิ่งที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่องหลัก กับช่วงตั้งทีมแรกๆ ของเยี่ยชิวและซู มู่ชิว 2 คู่หูที่ต้องการจะคว้าแชมป์ลีคกลอรี่ในครั้งแรกนั่นเอง
เมื่อเป็นเรื่องราวสไตล์ Prequel เราจึงพอจะรู้ตอนจบในภาพรวมอยู่แล้วว่าจะออกมาอีหรอบไหน ดังนั้นความสนใจคือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทางต่างหาก ซึ่งในส่วนของการเล่าเรื่อง The King’s Avatar: For the glory ใช้วิธีการนำเสนอเป็นเส้นตรงไม่มีอะไรซบซ้อนมากนัก ส่วนหนึ่งก็เพราะผู้ชมน่าจะพอรู้อยู่แล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง มันจึงไม่ได้ชวนว้าวหรือหวือหวา ถึงอย่างนั้นจังหวะดึงอารมณ์ก็ยังจัดว่าใช้ได้อยู่ประมาณหนึ่ง
แต่ด้วยความที่เป็นงานอนิเมะของจีน เรื่องความสวยงามเราหายห่วงอยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่คุณภาพอนิเมะหนังโรงในแถบเอเชียด้วยกันยังไม่อาจเอาชนะญี่ปุ่นได้คือ ความสมํ่าเสมอของงาน เช่นในกรณีนี้ที่เห็นได้ชัดเลยคือจำนวนเฟรมในซีนซีนหนึ่ง ไม่ได้หมายถึงว่าทั้งเรื่องรัน 24 เฟรมแล้วจะแย่นะครับ ตรงนี้รับได้อยู่แล้ว เป็นมาตรฐานอนิเมะทั่วไป ทำได้เหนือกว่าก็รับคำชมไป แต่ทำได้ประมาณนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะแย่จนต้องด่า เพียงแต่ผมหมายถึงความละเอียดของเฟรม เช่นฉากหนึ่งที่มีตัวละครที่ต้องเดินเข้าซีนมาแตะหลังพระเอกแสดงความปลอบใจ แต่ที่เห็นคือเหมือนเขาแอบจะวาร์ปมาเลย มันอาจจะเล็กน้อย แต่พอสังเกตเห็นได้ก็อดหงุดหงิดใจไม่ได้จริงๆ
ถึงอย่างนั้นในช่วงไฮไลต์ของเรื่องกับไคลแมกซ์ในตอนท้าย เรื่องนี้ทำได้ดีมากนะครับ การต่อสู้ดูดุดันรุนแรง มีวิชวลการออกแบบซีนต่อสู้ที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นคนละสไตล์กับทางญี่ปุ่นไปเลย ตรงนี้ดีมาก มันส์สุดๆ แม้จะรู้ว่าจบยังไงแต่ก็อดลุ้นไปด้วยไม่ได้ แต่ก็อีกนั่นแหละ พอเราเห็นพี่เยี่ยเราเทพตั้งแต่ต้นยันจบ ก็เข้าใจว่าซีนต่อสู้อยากให้ดูสูสี ให้ดูลุ้น แต่ด้วยศักดิ์ฝีมือของพี่เยี่ยในจังหวะนั้นเนี่ย ผมว่ามันน่าจะขาดกว่านี้นะ ไม่รู้สิ แต่ก็ปิดตาข้้างหนึ่งให้ได้ถ้ามันจะบู๊กันแหลกราญขนาดนี้
ส่วนตัวผม ผมรู้สึกว่าปัญหาจริงๆ ของเรื่องนี้คือการที่มีตัวละครเยอะ จนเราไม่อาจทำความรู้จักพวกเขาได้หมด ขนาดว่าดูจนจบผมก็ยังจำชื่อลูกทีมของพี่เยี่ยแทบไม่ได้เลย ไม่ต้องพูดถึงทีมอื่น เพราะเอาเข้าจริงก็จำชื่อได้แค่ 2-3 ตัวละครเท่านั้น อาจเพราะตัวเรื่องต้องการเน้นเล่าในส่วนของเส้นทางการขึ้นเถลิงบัลลังก์ของเยี่ยชิวจนไม่อาจพาเราไปทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมทีมที่เหลือของแกได้มากพอ ก็แอบน่าเสียดายหน่อยๆ เพราะหลายๆ ตัวมีคาแรคเตอร์น่าสนใจไม่น้อย แต่จุดนี้ก็พอเข้าใจได้ครับ
The King’s Avatar: For the glory เป็นเสมือนส่วนเสริมของเนื้อเรื่องที่ช่วยเติมเต็มให้กับจักรวาลกลอรี่สำหรับผู้ที่ไม่ได้ตามนิยายและดูแต่ซีรีส์หรืออนิเมะครับ ส่วนใครที่หวังจะมาเปิดโลกกลอรี่ด้วยเรื่องนี้เรื่องแรกก็พอทำได้เช่นกัน อาจจะมีงงว่าใครเป็นใครนิดๆ แต่สุดท้ายก็จะเข้าใจได้ เพราะเนื้อเรื่องเล่าตรงไปตรงมาไม่ยากเย็นเกินไปครับ ใครที่อยากหาความสนุกที่เสพง่ายๆ หรือเรื่องราวที่พระเอกเก่งเทพแต่ต้นไม่น่ารำคาญนัก The King’s Avatar: For the glory คือคำตอบที่รอคุณอยู่ในโรงภาพยนตร์วีคนี้ครับ (มีทั้งซับและพากย์นะเออ)
Verdict
7/10