เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของตัวละครยอดฮิตในอดีตที่หลายคนคิดถึงเลยทีเดียวกับชาวไซย่านามว่า โบรลี่ หนึ่งในชาวไซย่าผู้ที่รอดชีวิต [ โดนเนรเทศ ] จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จาก ฟรีเซอร์ การกลับมามีบทบาทอีกครั้งในภาพยนตร์ที่ชื่อว่า Dragon Ball Super: Broly เป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่อย่างเห็นได้ชัด แต่จะมีอยู่สิ่งหนึ่งที่ โบรลี่ คนเก่าและคนใหม่ คล้ายกันก็คือ การเปลี่ยนร่างเป็นชาวไซย่าผู้บ้าคลั่ง Berserker เหมือนกับตัวตนในอดีต และในวันนี้เราจะพาทุกๆ คนไปย้อนรอยกันว่าตัวละครที่ชื่อว่า โบรลี่ มีการพัฒนาการแปลงร่างเป็นแบบไหนบ้าง หากพร้อมแล้วไปชมพร้อมกันเลย
Normal From
ฟอร์มปกติทั่วไปของ Broly ที่เราเห็นกันร่างปกติจะเป็นชาวไซย่ารูปร่างผอมสูง ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาให้เห็น หน้าตาซึมเศร้าเหมือนคนเก็บกด มีเครื่องประดับ Broly’s Ring ติดอยู่ที่หัว คอยควบคุม อารมณ์ความโกรธที่มีอยู่ในตัว Broly เอาไว้
Super Saiyan From
[ A-type Super Saiyan ]
ร่างแปลง Super Saiyan ฉบับ Broly จะมีสีผมไม่เหมือนกับ Super Saiyan คนอื่นๆ สีผมของร่าง Super Saiyan A-Type จะเป็นสีฟ้าน้ำทะเล ออร่าสีเหลือง เป็นการแปลงร่างที่อยู่ในสภาวะถูกควบคุมโดย Broly’s Ring ก่อนจะเร่งพลังความโกรธขีดสุดจน Broly’s Ring แตกสลายกลายเป็น Legendary Super Saiyan
[ C-type Super Saiyan ]
Super Saiyan ของ Broly อีกแบบที่ปรากฎอยู่ใน Dragon Ball Movie 10 เป็นการแปลงร่างเป็น Super Saiyan ในสภาวะปกติ ไม่ถูกควบคุมหรืออยู่ในสถานะ Berserk สีผมจะเป็นสีเหลืองทองเหมือน Super Saiyan คนอื่นๆ ออร่าสีเหลือง รูปแบบการใช้พลังจะเป็นสีเขียวสไตล์ Gigantic การแปลงร่าง Super Saiyan C-Type จะเทียบเท่ากับ Super Saiyan A-Type มีสีผมแตกต่างกัน เรียกว่าสีผมฟ้าน้ำทะเลจะปรากฎใน Dragon Ball Movie 8 เท่านั้น จนท้ายที่สุดสีผมของ Broly ยึดแบบเดิมตามภาคแรกไปเลย
Legendary Super Saiyan
การแปลงร่าง Super Saiyan ขั้นสุดของ Broly ในรูปแบบ Legendary Super Saiyan ตามชื่อที่ตั้งเอาไว้ในอดีต การแปลงร่างเป็นขั้นนี้ สามารถสังเกตเห็นได้ว่าบรรยากาศรอบตัวจะเปลี่ยนไป รวมอยู่ในจุดเดียว ร่างกายใหญ่โตขึ้น สีผมกลายเป็นสีเขียวอมเหลือง ดวงตาสีขาว แสดงให้เห็นว่าอยู่ในสถานะ Berserk เต็มรูปแบบ เน้นการต่อสู้เพียงอย่างเดียว ความเร็วสูง ร่างกายถึกทน ยิ่งสู้ยิ่งเก่ง รูปแบบการโจมตีและการปล่อยลูกพลังจะเป็นสีเขียวในตระกูล Gigantic พร้อมกับวลีเด็ด ” จะจัดการแกเป็นคนแรก คาคาล็อต “
Super Saiyan 2
การแปลงร่าง Super Saiyan ขั้นที่ 2 ของ Broly ปรากฎตัวในเกม Dragon Ball Kai: Miracle Battle Card game เรียกว่าเป็นขึ้นที่ 2 ของ Super Saiyan ทรงผมจะตั้งแหลมมากกว่าเดิม มีกระแสไฟฟ้ารวบตัวตามฉบับ Super Saiyan 2 การแปลงร่างในขั้น ปรากฎตัวอย่างเป็นทางการในอนิเมชั่นภาค Super นั่นก็คือ Kale ชาวไซย่าจักรวาลที่ 6 ที่สามารถควบคุมพลังได้โดยไม่ติดสถานะ Berserk
Super Saiyan 3
การแปลงร่าง Super Saiyan ขั้นที่ 3 ของ Broly ปรากฎใน Raging Blast series , Dragon Ball Z: Dragon Battlers และ Dragon Ball Heroes ผมยาวสีเขียวเข้ม ทรงเดียวกับ Goku ไม่มีคิ้ว ดวงตาสีขาวมาพร้อมกับสถานะ Berserk เหมือนเคย
Great Ape Broly
ร่างลิงยักษ์ของ Broly ปรากฎตัวใน Dragon Ball Heroes และ Dragon Ball Fusions โดยปกติทั่วไป เมื่อชาวไซย่ากลายร่างเป็นลิงยักษ์จะมีขนสีดำหรือน้ำตาล แต่ของ Broly แตกต่างกันออกไป สีขนจะกลายเป็นสีเขียวเด่นชัด มองดูก็รู้เลยว่าใคร
Super Saiyan 4 – Full Power
อีกหนึ่งการแปลงร่างที่หลายคนชื่นชอบและจดจำได้เป็นอย่างดี กับฟอร์ม Super Saiyan 4 ปรากฎตัวในภาค GT เท่านั้น นับว่าเป็นการดีไซน์และตีความหมายของชาวไซย่าได้น่าสนใจ ต้องแปลงร่างเป็นลิงยักษ์ก่อนจะกลายร่างเป็น Super Saiyan อีกรอบถึงจะได้ร่างนี้มา ในส่วนของ Broly พื้นฐานเป็นชาวไซย่าเลือดแท้อยู่แล้ว มีหรือที่เขาจะไม่มีร่างนี้ Super Saiyan 4 ของ Broly ปรากฎตัวในเกม Dragon Ball Heroes ทรงผมยาวปะบ่า สีผมกลายเป็นสีดำสนิท ลำตัวมีขนสีดีแดงขึ้นรอบตัว เหมือน Goku และ Vegeta ในร่าง Super Saiyan 4 สามารถแปลงร่างไปอีกขึ้นกลายเป็น Super Saiyan 4 – Full Power
Broly God
ร่างใหม่ร่างสุดของ Broly ที่สามารถก้าวข้ามพลังของตัวเอง ไปสู่ระดับพระเจ้า เหมือนกับ Super Saiyan Blue ของ Goku และ Vegeta ความพิเศษของ Broly God สีผมจะเป็นสีเขียวอ่อน ผมยาวคล้ายกับ Super Saiyan 3 มีปลายผมซ้ายและขวายาวกว่าปกติ ปรากฎตัวเป็นครั้งแรกใน Dragon Ball Z: Super Tenkaichi Budokai มาพร้อมกับการปรากฎตัวครั้งแรกของ God Fusion Goku ฉบับ Super Saiyan Blue ที่ Goku ได้รวมร่างกับคนดู
Dragon Ball Super: Broly
โบรลี่ ฉบับจักรวาลหลักที่ปรากฎตัวครั้งแรกในโรงภาพยนตร์ ถูกปรับเปลี่ยนใหม่แทบจะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการ ดีไซน์ , ภูมิหลัง , รูปแบบของพลัง ปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามแบบของ อาจารย์โทริยาม่า ที่ได้นำมาดัดแปลงเพื่อที่จะเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักไทม์ไลน์ Super อย่างเป็นทางการ แต่ก็ยังมีการใช้พื้นฐานเดิมของ โบรลี่ คนเก่ามาผสมบางส่วน
Broly Nornal From
โบรลี่คนใหม่ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้ดูสมกับเป็นชาวไซย่ามากขึ้น ไม่ได้เป็นคนผอมสูงเหมือนเก่า แต่จะเป็นชาวไซย่าแบบนักสู้ที่เติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดเป็นหลัก แต่ตัวของเขาเองก็มีพลังอันเหลือล้นซ่อนเอาไว้อยู่ จนกลายเป็นสาเหตุหลักทำให้โดนเนรเทศออกไปยังดาวสุดของจักรวาลตั้งแต่เด็ก พลังของ โบรลี่ หลักๆ แล้ว จะไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ พารากัส ต้องสร้างเครื่องช็อตไฟฟ้าเรียกสติไม่ให้ โบรลี่ บ้าคลั่งในการต่อสู้
Broly Wrath State
ร่างแปลงลำดับที่ 2 ที่เริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ผมตั้งขึ้น พร้อมออร่าสีเขียวรอบตัว ดวงตาสีเหลืองแข็งกร้าว พร้อมที่จะบวกทุกเมื่อ ตามคำพูดของ พารากัส ผู้เป็นพ่อของโบรลี่ บอกเอาไว้ว่า โบรลี่ ได้เอาพลังจากลิงยักษ์ Great Ape มาใช้เองโดยที่ตัวเองนั้น ไม่ได้กลายเป็นร่างลิงยักษ์เพราะโดน พารากัส ตัดหางออกไปแล้วนั่นเอง
Broly Super Saiyan
การแปลงร่าง Super Saiyan ผมสีทองแบบเดียวกับ Super Saiyan คนอื่นๆ ที่ระเบิดพลังความโกรธออกมาจากความสูญเสีย รวมไปถึงความโกรธที่ไม่ได้สติ สาเหตุมาจาก ฟรีเซอร์ ยิงเดธบีมใส่ พารากัส จนตาย ทำให้ โบรลี่ โกรธสุดขีดจนกลายร่างเป็น Super Saiyan ทันทีเหมือนกับ Goku ที่สูญเสียเพือนรัก Kulilin ตอนศึกดาวนาเม็กนั่นเอง
Legendary Super Saiyan [ Broly Full Power ]
เมื่อร่าง Super Saiyan ผมทองโดนอันจนน่วมได้ที่ โบรลี่ ที่กำลังจะเสียท่าให้กับ Gogeta ได้เริ่มระเบิดพลังไปอีกขั้นเพือไล่ตามพลัง Gogeta ให้ทัน จนสีผมเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดกลายเป็นสีเขียวอ่อน ออร่าสีเหลืองทอง เป็นรูปแบบสไตล์ Legendary Super Saiyan หรือที่เรียกกันในภาคนี้ว่า Broly Full Power เข้าต่อสู้กับ Gogeta Blue จนพ่ายแพ้ไปในที่สุดก่อนจะกลับเข้าสู่ร่าง Super Saiyan