9.5/10
สำหรับแฟนการ์ตูน Bungo Stray Dogs เรียกได้ว่าเกินความคาดหวังไปอีก
เนื้อเรื่องเริ่มต้นจากการเล่าย้อนถึงอดีตก่อนจะวกกลับมาที่ปัจจุบัน เรื่องรอยต่อของเส้นเรื่องเรียกว่าไม่รู้สึกสะดุด การดำเนินเรื่องในช่วงรอยต่อ และผสานผูกปมเข้ากันกับเนื้อเรื่องหลักได้อย่างสมูท แถมยังมีเฉลยปมตัวละครที่เพิ่มเติมมาจากเส้นเรื่องหลัก เนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบไม่ทำให้รู้สึกเบื่อ เหมือนกับนั่งรถไฟเหาะที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา ไม่มีช่วงที่ทำให้เบื่อเลย สอดแทรกมุกของตัวละครแต่ละตัวเอาไว้ในทุกๆฉาก แม้จะเป็นฉากซีเรียสแต่ก็ทำให้รู้สึกว่ามันตลกได้โดยไม่ขัดอารมณ์ ปมเรื่องก็ไม่ตื้นเขินทำให้คนดูไม่รู้สึกว่ารู้ตอนจบ ชวนให้ลุ้นให้ติดตามทุกองค์ฉากต่อสู้มันส์สะใจ ได้เห็นพลังพิเศษของแต่ละตัวละครออกมาฟาดฟันกับเหล่าผู้ใช้ก็ว่ามันส์แล้ว ยิ่งฉากต่อสู้ของตัวเอกยิ่งมันส์กว่า มีฉากต่อสู้ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่อง แต่กลับไม่รู้สึกว่าหนักเกินไป ทุกอย่างสมเหตุสมผลกับการดำเนินเรื่อง นี่ยังไม่รวมถึงฉากเซอร์วิสแฟนๆนะ เรียกได้ว่าสาวๆกรี๊ดกันลั่นโรงเลยทีเดียว บทตัวละครหลักกินกันไม่ลง แม้ว่าพระเอกน้องเสือของเราจะโดนแย่งซีนหนักไปบ้างในช่วงแรกๆ แต่ช่วงสุดท้ายเรียกได้ว่าเขากลับมาทวงบัลลังก์คำว่า “พระเอก” อย่างแท้จริง
ดาไซ ถือเป็นกุญแจสำคัญของเรื่อง ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าดาไซเป็นตัวละครที่อ่านเกมส์ได้เฉียบขาด และวางแผนทุกอย่างเอาไว้ล่วงหน้า แต่คราวนี้ทำให้คนดูได้เสียวสันหลังกันวาบทีเดียว ส่วนความหล่อไม่ต้องพูดถึง เซอร์วิสจนสาวๆใจละลาย กลับบ้านไปเพ้อกันแน่นอน
ชูยะ เรียกว่าเกิดมาเพื่อแย่งซีนพระเอก ฉากเปิดตัว เรียกได้ว่าเรียกเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือจากสาวๆได้ลั่นโรงทีเดียว สมแล้วกับรางวัล Newtype Anime Award 2018 รางวัลนี้เขาไม่ได้ได้มาเล่นๆจริงๆ แถมเป็นตัวละครที่ช่วยพลิกสถานการณ์ สร้างฉากต่อสู้ได้สุดอลังการจริงๆ
อาคุตากาวะ ไม่รู้ว่าทีมงานรักน้องมากจนแอบแกล้งน้องรึเปล่า แต่ฉากเปิดตัวนี่เรียกได้ว่าอีพิคสุดๆ ทุกคนต้องพูดถึงฉากเปิดตัวนี้ไปอีกนาน แต่บทที่ได้ก็เท่ไม่เบาทีเดียว ที่น่าสนใจคือการได้เห็นตัวละครต่อสู้โดยไร้พลังพิเศษ กึ๋นและช็อตบู้เรียกได้ว่าคนดูคาดไม่ถึงแน่นอน
อัตสึชิ ตอนแรกก็นึกว่าจะโดนขโมยบทพระเอกไปเสียแล้ว จนมาถึงจุด climax ของเรื่อง ก็เรียกได้ว่ามาทวงบังลังก์ตำแหน่งพระเอกคืนโดยแท้จริง แม้ว่าช่วงต้นเรื่องจะทำให้ลุ้นจนหืดขึ้นคอไปสักหน่อยก็เถอะนะ แต่ฉากตอนต่อสู้เรียกว่าบทไม่แพ้ใครเลยในตัวละครหลัก 4 ตัว
ด้านภาพ สวยงาม งานคุณภาพ เคลิ้มกับความหล่อของหนุ่มๆ ความน่ารักของสาวๆ (แค่งานภาพก็คุ้มค่าตั๋วแล้วจริงๆ) ตำแหน่งตัวละครชายยอดนิยมไม่ได้ได้มาเล่นๆ หล่อเท่กันทุกตัวขนาดนี้
ดนตรีประกอบก็ยอดเยี่ยม เร้าอารมณ์ ติดหู งานคุณภาพ ออกจากโรงแล้วถึงขั้นมาเสิร์ชหาชื่อ sound track ขนาดนี้แล้วแฟนๆ ของเรื่องนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง รับรองว่าออกจากโรงแล้วใจเต้นหน้าแดงเคลิ้มกันเป็นแถวแน่ๆ (อ๊ะ แต่เนื้อเรื่องก็สนุกมากนะ)
คะแนนให้ 9.5 เต็ม 10 หักนิดนึงเรื่องปมตัวร้าย เล่าน้อยไปนิด ยังไม่ทันอินกับบทของตัวละครในเหล่าสำนักงานนักสืบที่ขาดหายไปเล็กน้อย