ดอกวิสทีเรีย ดอกไม้ที่อสูรไม่กล้าแตะต้อง

ใครที่เป็นแฟน Demon Slayer หรือ ดาบพิฆาตอสูร คงจะคุ้นตากับดอกไม้สีม่วงสวยสะดุดตาอย่างดอกวิสทีเรียกันดีใช่ไหมล่ะ? ดอกไม้ชนิดนี้ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงาม เพราะในเรื่อง ดอกวิสทีเรียยังเป็นเหมือนเกราะป้องกันอสูรให้กับเหล่านักล่าอสูรอีกด้วย

แต่เพื่อน ๆ รู้ไหมว่า ดอกวิสทีเรียในวัฒนธรรมญี่ปุ่นนั้นมีความหมายที่ลึกซึ้งและมีตำนานที่น่าสนใจมาก ๆ เลยล่ะ ในวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปดูกันว่าอะไรคือแรงบันดาลใจให้ผู้แต่งนำดอกไม้ชนิดนี้มาเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องดาบพิฆาตอสูรกัน!

ดอกวิสทีเรีย

Demon Slayer หรือ ดาบพิฆาตอสูร เป็นเรื่องราวของ ทันจิโร่ คามาโดะ เด็กหนุ่มผู้ฝึกฝนตนเองเพื่อต่อสู้กับอสูรและกำจัดพวกมัน การเดินทางของเขาเริ่มต้นขึ้นจากเหตุการณ์อันน่าเศร้า เมื่อทันจิโร่กลับจากไปขายถ่านในเมืองและพบว่าครอบครัวของเขาถูกอสูรสังหารทั้งหมด เหลือเพียงเนซึโกะ น้องสาวของเขาที่รอดชีวิตมาได้ แต่ก็ต้องกลายร่างเป็นอสูร ทันจิโร่จึงตั้งมั่นว่าจะช่วยน้องสาวของเขาให้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง และแก้แค้นให้กับครอบครัวของเขา

ในการเดินทางที่แสนยากลำบาก ทันจิโร่ได้เรียนรู้ว่าเหล่านักล่าอสูรใช้ดอกวิสทีเรียเป็นทั้งอาวุธและเกราะป้องกันในการต่อสู้กับอสูรไม่มีวันตาย ดอกไม้นี้ปรากฏเป็นตราประจำตัวของนักล่าอสูร และเป็นสัญลักษณ์ที่ปรากฏอยู่ตลอดทั้งเรื่อง


ดอกวิสทีเรียในดาบพิฆาตอสูร

หน่วยพิฆาตอสูร เป็นกลุ่มลับที่รวมเหล่านักดาบฝีมือฉกาจไว้ด้วยกัน เพื่อต่อสู้กับอสูร ในหน่วยพิฆาตอสูรนี้มี “เสาหลัก” ผู้เชี่ยวชาญการใช้ปราณในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพลังในการต่อสู้ สำหรับผู้ที่ต้องการเลื่อนขั้นเป็นนักล่าอสูรระดับสูง จะต้องผ่านการทดสอบสุดโหด โดยการเอาชีวิตรอดจากภูเขาที่เต็มไปด้วยอสูรเป็นเวลาเจ็ดวัน ซึ่งภูเขานี้มีลักษณะคล้ายกับภูเขาฟูจิในโลกแห่งความจริง

ดอกวิสทีเรีย

ดอกวิสทีเรีย หรือ ดอกฟูจิ ที่บานสะพรั่งบนภูเขาฟูจิ เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างฉากอุโมงค์ดอกวิสทีเรียในดาบพิฆาตอสูร ทันจิโร่ได้มาถึงภูเขาฟูจิคาซาเนะเพื่อเข้ารับการทดสอบ ท่ามกลางบรรยากาศอันงดงามของประตูสีแดงและดอกวิสทีเรียที่ส่องประกาย เขาได้เรียนรู้ว่าดอกวิสทีเรียมีพลังในการขับไล่อสูร และเขาจะต้องต่อสู้กับพวกมันในพื้นที่ที่ไม่มีดอกไม้นี้

นอกจากนี้ ทันจิโร่ยังได้เรียนรู้จากเสาหลักแมลงว่า แม้ดอกวิสทีเรียจะไม่สามารถฆ่าอสูรได้ แต่พิษจากเมล็ดของมันกลับทำได้ ซึ่งดอกวิสทีเรียในชีวิตจริงก็มีสารพิษในกลีบดอกและเมล็ดเช่นกัน ทำให้เห็นได้ว่าดอกวิสทีเรียในดาบพิฆาตอสูรนั้นมีที่มาจากความเป็นจริงนั่นเอง


ตำนานของดอกวิสทีเรีย

ดอกวิสทีเรีย

ดอกฟูจิ หรือที่รู้จักกันในชื่อดอกวิสทีเรีย เป็นพืชที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมในญี่ปุ่น จีน และเกาหลี ลักษณะของต้นฟูจิเป็นไม้เลื้อยที่มักจะปกคลุมพืชอื่น ๆ และออกดอกที่สวยงามตระการตา ทำให้ดอกฟูจิมีความหมายที่เกี่ยวข้องกับความรัก ความลุ่มหลงในความรัก ความเอื้ออารี และการเกาะเกี่ยวกัน ซึ่งมักถูกเปรียบเทียบกับการโอบกอดของชายหญิง

ในบางตำนาน ดอกฟูจิถูกเชื่อมโยงกับความรักที่ไม่สมหวัง เช่น เรื่องราวของนักแสดงคาบูกิชื่อ “ฟูจิมุสุเมะ” หญิงสาวที่นั่งรอคนรักใต้ต้นฟูจิในภาพวาด เธอตกหลุมรักชายที่ชื่นชมภาพวาดของเธอ แต่ความรักของเธอไม่สมหวัง เธอจึงกลับเข้าไปในภาพวาดและรอคอยความรักที่ไม่มีวันเกิดขึ้น

ดอกฟูจิไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความรักที่งดงามและเศร้าสร้อย แต่ยังสื่อถึงความลึกลับและเชื่อมโยงกับพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ใน “ดาบพิฆาตอสูร” ดอกฟูจิเป็นตัวแทนของแสงสว่างที่อสูรพ่ายแพ้ และเป็นสัญลักษณ์ของฤดูร้อน


ดอกวิสทีเรีย แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น

ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ดอกวิสทีเรียถูกใช้ในการแสดงคาบูกิ ชื่อว่า ‘Wisteria Maiden’ มันเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความสามัคคี และความเศร้า เพราะมันขึ้นอยู่บนภูเขาไฟฟูจิ ด้วยสีม่วงที่ดูหรูหรา และขึ้นอยู่ในที่สูง ๆ ก็เลยเป็นสัญลักษณ์ของความสูงส่ง

แรงบันดาลใจจากของจริงพวกนี้ก็เลยเชื่อมโยงกับตำนานวิสทีเรียในเรื่องดาบพิฆาตอสูรโดยตรงเลย เพื่อเป็นการขอบคุณหน่วยพิฆาตอสูรที่มาช่วย ครอบครัวฟูจิก็เลยทำตราสัญลักษณ์ โดยมีตัวคันจิ ‘ฟูจิ’ อยู่ตรงกลาง แล้วก็มีกิ่งวิสทีเรียโค้ง ๆ ล้อมรอบ และเป็นที่รู้กันว่าบ้านที่มีสัญลักษณ์นี้จะเป็นที่พักพิงที่ปลอดภัยสำหรับนักล่าอสูร

ดอกวิสทีเรีย

พลังและบทบาทของดอกวิสทีเรียในดาบพิฆาตอสูร

หลังจากที่เราได้รู้จักที่มาที่ไปของดอกวิสทีเรียกันไปแล้ว คราวนี้มาดูกันว่าในอนิเมะดาบพิฆาตอสูร ดอกวิสทีเรียมีความสามารถอะไรบ้าง

  • ไล่อสูร : ถ้าปลูกดอกวิสทีเรีย หรือจุดธูปวิสทีเรียรอบบ้าน ก็จะไล่อสูรที่จะมาทำร้ายเราได้ เกียวเม จุดธูปวิสทีเรียในวัดของเขาเสมอ ซึ่งวัดนั้นอยู่ในพื้นที่ที่รู้กันว่ามีอสูรเยอะ
  • ดักจับอสูร : ในช่วงการคัดเลือกสุดท้าย ดอกวิสทีเรียถูกใช้เพื่อดักจับปีศาจไว้บนภูเขาฟูจิคาสาเนะ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “ฟูจิคาสาเนะ” ที่แปลว่า “ปกคลุมด้วยวิสทีเรีย” อสูรถูกขังไว้ในภูเขาเพื่อใช้เป็นการทดสอบสำหรับคนที่อยากเป็นนักล่าอสูร
  • ทำให้อสูรเป็นอัมพาตและขยับไม่ได้ : ดอกวิสทีเรียสามารถใช้ทำยาพิษที่ทำให้อสูรธรรมดาเป็นอัมพาต และทำให้อสูรระดับล่างของสิบสองอสูรจันทราขยับไม่ได้ได้
    • ยาพิษวิสทีเรียปริมาณปกติกับอสูร จะทำให้ความสามารถของพวกมันแย่ลง เช่น การฟื้นฟูร่างกาย การเคลื่อนไหว การกดประสาทสัมผัสพิเศษ และทำให้วิชาโลหิตอสูรของพวกมันอ่อนแอลงด้วย
    • ถ้าความเข้มข้นสูงมากพอ อย่างที่ชิโนบุใช้ ยาพิษเหล่านี้สามารถละลายอสูรเกือบทุกตัวได้ ทำให้พลังฟื้นฟูของพวกมันหายไปเลย แต่ก็มีข้อยกเว้นนะ อย่างโคสึโมะแทบจะไม่โดนพิษวิสทีเรียเลย ปริมาณปกติจะไม่มีผลอะไรเลย และถ้าให้กินปริมาณที่ถึงตายตามทฤษฎี เธอก็คงแค่กระอักเลือดออกมาตอนแรก แล้วก็สร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาทันที
ดอกวิสทีเรีย
  • เปลี่ยนสรีระร่างกายมนุษย์ : ด้วยความช่วยเหลือของทามาโยะและยูชิโร่ ชิโนบุยังสามารถใช้พิษวิสทีเรียในการปรับเปลี่ยนร่างกายของเธอเองได้ เพื่อเตรียมพร้อมต่อสู้กับโดมะ ชิโนบุยอมเปลี่ยนสรีระตัวเองเพื่อให้เซลล์ทุกเซลล์ในเนื้อของเธอเคลือบด้วยพิษ ร่างกายของเธอเลยกลายเป็นแคปซูลพิษมนุษย์ที่ตรวจจับไม่ได้ ซึ่งจะค่อย ๆ ทำลายร่างกายของอสูรจันทราข้างขึ้นที่แข็งแกร่งที่สุดได้ ถ้าพวกมันกินเธอเข้าไป ตามที่เธอพูด ด้วยขนาดและน้ำหนักตัวของเธอ เธอมีพิษ 37 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่าปริมาณที่ฆ่าอสูรทั่วไปได้ถึง 700 เท่า
  • ยาแก้พิษ : ตอนที่เซ็นอิทสึโดนอสูรวางยาพิษ ชิโนบุใช้ยาแก้พิษพิเศษของเธอช่วยชีวิตเขาไว้ได้ในพริบตา ชิโนบุพกกระเป๋ายาของเธอที่มีเข็มฉีดยาที่เต็มไปด้วยยาแก้พิษวิสทีเรียติดตัวตลอดเวลา
  • เปลี่ยนอสูร : ชิโนบุยังใช้ดอกวิสทีเรียสร้างยาที่สามารถเปลี่ยนอสูรให้กลับมาเป็นมนุษย์ได้อีกด้วย
  • สลักลำดับนักล่าอสูร : หลังจากผ่านการคัดเลือกสุดท้าย ดอกวิสทีเรียจะถูกใช้เพื่อสลักลำดับของสมาชิกหน่วยพิฆาตอสูรไว้ที่หลังมือของพวกเขา
ดอกวิสทีเรีย

ผู้ใช้ดอกวิสทีเรียในการต่อสู้

  • ชิโนบุ ใช้พิษที่ทำจากวิสทีเรียเป็นหลัก ในการต่อสู้กับอสูร เพราะเธอไม่มีแรงกายพอที่จะตัดหัวพวกมันได้ เพื่อให้ทำแบบนั้นได้ ดาบของเธอเลยถูกออกแบบมาให้ฉีดพิษเข้าไปในตัวอสูรผ่านรูปแบบปราณแมลงของเธอ ปลอกดาบของเธอมีพิษสำรองไว้เพื่อให้ดาบมีพิษตลอดเวลา
  • ฮินะสึรุ มีกล่องที่เต็มไปด้วยคุไนหลายอันที่เคลือบด้วยพิษวิสทีเรียที่แรงพอจะทำให้อสูรธรรมดาเป็นอัมพาตครึ่งวัน และยังทำให้อสูรระดับล่างของสิบสองอสูรจันทราขยับไม่ได้ได้ด้วย

สรุปแล้ว ดอกวิสทีเรีย ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งการปกป้องในดาบพิฆาตอสูร เพราะมันเป็นพิษต่ออสูรทำให้พวกมันไม่กล้าเข้าใกล้ จากดอกไม้แห่งความรักและความเศร้า สู่เกราะป้องกันที่ช่วยให้มนุษย์ปลอดภัยจากเงื้อมมืออสูร!

ที่มา : kimetsu-no-yaiba-fan.fandom.com, thematter.co, screenrant.com


ติดตามดูอนิเมะถูกลิขสิทธิ์ ได้ที่นี่ Online Station

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้