ปัจจุบันเกมหลายเกมนั้นมีราคาแพงขึ้นเป็นระลอก ๆ ซึ่งรอบล่าสุดค่ายเกมต่าง ๆ ก็พากันขึ้นจากเดิม 60 เหรียญฯ (ประมาณ 2,000 บาท) ไปเป็น 70 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2,300 บาท) ซึ่งหลาย ๆ คนก็ต้องยอมรับกับความจริงนี้ไป
แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ เพราะเริ่มมีนักวิเคราะห์ออกมาชี้ว่าค่ายเกมต่าง ๆ กำลังแอบหวังว่า Grand Theft Auto VI จะเป็นเกมที่เป็น “ตัวเปิด” ยุคใหม่ด้วยการตั้งราคาถึง 100 เหรียญฯ (ประมาณ 3,400 บาท) และทำให้เป็นมาตรฐานเพื่อให้ค่ายอื่น ๆ ได้พากันดำเนินรอยตามตาม หวังที่จะกอบกู้อุตสาหกรรมเกมที่กำลังตกต่ำจนทำให้ต้องเลย์ออฟคนออกจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่าย Take-Two เจ้าของ GTA VI นั้นเคยเป็นผู้บุกเบิกราคา 70 เหรียญฯ รายแรก ๆ มาแล้วก่อนหน้านี้
You’re not supposed to say this out loud!!!! https://t.co/4EABCQJaDB
— Very AFK (@Cromwelp) January 19, 2025
ทว่าคุณ Michael Douse ผู้พัฒนาเกมคนหนึ่งของ Larian Studios ผู้สร้างเกม Baldur’s Gate 3 ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ด้วย โดยตอบโต้รายงานข่าวของ VGC ว่า “ไม่ควรจะพูดความคิดดังกล่าวออกมาตรง ๆ !!!”
โดยคุณ Douse อธิบายว่าบริษัทที่ดีนั้นจะขึ้นเงินเดือนพนักงานตามเงินที่เฟ้อมากขึ้นเพื่อไม่ให้พนักงานต้องอดตายหรือตกที่นั่งลำบาก แต่ราคาเกมนั้นไม่ได้เพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ และแม้จะไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ตอนนี้อุตสาหกรรมเกมกำลังตกต่ำ แต่ก็เป็นความจริงที่ไม่น่าสบายใจ ในทางตรงกันข้าม ผู้พัฒนาก็มีหน้าที่ต้องมั่นใจว่าจะทำให้เกมของตนทำได้ตามคำสัญญาและความคาดหวังของผู้เล่น
ทาง Games Radar ให้ความเห็นว่าบริษัทไหน ๆ ก็อยากขึ้นราคาเกมทั้งนั้น เพราะราคาที่มากขึ้นเท่ากับจะได้กำไรมากขึ้น แต่ยังไงผู้เล่นก็ย่อมมีขีดจำกัดว่าจะยอมจ่ายมากแค่ไหน ดังนั้นแม้จะมีคนเป็นล้านที่ยอมจ่าย 100 เหรียญฯ เพื่อเล่น GTA VI แต่ก็ไม่น่ามีเกมอื่น ๆ เกมไหนที่กล้าตั้งราคาสูงขนาดนั้น และยังมองด้วยว่าการตั้งราคาเกมสูงขึ้นนั้นไม่น่าจะช่วยลดปัญหาการเลย์ออฟภายในอุตสาหกรรมเกมในช่วงที่ผ่านมาได้
ก็ต้องรอดูว่า GTA VI นั้นจะกลายเป็นตัวเปิดยุคใหม่ของเกมที่มีราคามาตรฐานสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 100 เหรียญหรือไม่ เพราะในความคิดเห็นของหลาย ๆ คนก็มองว่านอกจากเกมหลาย ๆ เกมในปัจจุบันยังไม่มีคุณภาพที่คู่ควรราคาดังกล่าวแล้ว ยังมีการตั้งราคาและหาเงินในรูปแบบอื่น ๆ เพิ่มเติมหลังจากที่ซื้อมาอยู่แล้วรวมมีการตั้งราคาแบบ Deluxe Edition, Ultimate Edition และรุ่นอื่น ๆ ด้วย หากแพงมากไปกว่านี้ก็อาจจะสูงเกินกว่าที่ผู้เล่นหลาย ๆ คนจะยอมรับได้
แปลและเรียบเรียงจาก
Games Radar
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station