รีวิวหนัง The War of the Rohirrim – สานต่อ PJ legacy ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง!

ช่วงนี้เป็นช่วงที่แฟนๆ ภาพยนตร์ไตรภาค The Lord of the Rings ของเฮีย Peter Jackson น่าจะนุ่มฟูกันอยู่ประมาณหนึ่งหลังจากที่พวกเขาอาจจะไม่ค่อยซื้อกับเวอร์ชั่นดัดแปลงจนเลยเถิดของ Ring of Power สักเท่าไหร่ เพราะนอกจากจะมีภาพยนตร์ ไตรภาคเดิมแบบ Extended Edition กลับมาเข้าโรงฉายใหม่ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่ HBO GO กลายเป็น MAX และมีหนังชุดเดียวกันให้ดูแล้ว ก็ยังมีภาพยนตร์แยกอย่าง The War of the Rohirrim เข้าโรงมาให้ดูด้วยในเวลาไล่เลี่ยกันอีกต่างหาก แม้จะมีหน้าหนังเป็นอนิเมะ แต่มีชื่อของ Peter Jackson แปะเป็นโปรดิวเซอร์อยู่ก็ทำให้แฟนๆ ไตรภาคเดิม อยากจะหวนคืนมิดเดิลเอิร์ธในแบบที่พวกเขารักเต็มแก่ ผมเองก็ด้วย

The Lord of the Rings ไตรภาคถือเป็นภาพยนตร์ที่ผมรักที่สุดในชีวิตแบบไม่มีอะไรสามารถมาแทนได้ แต่ขณะเดียวกันผมเองก็ชื่นชอบอนิเมะในสไตล์ญี่ปุ่นอยู่แล้ว คอมบิเนชั่นของ The War of the Rohirrim ที่มี PJ นั่งแท่นโปรดิวเซอร์ แต่มีผู้กำกับเป็นคุณ Kenji Kamiyama และโปรดักชั่นแบบญี่ปุ่นมันจึงเป็นอะไรที่น่าสนใจและโชยกลิ่นหอมหอลให้ผมอยากจะลิ้มลองมันไม่น้อย

โดย The War of the Rohirrim จะเป็นเรื่องราวประมาณ 200-300 ปีก่อนเหตุการณ์ใน The Hobbit และโฟกัสไปที่เรื่องราวสงครามและวิกฤตของชาวโรฮันที่ต้องเผชิญความขัดแย้งกับชาวดันแลนด์จนเป็นเหตุให้ต้องเปลี่ยนวงศ์กษัตริย์และกำเนิดตำนาน “เฮล์ม แฮมเมอร์แฮนด์” ขึ้นมานั่นเอง อย่างไรก็ตามตัวดำเนินเรื่องหลักจะเป็นเฮร่า ธิดาหัวแดงจอมห้าวของเฮล์ม ซึ่งแทบไม่เคยถูกกล่าวถึงในวรรณกรรมครับ

The War of the Rohirrim

ดังนั้นถ้าถามว่าเรื่องนี้มีการดัดแปลงบทไปจากตัววรรณกรรมไหมก็ต้องตอบว่าแน่นอน โดยเฉพาะบทของเฮร่าที่เป็นการเขียนขึ้นมาใหม่แม้กระทั่งชื่อของเธอ แต่เพราะเป็นแบบนี้ทางทีมเขียนบทจึงสามารถสร้างสิ่งใหม่จากรูโหว่โดยที่ไม่กระทบกับ Lore หลักๆ มากมายอะไร เป็นการดัดแปลงในระดับที่รับและเข้าใจได้ เพราะส่วนไหนที่ควรต้องมีหรือควรต้องเป็นไปแบบนั้นก็ยังคงครบถ้วน แค่เพิ่มสิ่งใหม่ที่ไม่ค่อยได้ลงรายละเอียดไปก็เท่านั้น แฟนๆ จึงสามารถมั่นใจได้ว่าไม่มีการบิด Lore จนน่าขัดใจแน่นอน

The War of the Rohirrim

ขณะที่ตัวงานในภาพรวมทำได้ดีเลย โดยเฉพาะภาพสถานที่หรือแลนด์สเคปคือสวยสดงดงามและเรียกความรู้สึก Nostalgia ได้เป็นอย่างดี โลกมิดเดิ้ลเอิร์ธก็คือการสานต่อ Legacy ของ PJ มาแบบเต็มๆ การออกแบบและบรรยากาศที่เราเคยคุ้นเคย หรือเคยหลงรัก เต็มเปี่ยมไปด้วยอิวเตอร์เอ้กให้แฟนๆ ได้ตื่นตา หรือแม้แต่แฟนใหม่ๆ ก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยาก และแม้สเกลของภาพยนตร์จะไม่อาจใหญ่เท่าเวอร์ชั่นไตรภาคอยู่แล้ว แต่ทีมงานบางส่วนจากไตรภาคก็มีส่วนร่วมในอนิเมะเรื่องนี้ ไม่ว่าจะคนเขียนบท คนทำเพลง หรือคามิโอนักแสดงบางคนที่ก็มาให้เสียงพากย์ด้วยเช่นกัน เป็นหนังที่ใครคิดถึงไตรภาคของ PJ จะรู้สึกอบอุ่นไปกับบรรยากาศทีเคยตกหลุมรักแน่นอน

ส่วนการดีไซน์คาแรคเตอร์และโปรดักชั่นที่มาทรงญี่ปุ่นก็เข้าปากผมทแบบเต็มๆ ครับ ไม่มีจุดไหนอยากติเลย เฮร่าเหมาะกับการถูกทำเป็นฟิกเกอร์ขายต่อมากๆ ขณะที่เฟรย์อาลาฟ ฮาเล็ท และ ฮาม่า ก็ดูหล่อดูดีมีมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน ขณะที่การขยับอาจจะไม่ได้ลื่นไลมากมาย แต่คิดว่าน่าจะเป็นการจงใจใช้งานภาพทรงนี้เพื่อเสริมความแข็งความดิบของงานภาพให้ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวครับ ในด้านเพลงก็คือเพราะมาก นอกจากเพลงธีมโรฮันสุดคลาสสิคได้ยินทีน้ำตารื้นแล้วก็ยังมีเพลงใหม่ๆ ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันอยู่ในหนังด้วย ยอดเยี่ยมมากๆ

The War of the Rohirrim

ข้อเสียมีไม่กี่จุดและอาจจะมาในรูปแบบของความเสียดายเสียมากกว่าอย่างเช่นพองานภาพมาทรงนี้เสียงซาวด์แทรคที่เป็น Eng จึงแอบไม่เข้าปากพอสมควร รู้สึกได้ในทันทีว่าถ้าเป็นเสียงญี่ปุ่นอาจถึงอารมณ์กว่า (ผมว่าจะหาเวลาไปดูพากย์ไทยอยู่ อยากดูพากย์ไทย) ความสัมพันธ์ระหว่างเฮร่ากับวูลฟ์ที่ไม่ค่อยชัดเจนนักว่าพวกเขาสนิทหรือเคยรักกันมากขนาดไหนเพราะเล่าน้อยมาก รวมไปถึงซีนขายที่เป็นเทรดมาร์คของโรฮันอย่าง “โรเฮียริม ชาร์จ” ที่เป็นการโถมม้ากองใหญ่ใส่ศัตรูราวคลื่นซึนามิแบบที่เราเห็นใคร Return of the King ก็ไม่มีเลย ซีนสงครามก็อาจจะม่าในมุมกล้องแคบๆ ซะมากกว่า รวมไปถึงการเดินเรื่องบางจุดที่เนิบไปสักนิดตามสไตล์ผู้กำกับ รู้สึกว่าถ้าเพซมันเร็วขึ้นจะกระชับหนังและความรู้สึกผู้ชมให้คึกคักกว่านี้ได้มากเลยครับ

The War of the Rohirrim

สรุปแล้ว The War of the Rohirrim แม้จะเป็นภาพยนตร์อนิเมะ แต่ก็ยังสืบทอดจิตวิญญาณไตรภาค The Lord of the Rings ที่หลายๆ คนหลงรักและคุ้นเคยกันมาอย่างเต็มเปี่ยม บทอาจมีการดัดแปลงเพิ่มเติมจากตัววรรณกรรมอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เกินเลยและไม่กระทบ Lore ในภาพรวมมากมาย คนที่ไม่เคยดูไตรภาคเก่าก็รับชมได้อย่างรู้เรื่องเพราะบทไม่ได้ซับซ้อนตรงไปตรงมา แต่ก็มีสเน่ห์ในแบบของมัน ตัวของเฮร่าเองก็อาจจะไม่ได้โว๊คหือแสดงอภินิหารอะไร เป็นบทหญิงแกร่งในยุคเก่าที่ซ้อนทับกับเอโอวีนเด๊ะๆ ไม่ขัดหูขัดตา และสามารถเอาใจช่วยเธอได้ครับ แต่แน่นอนคนที่จะรักและควรเข้าโรงภาพยนตร์มาสนับสนุนอนิเมะเรื่องนี้มากที่สุดก็คือแฟนๆ The Lord of the Rings นั่นเอง เพราะถ้าหนังประสบความสำเร็จ เราอาจได้เห็นโปรเจกต์เจ๋งๆ ในอนาคตจากมหากาพย์สงครามแหวนอีกมากมายก็ได้ครับ

The War of the Rohirrim

VERDICT
8/10

ดูรอบและสำรองที่นั่งได้ที่ – https://www.majorcineplex.com/movie/the-lord-of-the-rings-the-war-of-the-rohirrim

ขอขอบคุณ Major Cineplex สนับสนุนการรับชม


ติดตามข่าวหนังอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ Online Station

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้