ประกาศมาแล้วเป็นที่เรียบร้อยนะครับ สำหรับงานประกาศรางวัลเกมประจำปีอย่าง The Game Awards 2024 เรียกได้ว่าดราม่าเดือดกันตั้งแต่ยังไม่ทันประกาศนอมินีหรือเกมที่เข้าชิงในแต่ละสาขาเลยด้วยซ้ำ โดยในบทความนี้เราจะไม่ได้คุยดราม่ากันว่าเกมไหนเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ควรได้หรือไม่ควร แต่จะมาพูดถึงเกมหนึ่งที่หลายคนอาจจะสงสัยว่า ในบรรดาเกมระดับ AAA ที่เข้าชิงกันหลากหลายสาขานั้น มีอยู่เกมหนึ่งที่เป็นเกมไพ่ มันคือเกมอะไร ทำไมถึงได้เข้าชิง แถมยังเข้าชิงมากกว่า 1 สาขาอีกต่างหาก บทความนี้จึงขอพาเพื่อน ๆ มารู้จักกับเกม Balatro กันว่ามันเป็นเกมอะไร ทำไมถึงได้เข้าชิง Game of the Year กับเขาด้วย
ถ้าจะให้จำกัดคำนิยามสั้น ๆ เลย เกม Balatro ก็คือการเล่นไพ่โป๊กเกอร์แบบโร้กไลค์ (Roguelike) ครับ ซึ่งจะเป็นไพ่โป๊กเกอร์ที่มีกติกาเริ่มต้นเหมือนกันทุกประการ ทั้งไพ่ในสำรับ 52 ใบ และแบ่งออกเป็น 4 หน้าเท่า ๆ กัน การออกไพ่เพื่อเป็นการวัดมือกันก็เหมือนเปี๊ยบ แต่ถ้าหากใครไม่เคยเล่นโป๊กเกอร์มาก่อนเลย ก็ต้องบอกว่ามันจะคล้าย ๆ กับเกมไพ่ที่วัดมือของผู้เล่น ไพ่ในมือใครใหญ่สุดก็ชนะในรอบนั้นไป เพียงแต่ว่าโป๊กเกอร์จะมีวิธีวัดมือที่ซับซ้อนขึ้นมาหน่อย อย่างป๊อกเด้งนั้นเราอาจจะดูแค่เพียงตัวเลขและพวกไพ่ J Q K ที่ประกอบกันสองถึงสามใบ แต่สำหรับโป๊กเกอร์จะมีทั้งแบบ 1 คู่, 2 คู่, ไพ่ตอง, เลขไพ่เรียงกัน 5 ใบ, ดอกของไพ่ในมือเหมือนกันหมด เป็นต้น
จากที่กล่าวไปก่อนหน้า หลายคนอาจจะรู้สึกงง แต่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เพราะตัวเกม Balatro จะมีข้อมูลพวกนี้ให้ผู้เล่นกดดูได้ตลอดเวลา เราจะทราบได้ว่าการเล่นไพ่แต่ละมือนั้นจะทำให้ได้คะแนนเท่าไหร่ สามารถเลือกเล่นแบบไหนได้บ้าง ดังนั้นช่วงแรก ๆ แนะนำให้เปิดดูบ่อย ๆ แล้วจะงงน้อยลงเอง
ทั้งนี้ทั้งนั้น ปกติแล้วการเล่นโป๊กเกอร์จะเป็นการวัดมือกันระหว่างผู้เล่นในวง แถมยังมีการเลือกสู้ เลือกถอย หรือเทหมดหน้าตัก แต่ใน Balatro นี้จะมีเราซึ่งเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ต้องเล่นแต่ละตาแล้วทำคะแนนให้ถึงเกณฑ์ที่ด่านนั้น ๆ กำหนดพอ ไม่ต้องมานั่งปวดหัวว่าจะสู้หรือหมอบอะไรพวกนั้นเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญคือสังเกตฝั่งซ้ายมือที่เป็นคะแนนด้านบน รวมไปถึงด้านล่างที่เขียนว่า Hands ซึ่งสองจุดนี้มันคือจำนวนคะแนนที่ผู้เล่นต้องทำให้ถึง ภายใต้จำนวนตาเล่นหรือเทิร์นที่เหลืออยู่นั่นเอง เป้าหมายหลักของเกมก็คือแค่นี้เลย ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้
ในด่านแรก ๆ เราอาจจะเจอจำนวนแต้มที่ไม่ได้สูงมากนัก อย่างด่านแรกสุดก็แค่ 300 คะแนน ถ้าหากเราเล่นแบบมือเน่าๆ อย่างเช่น 1 คู่ หรือ 2 คู่ ด้วยจำนวนเทิร์นทั้งหมดที่เรามีก็จะทำคะแนนให้ถึง 300 ได้ไม่ยาก เนื่องจากการคิดคะแนนนั้นจะบวกเพิ่มตามหน้าไพ่เลยครับ อย่าง Ace สูงสุดคือ 11 พวก J Q K ก็ 10 ส่วนที่เหลือ ก็ตามตัวเลขหน้าไพ่เลย แต่ด่านหลังๆ จำนวน score ที่เราต้องทำนั้นจะสูงขึ้น สูงขึ้นมากๆ เป็นแสนแต้ม หรือเป็นล้านแต้มเลยก็ยังมี แถมด่านที่ 3 ของแต่ละรอบ จะเป็นด่านบอส ก็จะมีเงื่อนไขทำให้เราเล่นยากขึ้น เช่นจั่วแล้วคว่ำไพ่ หรือไม่คิดคะแนนให้กับไพ่ที่เป็นข้าวหลามตัดเป็นต้น
ทีนี้ ถ้าหากเราเล่นไปจนถึงด่านหลังๆ แล้วจะทำคะแนนให้สูงได้อย่างไร ในเมื่อการนับคะแนนจากหน้าไพ่สูงสุดก็มีเพียงใบละ 11 แต้ม สมมติว่าเรามือเทพเล่น straight flush ได้ ซึ่งจะได้คะแนน 100 x 8 บวกหน้าไพ่สูงสุดที่มีก็จะได้ราวๆ 1200 คะแนนเท่านั้น แต่ด่านหลังๆ คะแนนที่ต้องทำถึงมีเหยียบแสน และจำนวนเทิร์นที่มีเพียง 4 – 5 เทิร์นโดยเฉลี่ย ยังไงก็ไม่มีทางทัน คำตอบนั้นจะอยู่ที่ไพ่ Joker เป็นหลักนั่นเองครับ
ทุกครั้งที่เราเอาชนะมาได้แต่ละด่าน ตัวเกมจะพาเราเข้าไปที่ร้านค้า ให้เราได้เลือกซื้อไพ่อัพเกรด 3 อย่าง อย่างแรกคือ ไพ่ Tarot ที่เอามาบัฟไพ่ในเด็คของเราได้ เช่น เปลี่ยนการ์ดที่เราเลือกให้คูณคะแนนมากขึ้น หรือบวกคะแนนอีกครั้ง ถัดมาคือการ์ด Planet หรือพวกดวงดาว การ์ดเหล่านี้จะช่วยเพิ่มเลเวลการคิดคะแนนให้กับไพ่แต่ละมือ เช่น การเล่นเรียง 5 ใบหรือ Straight ที่เลเวล 1 มันคือ 30 x 4 ก็จะกลายเป็น 32 x 6 อะไรแบบนั้น และสุดท้ายคือไพ่โจ๊กเกอร์ ซึ่งถือเป็นคีย์หลักของเกม ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถทำคะแนนเป็นหมื่นเป็นแสนได้ เพราะไพ่โจ๊กเกอร์นั้นจะเป็นไพ่ประเภทเดียวครับที่มีระดับความหายากตั้งแต่ Common, Uncommon และ Rare โดยไพ่โจ๊กเกอร์แต่ละใบก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน และผู้เล่นก็สามารถพกโจ๊กเกอร์ไปได้เบื้องต้น 5 ใบ ถ้าหากไพ่โจ๊กเกอร์เหล่านี้ทำคอมโบกันได้ คะแนนหลังจากเราเล่นก็จะทวีคูณตามคุณสมบัติของโจ๊กเกอร์ทุกใบเลย
ทีนี้ ถามว่าตัวเกมมันดียังไงถึงมีคะแนนรีวิวสูงลิบลิ่ว แถมยังเข้าชิงรางวัลหลายเวทีหลายสาขา ก็ต้องบอกว่าความสนุกของเกมนี้ก็คงเป็นเรื่องของรูปแบบการเล่นที่เป็นโร้กไลค์ผสม Deck Builder ครับ เพราะแต่ละรอบที่เราเล่นจะได้คอมโบมาไม่ซ้ำกัน จริง ๆ แล้วรูปแบบนี้ก็มีหลายเกมที่คล้ายกันอยู่บ้าง ถ้าเป็นเกมที่ดังหน่อยก็คงเป็น Slay the Spire เพียงแต่ Balatro นั้นมันไม่ได้มีรูปแบบเป็นเกม RPG แฟนตาซีอะไร มันคือการตัดสินใจของผู้เล่นในการเลือกไพ่โจ๊กเกอร์หรือการอัพเกรดอื่น ๆ เพื่อทำให้สำรับของเราแข็งแกร่งที่สุด และเอาชนะคะแนนที่ถูกกำหนดมาภายใต้ข้อจำกัดที่เรามี และถ้าหากเราเอาชนะได้ ความภาคภูมิใจที่เกิดขึ้นก็คงใกล้เคียงการเอาชนะบอสในเกมตระกูล Souls ได้เหมือนกัน
ความสนุกความฟินของการได้มองตัวเลขเด้งทวีคูณเป็นคอมโบนั่นละครับคือความเพลินที่ทำให้ผู้ที่เล่นเกมนี้วางไม่ลง การเล่นแต่ละรอบที่ไม่ซ้ำซากจำเจ เพราะสามารถเปลี่ยนได้ทั้งสำรับและไพ่โจ๊กเกอร์ใหม่ ๆ ที่ปลดล็อคมา แถมการออกแบบทุกอย่างภายในเกมนั้นมันทำให้ผู้เล่นสะดวกสบาย และสนุกได้แม้จะไม่ได้รู้กติกาของไพ่โป๊กเกอร์เลยแม้แต่น้อย ความเพลินจนลืมเวลาของตัวเกมทำให้ผู้เล่นติดงอมแงม และอยากจะเล่นมันอยู่เรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
สุดท้าย ทีมงานคงไม่กล้าฟันธงว่าเกมนี้จะเหมาะกับทุกคนครับ แต่ถ้าหากใครอยากจะลองเกมอินดี้ที่เป็นกระแสเกมนี้ก็สามารถซื้อมาลองบน Steam ก่อน โดยใช้เวลาแค่ไม่เกิน 1 ชั่วโมงคุณก็จะรู้ตัวแล้วครับว่าติดหรือไม่ติด เพราะรูปแบบการเล่นและวัตถุประสงค์ของเกมคือมีตามที่อธิบายไปเท่านั้น ซึ่งถ้าไม่สนุก รู้สึกไม่เหมาะกับตัวเอง ก็รีฟันด์ได้เลย แต่หากคุณเล่นแล้วเพลิดเพลิน ติดใจ ก็ขอยินดีต้อนรับครับ เกมนี้อาจจะไม่ใช่เกมที่ให้อารมณ์ร่วมหรือความอินมากนักถ้าเทียบกับเกมระดับ AAA แต่ความเพลินเกินห้ามใจนั้นทะลุปรอทแน่นอน
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station