รีวิวหนัง Venom: The Last Dance – ปิดตำนานกันไปอย่างขลุกขลัก

สิ่งที่ดีที่สุดของภาพยนตร์ชุด Venom ก็คือการได้เฮฮาบ้าบอไปกับคู่หู Venom และ Eddy ซึ่งพร้อมสร้างวีรกรรมฉิบหายวายป่วงได้ทุกที่ทุกเวลาบนโลกใบนี้ และหลังจากผ่านการผจญภัยด้วยกันมา 3 ภาค ผมก็ยิ่งเชื่อสนิทใจว่าที่หนังภาคแรกสามารถกวาดรายได้แบบถล่มทลายก็เป็นเพราะเคมีของทั้งคู่นี้แหละ เพราะนอกจากพาร์ทของพวกเขาแล้ว ส่วนอื่นๆ ที่ถูกเติมเข้ามาก็ล้วนแล้วแต่กลายเป็นปัจจัยให้หนังของพวกเขานั้น หลงทาง ไม่กลมกล่อม และเป็นอะไรที่ชวนให้ทอดถอนใจอยู่ไม่น้อย

Venom: The Last Dance จะดำเนินเรื่องต่อจากภาคก่อนที่พวกเขาถูกดึงไป MCU อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถูกส่งกลับมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่รู้ว่าจะถูกต่อยอดอะไรรึเปล่า แต่กลับมาปุ๊บเรื่องก็มาปั๊บ เพราะพวกเขาจำต้องฟนีการตามล่าจากภาครัฐ รวมถึงผู้สร้างซิมไบโอตอย่าง Knull ที่ก็ส่งลูกสมุนสุดแกร่งมาตามล่าเช่นกัน โดยเรื่องราวทั้งหมดจะขมวดสู่การปิดตำนานของ Venom ในภาคนี้ตามที่เขาโปรโมตไว้นั่นแหละครับ (แต่จะปิดตำนานซิมไบโอตตัวอื่นไปด้วยรึเปล่าก็ไม่ได้มีบอกอะไรไว้)

แม้เรื่องย่อและพล็อตคร่าวๆ จะเป็นอะไรที่สูตรสำเร็จมากๆ แต่เพราะว่ามันสูตรนี่แหละ เลยทำให้ผู้ชม หรืออย่างน้อยก็ผมนี่แหละที่รู้สึกว่ามันสามารถเป็นหนังสนุกมันส์ๆ เรื่องหนึ่งได้ แต่ขนาดลดความคาดหวังไประดับนั้น ก็ยังรู้สึกว่าสิ่งที่หนังพยายามมอบให้มันยังไม่สุดเลย

อย่างที่ผมบอกไปแต่ต้นบทความว่าสิ่งที่ดีที่สุดของหนังชุดนี้คือ Venom และ Eddy และมันอาจจะดีกว่านี้มากถ้าโฟกัสไปยังการปิดฉากของทั้งคู่ แต่แม้จะเป็นสิ่งดีที่สุดก็ยังหลุดฟอร์ม แม้จะมี Vibe ให้ขำก๊ากบ้าง แต่รู้สึกได้ว่าไดอาล็อกทั้งคู่ภาคนี้ไม่ค่อยเข้าปาก มุกที่ยิงออกมาก็ไม่ลงล็อก ฮาแบบมียั้งๆ มันส์แบบไม่สุด ทั้งเรื่องมีช็อตให้ Venom โชว์เหนือแค่ตอนสู้กับนักเลงปลายแถวตอนต้นเรื่อง นอกจากนั้นก็แทบไม่มีช็อตขายเลย

นอกจากเคมีคู่เอกที่ดรอปลงเพราะพยายามจะเน้นซึ้งให้มากขึ้น ตัวหนังยังเหมือนพะว้าพะวงกับซิมไบโอตอื่นๆ รวมไปถึงการเปิดตัว Knull ที่ดูจะพยายามให้มีอะไร แต่ก็ไม่มีอะไรอยู่ดี หนังดูกั๊กๆ งกๆ เงิ่นๆ จะปล่อยของแต่ก็ขมิบไว้ เป็นความอึดอัดที่เรารู้สึกตลอดการดูว่าเฮ้ย ภาคสุดท้ายแล้ว จัดหนักหน่อยจะเป็นไร มีอะไรก็โชว์ของออกมาสิ

แต่ที่หงุดหงิดที่สุดคือเอเลเมนต์ของฉากและตัวละครประเภท “มีไปทำไม มีไปแล้วได้อะไร?” เยอะแยะจนยากจะมองข้าม คือให้ซีน ให้บท แต่แทบไม่ส่งอะไรต่อเนื้อเรื่องหรือไคลแมกซ์ในองค์สุดท้าย ที่จะดีจะร้ายก็ต้องเป็นคู่หูตัวเอกมาปิดอยู่ดี

หนังมากระเตื้องขึ้นในช่วงองค์สุดท้าย ที่อยู่ในเฟสระบายของที่คุ้มค่าขึ้นมาในแง่ของการเข้าโรงไปดูหนังฟอร์มยักษ์ขึ้นมาหน่อย โดยเฉพาะแล้วกับผู้ที่ดูโรง IMAX ที่ช่วงท้ายจะมีภาพขยายให้เต็มจอเบิ้มๆ แบบหลายสิบนาที ให้ดูความวินาศสันตะโรกันแบบเต็มตาจุใจกันไปเลย เพราะทุกสิ่งอย่างที่หนังปูไว้จะมาขมวดปมและนัวกันจัดๆ ในองค์สุดท้าย แต่ถึงอย่างนั้นเราก็อีกนั่นแหละ แม้ไม่อาจเรียกว่ากั๊ก แต่เราก็ยังรู้สึกว่าช่วงท้ายมันไปได้มากกว่านี้อยู่ดี กลายเป็นแม้แต่ช่วงที่สนุกที่สุดของภาพยนตร์ก็ยังไม่อาจไปถึงบาร์ที่เราเซ็ตไว้ แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้สูงอะไรเลยก็ตาม เพราะเราขอแค่แอคชั่นสนุกๆ และเซอร์วิสถึงใจเพื่อปิดไตรภาคอย่างน่าจดจำแค่นั้นเอง