ภายในงาน Gamescom Asia 2024 ณ ประเทศสิงคโปร์ ที่ทาง Online Station ได้รับเชิญจาก Capcom ให้ไปร่วมงานนั้น หนึ่งในช่วงสำคัญของอีเวนต์ก็คือการได้เข้าสัมภาษณ์ทีมผู้พัฒนาเกม Street Fighter 6 ได้แก่คุณทาคายูกิ นาคายามะ (Takayuki Nakayama) ตำแหน่งผู้กำกับ และคุณชูเฮย์ มัตสึโมโตะ (Shuhei Matsumoto) ตำแหน่งโปรดิวเซอร์ โดยเป็นการถาม-ตอบถึงหลาย ๆ ประเด็น ไม่ว่าจะเป็นทิศทางของเกมในอนาคต รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่จะเพิ่มเข้ามาอีกหลังเกมวางขายมาแล้วปีเศษครับ
(ล่าง) คนซ้ายมือคือคุณทาคายูกิ นาคายามะ ผู้กำกับของเกม ส่วนคนขวาคือคุณชูเฮย์ มัตสึโมโตะ โปรดิวเซอร์ของเกม
Q: อะไรคือความท้าทายที่สุดในแง่ของการสร้างนวัตกรรมใหม่ลงในเกม Street Fighter 6 ขณะที่ยังต้องคงตัวตนของซีรีส์ Street Fighter เอาไว้ครับ?
A: มันไม่ได้ท้าทายอะไรนักหรอกครับ คือมันก็ยากมากแหละ แต่สิ่งที่เราโฟกัสกันจริง ๆ ตอนทำเกม Street Fighter ภาคล่าสุดคือ ที่ผ่านมาเกมนี้จะโฟกัสไปที่การต่อสู้เป็นหลัก แต่ภาค 6 จะโฟกัสอย่างอื่นควบคู่กันไป ให้ผู้เล่นสามารถสนุกไปกับเกมได้โดยไม่จำเป็นต้องไปขลุกที่ส่วนของการต่อสู้อย่างเดียว อีกทั้งการมุ่งให้ความสำคัญกับประสบการณ์การใช้แต่ละตัวละครกับเรื่องราวของเกมจะช่วยมอบประสบการณ์อันดีเยี่ยมในการเล่นเกมแก่ผู้เล่นโดยไม่จำเป็นต้องต่อสู้ตลอดเวลาด้วย
Q: เมื่อเร็ว ๆ นี้คุณเพิ่งจะประกาศเพิ่มตัวละครจากเกมซีรีส์ Fatal Fury เข้าไป อยากทราบว่าคุณมีการตัดสินใจยังไงว่าจะเอาตัวละครไหนใส่เข้ามาในเกม เหตุผลหรือหลักการในการตัดสินใจนั้นคืออะไร?
A: สำหรับการนำตัวละครประเภทคอลแลบส์มาใส่ในเกม Street Fighter 6 โดยเฉพาะตัวละครที่มาจาก Fatal Fury เช่น เทอร์รี่ (Terry) กับ ไม (Mai) นั้น ก็เพราะว่าผู้สร้างเกม Street Fighter ภาคแรกกับคนสร้างเกมซีรีส์ Fatal Fury นั้นเป็นคนเดียวกันครับ หรือจะเรียกว่าซีรีส์ Street Fighter กับ Fatal Fury มีประวัติศาสตร์ใกล้ชิดกันมากก็ว่าได้ แถม Capcom กับ SNK ก็ยังมีสำนักงานตั้งอยู่ในจังหวัดโอซาก้าเหมือนกัน มันเลยไม่ใช่แค่เพียงว่าสองซีรีส์นี้มีผู้สร้างคนเดียวกัน มีสำนักงานอยู่ในจังหวัดเดียวกัน หากแต่ผู้พัฒนาเกมทั้งสองซีรีส์ต่างก็เป็นเพื่อนที่ดีและใกล้ชิดกันมาก ๆ ในวงการด้วย เหตุนี้การมาร่วมคอลแลบส์กันเลยช่วยกระตุ้นความน่าตื่นเต้นและความรักที่ผู้พัฒนามีให้กับเกมทั้งสองซีรีส์ แล้วมาแบ่งปันร่วมกับแฟน ๆ ครับ
Q: เห็นว่าในรอบปีนี้มีทัวร์นาเมนต์แข่งเกมที่จัดขึ้นโดยเหล่าครีเอเตอร์ ซึ่งบรรดาผู้เข้าแข่งขันก็ไม่ใช่ผู้เล่นระดับมืออาชีพด้วย อยากทราบว่าคุณมีความเห็นอย่างไรกับการที่ผู้เล่นระดับมือสมัครเล่นมาร่วมสนุกกันในการแข่งขันทุกระดับชั้นครับ?
A: ก่อนอื่นเลย คุณนาคายามะกับคุณมัตสึโมโตะมองว่ามันเยี่ยมมากที่บรรดาครีเอเตอร์เข้ามาร่วมแจมในวัฒนธรรมเกมต่อสู้ และช่วยให้เกมเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดมาแล้วกับช่วงท้ายของยุค Street Fighter 5 และทีมงานก็แฮปปี้ที่มันเกิดขึ้นได้และหวังว่าจะทำให้กระแสของเกมแผ่ขยายไปไกลกว่านี้ได้อีกในภาค 6 แถมอีกสิ่งหนึ่งที่เขาสังเกตเห็นก็คือมีผู้เล่นระดับโปรเข้ามาร่วมเอนจอยกับงานแข่งที่จัดโดยครีเอเตอร์ ทำให้ผู้คนได้พบและเรียนรู้ว่าผู้เล่นระดับสูงเขาเล่นกันอย่างไร ขณะที่ครีเอเตอร์ก็สามารถนำความรู้ตรงนี้มาทำคอนเทนต์เพื่อสร้างประโยชน์ได้ด้วย กลายเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับคอมมูนิตี้เกมต่อสู้ที่มอบประสบการณ์ที่ดีกับผู้เล่นทุกระดับครับ
Q: ทีมงานมีส่วนร่วมอย่างไรกับการที่ตัวละคร Ken กับ Chun-Li ไปแจมอยู่ในเกม Fatal Fury: City of the Wolves และพอไปอยู่ในเกมดังกล่าวแล้วมันจะเหมือนหรือต่างกับตัวที่อยู่ใน Street Fighter 6 อย่างไรบ้าง?
A: อย่างแรกเลยคือ SNK เป็นผู้ตัดสินใจเลือก Ken กับ Chun-Li ลงไปในเกมนั้นเอง ขณะเดียวกัน ทีมงานที่ทำ Street Fighter ก็คอยช่วยเหลือในด้านการให้คำปรึกษาและหารือกัน เพื่อให้ทั้ง Ken กับ Chun-Li ที่ไปโผล่ในเกมอื่นมีความตรงกับต้นฉบับให้มากที่สุด และก็ต้องให้แน่ใจด้วยว่าทั้งคู่จะเฉิดฉายในเกม Fatal Fury: City of the Wolves และเข้ากันได้กับโลกของเกมนั้น ให้เกิดเสน่ห์และสร้างความพึงพอใจต่อแฟนเกมทั้งสองซีรีส์ให้มากที่สุด
Q: เสียงตอบรับของแฟน ๆ ในฝั่งของวงการอีสปอร์ตระดับอาชีพนั้นมีส่วนช่วยขัดเกลาการพัฒนาเกม Street Fighter อย่างไรบ้าง?
A: จะบอกว่าไทม์ไลน์ของช่วงพัฒนาเกมกับช่วงที่อีสปอร์ตมันเกิดนั้นห่างกันเยอะครับ คือต่อให้มันมีอะไรเกิดขึ้นในคอมมูนิตี้ ณ ช่วงเวลานั้น มันก็มักจะสายเกินไปมาก ๆ แล้วที่จะส่งผลกับตัวเกม เนื่องจากเกมได้ถูกพัฒนาเสร็จไปแล้ว ด้วยเหตุนี้ทีมงานจึงไม่ได้ลงมาดูว่าผู้เล่นระดับมืออาชีพเขาพูดว่าอย่างไร หรือคอมมูนิตี้ผู้เล่นระดับมืออาชีพบอกว่าอย่างไร สิ่งที่ทำเลยมีเพียงการเข้ามาส่องดูในโซเชียลมีเดียเพื่อดูความเห็นของทุกคน ทุกกลุ่ม ไม่จำกัดแค่ผู้เล่นระดับมืออาชีพ ก็จะพบกับคนที่แจ้งปัญหาบั๊กที่เกิดขึ้นในเกม เมื่อทีมงานมาเห็นก็ปรับแก้กันไป เพื่อให้เกมมีคุณภาพที่ดีที่สุดครับ
Q: ตอนที่คุณตัดสินใจนำตัวละครเก่ากลับมา คุณมีการให้ความสำคัญกับความเข้ากันได้ของตัวละครเหล่านั้นกับโครงสร้างของเกม Street Fighter ยุคปัจจุบันหรือเปล่า? หรือว่าคุณมีการให้ความสำคัญกับความนิยมของตัวละครเพื่อนำมาต่อยอดเรื่องราวในเกม หรือคุณให้ความสำคัญกับประเด็นไหนมากกว่ากัน?
A: เวลาเราต้องนำทั้งสองสิ่งมาเปรียบเทียบกัน ระหว่างตัวละครกับเมคานิกของเกม ทีมงานจะเอนไปทางการให้ความสำคัญกับตัวละครมากกว่า โดยจะดูว่ามันเมคเซ้นส์มั้ยกับการนำตัวละครนั้นกลับมา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของไทม์ไลน์เนื้อเรื่อง เรื่องราวปูมหลัง และความนิยมของตัวละครที่ว่า เพราะว่าแต่ละตัวละครนั้นสามารถนำมาปรับแก้กันได้เพื่อประยุกต์เข้ากับบาลานซ์ของเกมภาคใหม่ ดังนั้นถ้าให้เทียบกัน ทีมงานจึงให้ความสำคัญกับตัวละครมากกว่าเมคานิกครับ
Q: เป็นเวลาปีกว่าแล้วนับตั้งแต่เกม Street Fighter 6 วางขายไป ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานี้กระแสตอบรับจากผู้เล่นเป็นไปตามที่คุณคาดหวังมั้ย?
A: เราอยากจะบอกว่าทีมผู้พัฒนารู้สึกขอบคุณกับกระแสตอบรับดี ๆ ที่บรรดาผู้เล่นมีให้กับเกมนี้ เพราะว่าทีมงานเองก็ตั้งใจทำงานกันเต็มที่เพื่อให้เกมทุกภาคที่ออกมาเป็นภาคที่ดีที่สุดอยู่เสมอ อีกทั้งพยายามจะเพิ่มคอนเทนต์หรือโหมดใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อดึงผู้เล่นหน้าใหม่ให้หันมาสนใจเกมนี้ และมีอยู่สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างจะเหนือความคาดหมายคือปกติแล้วซีรีส์ Street Fighter จะได้รับความนิยมในฝั่งสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปมากกว่าเอเชีย แต่พอมาเป็นภาค 6 กระแสความนิยมจากญี่ปุ่นและเอเชียกลับพุ่งขึ้นสูงมากเช่นกัน จะบอกว่ามากกว่าที่ภาคก่อน ๆ เคยได้รับมาเลยก็ว่าได้ ซึ่งทีมงานแฮปปี้ในจุดนี้ครับ
Q: เรารู้สึกประหลาดใจนะที่ได้เห็นตัวละครรับเชิญอย่างเทอร์รี่กับไมถูกใส่เข้ามาในเกมภาค 6 เช่นนี้แล้วในคอนเทนต์ซีซั่นถัดไปเราจะมีโอกาสได้เห็นตัวละครอย่าง Mike Haggar (จากซีรีส์ Final Fight) หรือใครสักคนจากซีรีส์ Darkstalkers บ้างมั้ย?
A: ปกติแล้วผู้กำกับและโปรดิวเซอร์จะเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ ซึ่งถ้าเขาไม่เจอใครที่อยู่ในตำแหน่งสูงกว่าเข้ามาแทรกแซงก็จะเลือกนำตัวละครจากซีรีส์ Street Fighter เข้ามาเป็นหลักครับ นั่นก็เป็นเพราะความรักที่พวกเรามีต่อซีรีส์นี้ ทว่าในความเป็นจริงมันมีตัวละครอีกเป็นจำนวนมากที่เราอยากนำกลับมาปรากฏตัวแต่ไม่อาจทำได้ แต่บอกได้แค่ว่าถ้าทีมงานจะนำตัวละครไหนกลับมา จะต้องเป็นตัวละครจาก Street Fighter แน่นอนครับ
Q: พักหลังทาง Capcom มีการนำเกมคลาสสิกกลับมามากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Marvel vs. Capcom แน่นอนครับว่าเราเองก็ตื่นเต้นที่ได้ทราบเรื่องนี้ อยากทราบว่าทีมงานมีแผนที่จะนำเกมคลาสสิกอื่น ๆ หรือเกมที่แฟน ๆ โหยหากลับมาเพิ่มอีกมั้ยครับ?
A: ฝั่งของทีมงานที่ทำ Street Fighter นี้ พวกเขาล้วนมีความรักในเกมแนวต่อสู้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งก็รวมถึงทุกเกมในอดีตที่ Capcom เคยทำมาด้วย ในฐานะที่คุณมัตสึโมโตะเป็นโปรดิวเซอร์ก็อยากจะนำทุกเกมในอดีตกลับมาทำใหม่หากเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องพวกนี้มันมีข้อจำกัดของมันและจำเป็นต้องผ่านการพิจารณาหลายขั้นตอน ทั้งด้านความเหมาะสมและเรื่องของฮาร์ดแวร์ที่จะนำเกมไปลง ตรงส่วนนี้เรากำลังนำเกมพวกนั้นกลับมาทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในจำนวนนี้ก็มีพวกเกมที่ไม่สามารถหาเล่นได้ในยุคนี้ด้วย
Q: เกมภาค 6 มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ตัวละครใหม่ ๆ เมคานิกใหม่ ๆ เข้ามามากมาย อยากทราบว่าคุณมีแผนจะเพิ่มอะไรเข้าไปอีกหรือไม่ จะมีการเพิ่มเมคานิกเข้าไปในเกมเพื่อเสริมความแน่นด้านเกมเพลย์เป็นการเฉพาะหรือเปล่า?
A: ที่ทางเราใส่เพิ่มไปมันก็เยอะแล้วครับ เกรงว่าหากเพิ่มไปอีก คงเป็นการยากสำหรับผู้เล่นที่จะจัดสมดุลกับทุกอย่างที่กองอยู่ตรงหน้าเขาได้ เอาเป็นว่าคงยังไม่มีอะไรเพิ่มมาอีกแบบในทันที แต่เราก็จะไม่ตัดความเป็นไปได้เหล่านั้นออกไป เราอาจจะเพิ่มเข้ามาในอนาคต แต่คงไม่ใช่ในอนาคตอันใกล้ครับ
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station