รีวิวเกม Silent Hill 2 – อีกหนึ่งเกมรีเมคที่ทำได้ดีกว่าที่คิด

Silent Hill 2

ฟังดูอาจจะเหลือเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อครับว่าเกมตระกูล Silent Hill นั้นไม่มีการทำภาคใหม่ออกมาให้พวกเราได้เล่นกันเลยนับตั้งแต่ภาคล่าสุดอย่าง Silent Hill: Downpour วางขายไปเมื่อปี 2012 กระทั่ง Konami ได้ตัดสินใจนำเกม Silent Hill 2 กลับมารีเมคอีกครั้ง พร้อมกับมอบหมายให้ Bloober Team สตูดิโอเกมที่ไม่เคยมีผลงานทำเกมระดับ AAA มาก่อนมากุมบังเหียนของโปรเจกต์นี้อีกต่างหาก ซึ่งนับว่าเสี่ยงไม่น้อย แต่ถึงกระนั้น เกมจะดีหรือไม่ เราต้องเล่นเองให้ประจักษ์กันถึงคุณภาพกันเสียก่อน และในบทความรีวิวนี้น่าจะช่วยเพื่อน ๆ ในการประกอบการตัดสินใจได้มากขึ้นครับ

แนวเกม: แอ๊กชั่น/ผจญภัย/สยองขวัญ
ผู้พัฒนา: Bloober Team
วันวางจำหน่าย: 8 ตุลาคม 2024
แพลตฟอร์ม: PS5, PC (ทีมงานรีวิวจากบน PS5)


พล็อตของเกม Silent Hill 2 เวอร์ชั่นรีเมคมีการปูเนื้อหาช่วงเริ่มต้นเหมือนเวอร์ชั่นออริจินัลทุกประการ โดยกล่าวถึง เจมส์ ซันเดอร์แลนด์ (James Sunderland) ชายหนุ่มที่เดินทางมายังเมืองไซเลนท์ ฮิลล์ (Silent Hill) หลังจากได้รับจดหมายจากแมรี่ ภรรยาของเขาที่เสียชีวิตไปเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งนอกจากเป้าหมายหลักในเกมที่เราต้องตามหาแมรี่ให้พบแล้ว ระหว่างที่เกมดำเนินไป ผู้เล่นก็จะค่อย ๆ คลายปมปริศนาที่ผูกเรื่องราวทั้งหมดทีละนิดด้วย

ปกติแล้ว เกมที่เป็นเวอร์ชั่นรีเมคมักจะเลือกแนวทางในการทำอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ แบบแรกคือการรีเมคโดยอิงองค์ประกอบเดิม ๆ ของเวอร์ชั่นออริจินัลมาทั้งดุ้น จะมีปรับก็เพียงกราฟิกที่ใช้เอนจิ้นยุคปัจจุบัน และการควบคุมตัวละครตามสมัยนิยมเท่านั้น กับอีกแบบคือการรีเมคโดยดึงองค์ประกอบหรือเค้าโครงเดิมจากออริจินัลมาแค่ตัวแกน แล้วไปปรับเปลี่ยนตรงรายละเอียดปลีกย่อยหลายอย่างแทน ซึ่ง Silent Hill 2 เวอร์ชั่นรีเมคนี้เป็นแบบหลังครับ

ก่อนอื่นเลยก็เริ่มจากบรรดาคัตซีนในเกมที่มีการปรับปรุงบทพูดของทุกตัวละครใหม่หมด รวมทั้งเพิ่มคัตซีนใหม่ ๆ เข้ามาประปราย แถมบางคัตซีนก็มีการเปลี่ยนสถานที่เกิดไปจากเวอร์ชั่นออริจินัล และที่เห็นได้ชัดที่สุดคือการนำเทคโนโลยีโมชั่นแคปเจอร์มาใช้ ทำให้ตัวละครแสดงสีหน้า อากัปกิริยาและออกแอ๊กชั่นต่าง ๆ ได้สมจริงและสามารถอินไปกับตัวละครได้ไม่ยาก โดยเฉพาะเจมส์ในเวอร์ชั่นรีเมคที่ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาดีมาก ดูเหมือนเป็นคนที่มีปมในใจอะไรบางอย่าง ผสมผสานกับการใช้ชั้นเชิงการเล่าที่แม้แต่ผู้ที่เคยเล่นเวอร์ชั่นออริจินัลมาแล้วก็ยังรู้สึกว่ามันสดใหม่อยู่

อนึ่ง การสำรวจเมืองในเกมก็มีการเพิ่มลูกเล่นเข้ามาเช่นกัน โดยเวอร์ชั่นรีเมคนี้ผู้เล่นจะสามารถพังกระจกรถที่จอดนิ่งอยู่ตามทางหรือพังกระจกร้านค้าเพื่อเก็บไอเทมที่ซ่อนอยู่ในนั้นได้ อีกทั้งระบบแผนที่ก็เพิ่มความละเอียดเข้ามามากกว่าเดิม เวลาผู้เล่นไปเจอปริศนาหรือแม้แต่ค้นพบคำใบ้ในการไขปริศนามาแล้ว เจมส์จะทำการจดทุกอย่างลงบนแผนที่ให้หมด จากเดิมในเวอร์ชั่นออริจินัลที่เจมส์จะมาร์คเพียงแค่เครื่องหมาย “?” หรือ “!” เพื่อเตือนความจำเราเท่านั้น ทว่าการดูแผนที่ในเวอร์ชั่นรีเมคจะเป็นแบบเรียลไทม์ ศัตรูสามารถเข้ามาโจมตีเราได้หากเรามัวยืนอ่านแผนที่แบบไม่ดูตาม้าตาเรือครับ

ถัดมาเป็นเรื่องของระบบการต่อสู้ในเวอร์ชั่นรีเมค การโจมตีระยะประชิดจะได้อิทธิพลมาจากเกมภาค Downpour เป็นหลัก ผู้เล่นจะใช้วิธีเข้าไปกระหน่ำตีกันดื้อ ๆ แบบเวอร์ชั่นออริจินัลไม่ได้แล้ว โดยจะมีปุ่มหลบที่ผู้เล่นต้องคอยกดให้ถูกจังหวะ พอตีศัตรูไปสัก 1-2 ที พวกมันจะพยายามโยกหลบและหาทางสวนเราคืนตลอด ฉะนั้นการจะปราบศัตรูแต่ละตัวด้วยอาวุธระยะประชิดเลยต้องเน้นมากขึ้น เพราะหากบุกแบบส่งเดชมีแต่จะเจ็บตัวกลับมาฟรี ๆ และสิ้นเปลืองไอเทมฟื้นพลังโดยใช่เหตุด้วย แต่ตัวเกมเองก็พยายามไม่ทำมาให้ยากจนเกินไป เนื่องจากขณะที่ตัวละครเจมส์ออกแอ๊กชั่นหลบนั้นแทบจะปลอดภัยจากการโจมตีแทบจะ 100% เลยทีเดียวแม้จะยังอยู่ในระยะโจมตีของศัตรูก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้น พวกศัตรูก็จะมีลูกเล่นแพรวพราวขึ้นระดับหนึ่ง ศัตรูบางชนิดสามารถยืนนิ่ง ๆ ตีเนียนเป็นหุ่นโชว์แล้วรอดักทำร้ายเราเวลาเดินผ่านได้ หรือบางชนิดเวลาถูกเราตีจนปางตายก็จะระเบิดตัวเองใส่ ขณะที่บางชนิดก็มีรูปแบบการโจมตีที่ไม่ตายตัว ทำให้เราเดาทางยากขึ้น

ตัวเกมมีให้เลือกระดับความยาก โดยความยากจะมีผลกับความโหดของศัตรูและความซับซ้อนของปริศนา ซึ่งตรงจุดนี้ยังคงเหมือนกับในเวอร์ชั่นออริจินัล ความยากที่สูงขึ้น คำใบ้ปริศนาก็จะน้อยลง ภาพรวมของปริศนาในเกมถือว่าท้าทายไหวพริบผู้เล่นดี หลาย ๆ ปริศนาต้องอาศัยความช่างสังเกต หรือการตีความคำใบ้ อันเป็นเอกลักษณ์ที่ Silent Hill ทำได้ละเมียดละไมมาตลอดในแทบทุกภาค

บรรยากาศเมืองหมอกในเกมทั้งโลกปกติและโลกสนิม (Otherworld) ทำออกมาได้สวยงามและสมจริงด้วยพลังของ Unreal Engine 5 รวมถึงงานออกแบบฉากที่ผู้เล่นสามารถสำรวจได้ทั่วถึงทั้งโซนตัวเมืองและในดันเจี้ยน ทว่าสิ่งที่ดูจะเป็นข้อเสียหลัก ๆ เลยคงหนีไม่พ้นปัญหาด้านการแสดงผล โดยเฉพาะในหลาย ๆ คัตซีนที่เฟรมเรตมีตกให้เห็นบ้าง ขนาดที่ว่าเล่นในโหมด Performance ที่เน้นเฟรมเรตแล้วก็ยังตกอยู่ รวมถึงช่วงที่มีศัตรูปรากฏตัวเยอะ ๆ ด้วย ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าในเวอร์ชั่นรีเมคนี้ พวกศัตรูที่เราจัดการไปแล้วสามารถฟื้นกลับมาได้แบบสุ่มเมื่อเวลาผ่านไปประมาณหนึ่ง ทีนี้พอเกมเลือกใช้วิธีที่ไม่ทำให้ศพศัตรูหายไปหลังตายเลย (เพื่อรอสุ่มฟื้น) น่าจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกมกินทรัพยากรไม่น้อยนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเกมเวอร์ชั่นรีเมคจะมีการเปลี่ยนรายละเอียดปลีกย่อยไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนโลเคชั่นของจุดเกิดคัตซีน หรือเปลี่ยนบางปริศนาเป็นอันใหม่ แต่เกมก็ยังมีการเคารพต้นฉบับอยู่ ด้วยการเปิดโอกาสให้เราได้สำรวจบางพื้นที่ที่มีความละม้ายคล้ายกับสถานที่ที่เคยปรากฏในเวอร์ชั่นออริจินัล ให้ผู้เล่นเห็นภาพแนวเดจาวู ชวนคิดถึงวันวานที่เคยสัมผัสเกมนี้เมื่อ 23 ปีก่อนอยู่เป็นระยะ และก็ยังมีความลับใหม่ ๆ ให้ผู้เล่นได้ค้นหาเพิ่มเติมเช่นกัน

เกมมีความยาวประมาณเกือบ 20 ชั่วโมงในกรณีที่ผู้เล่นพยายามสำรวจทุกซอกทุกมุม แต่อาจเหลือเพียงแค่ 10-12 ชั่วโมงสำหรับคนที่มุ่งไปจบอย่างเดียว หรือผันแปรตามทักษะในการเล่นของแต่ละคน ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่าหรือใหม่ การสำรวจพื้นที่อย่างละเอียดล้วนมีแต่ข้อดีและช่วยให้ได้ไอเทมไว้ลุยข้างหน้าอย่างเหลือเฟือ และความลับใหม่ ๆ ในถูกใส่เข้ามาในเวอร์ชั่นรีเมคก็ควรค่าแก่การตามเก็บด้วย

สรุป

จริงอยู่ที่ Bloober Team จะค่อนข้างมือใหม่กับการรับหน้าที่ดูแลหนึ่งในซีรีส์ระดับเรือธงของ Konami แถมเป็นภาคที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นภาคที่ดีที่สุดของซีรีส์ แต่พวกเขาก็พิสูจน์ให้เห็นกับเกมนี้แล้วว่าสามารถ “เอาอยู่” ซึ่งเกมมีการเข้าหาผู้เล่นที่เป็นแฟนเวอร์ชั่นออริจินัลเป็นทุนเดิม และผู้เล่นหน้าใหม่ไปพร้อม ๆ กัน ระบบสำรวจ การต่อสู้ และปริศนาในเกมถูกปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้นเท่าที่เทคโนโลยีปัจจุบันจะอำนวย โดยที่ไม่ไปลดทอนความสนุกของตัวเกมเดิม ใครกำลังมองหาเกมรีเมคดี ๆ มาเล่นช่วงปลายปีสักเกม ก็ขอแนะนำเกมนี้ไว้ให้เพื่อน ๆ พิจารณากันสักหน่อยแล้ว

หมายเหตุ – สิ่งที่ต้องบอกกล่าวกันก่อนสำหรับคนที่อยากจะเล่นเกม Silent Hill 2 เวอร์ชั่นรีเมคก็คือ เกมนี้มีการเล่นเนื้อหาเชิงจิตวิทยา และนำเสนอด้านมืดในส่วนลึกของจิตใจมนุษย์ รวมถึงสอดแทรกบางประเด็นที่อ่อนไหวพอสมควร ยิ่งรวมกับการพัฒนาและปรับปรุงการแสดงสีหน้าและแอ๊กติ้งของตัวละครที่สมจริง เลยอาจมีผลกระทบกับผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าหรืออาการ PTSD ได้ ดังนั้นผู้ที่มีภาวะดังกล่าวจึงควรมีเพื่อนหรือคนใกล้ชิดอยู่ด้วยขณะเล่นจะดีที่สุดครับ

Score 8.5/10


ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้